เลี้ยงตั๊กแตนปาทังก้า ต้นทุนต่ำ ใช้พื้นที่น้อย
ทั้งในอดีตและปัจจุบันตั๊กแตนยังคงเป็นแมลงที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นศัตรูตัวฉกาจอันดับต้นๆ ของชาวไร่ชาวนา ที่เข้ามาคอยกัดกินทำลายพืชผลทางการเกษตรให้เกิดความเสียหาย แต่ในทางกลับกันก็มีหลายคนมองเห็นช่องทางสร้างรายได้จากตั๊กแตนจำนวนไม่น้อย หรือจะพูดว่าเป็นการพลิกวิกฤตเป็นโอกาสก็ได้ เนื่องจากในปัจจุบันมีเกษตรกรหลายรายหันมาเอาดีด้านการเพาะขยายพันธุ์ตั๊กแตนสร้างรายได้กิโลกรัมละหมื่น แถมมีต้นทุนการเลี้ยงที่ต่ำ ใช้พื้นที่ไม่มากก็ทำได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น แนะนำให้เลี้ยงในปริมาณที่สามารถควบคุมได้ มีโรงเรือนปิดมิดชิด ไม่ให้สามารถออกไปทำลายพืชสวนไร่นาของเพื่อนบ้านได้
โดยพื้นฐานที่บ้านพ่อกับแม่เป็นเกษตรกรกันมาอยู่แล้ว แต่การทำเกษตรของที่บ้านจะเน้นปลูกพืชไร่คือ อ้อยและมันสำปะหลังเป็นหลัก แต่ตนเองไม่อยากทำแบบนี้ จึงเริ่มศึกษาการทำเกษตรจากยูทูบและกูเกิล จนเริ่มเกิดแรงบันดาลใจในการทำเกษตร และเริ่มลงมือทำจากการปลูกผักและผลไม้ก่อนเป็นอันดับแรก ถัดมาเมื่อการปลูกพืชลงตัวก็มีการขยับขยายเลี้ยงปศุสัตว์ ส่วนตั๊กแตนคือแมลงเศรษฐกิจตัวล่าสุดที่ทางฟาร์มนำมาเลี้ยงเพื่อสร้างรายได้
และเมื่อถามว่าทำไมถึงเลือกที่จะเลี้ยงตั๊กแตน เจ้าของฟาร์ม อธิบายเพิ่มเติมว่า เกิดขึ้นจากที่เมื่อก่อนตั๊กแตนที่เกษตรกรรู้จัก จะรู้จักในนามของแมลงศัตรูพืช ตนเองจึงไม่ได้สนใจ แต่มีอยู่วันหนึ่งเห็นทีวีหลายช่องนำเสนอเรื่องการเลี้ยงตั๊กแตนสร้างรายได้ ตรงนี้เป็นจุดที่ทำให้ประหลาดใจว่าทำไมผลผลิตที่เกิดจากตั๊กแตนมีราคาค่อนข้างสูง อย่างราคาของไข่ตั๊กแตนในตอนนั้นขายในราคากิโลกรัมละ 10,000 บาท หรือตัวของตั๊กแตนที่นำมาทอด ก็ขายได้ในราคากิโลกรัมละ 500 บาท จึงเริ่มศึกษาการเลี้ยงตั๊กแตนว่ามีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง และได้ค้นพบว่าตั๊กแตนเป็นแมลงที่มีโปรตีนสูงเป็นอันดับหนึ่งในบรรดาแมลงกินได้ ก็ยิ่งเกิดความสนใจและให้ความสำคัญ มีความสนุกกับการหาข้อดีนอกจากโปรตีนที่สูงแล้ว การเลี้ยงตั๊กแตนยังมีต้นทุนต่ำ เพราะตั๊กแตนกินแต่หญ้าอย่างเดียว ต่างจากการเลี้ยงจิ้งหรีดที่ต้องมีการเลี้ยงด้วยหัวอาหาร เพราะฉะนั้นมองว่าต้นทุนการเลี้ยงต่ำมากๆ จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่มองว่าอนาคตไปต่อได้ง่าย ทำให้เป็นจุดจูงใจสำคัญในการตัดสินใจเลี้ยงตั๊กแตนสร้างรายได้
เริ่มต้นเพาะขยายพันธุ์จากไข่ 5 ขีด
ใช้เวลาเลี้ยง 40-45 วัน ขายได้
เจ้าของบอกว่า ที่ฟาร์มเริ่มต้นจากการซื้อไข่ตั๊กแตนในราคาขีดละ 1,000 บาท ซื้อมาทั้งหมด 9 ขีด สำหรับการนำมาขยายพันธุ์ และมีการทำเสียหายไปบ้าง สรุปแล้วส่วนที่เหลือสำหรับการนำมาขยายเพาะพันธุ์เหลือประมาณ 7 ขีด
การเพาะขยายพันธุ์ เริ่มตั้งแต่การอนุบาลไข่ ตั๊กแตนฟักออกมาจนเก็บไข่ขายได้ก็ใช้เวลาอยู่ที่ประมาณ 40-45 วัน ขึ้นอยู่ตามฤดูกาล หากเป็นช่วงฤดูร้อน ยิ่งร้อนยิ่งเจริญเติบโตได้ดี ตั๊กแตนไม่ชอบอากาศเย็นและฤดูฝน
“ยกตัวอย่างการนับเวลาตั้งแต่วันแรกของการวางไข่ จนถึงวันเก็บไข่ขาย ในฤดูร้อน ตั้งแต่ตั๊กแตนฟักไข่ออกมาปุ๊บนับเป็นวันที่ 1 แล้วหลังจากนั้นนับไปไม่เกิน 10 วัน ไข่จะฟักตัวออกมา แต่ถ้าเป็นหน้าหนาว นับตั้งแต่ฟักไข่ออกมาวันที่ 1 แล้วนับไปอีก 17 วัน ไข่ถึงจะฟักตัวออกมา หลังจากนั้นพอฟักออกเป็นตัวแล้ว ให้นับไปอีก 32 วัน ตั๊กแตนจะเริ่มผสมพันธุ์กัน แต่ในระยะเวลาที่ 1-32 ตั๊กแตนจะลอกคราบประมาณ 4-5 ครั้ง พอผสมพันธุ์กันวันที่ 32 นับไปอีก 5-7 วัน ตั๊กแตนจะเริ่มวางไข่ ก็ประมาณ 37-40 วัน ก็เริ่มเก็บไข่ เก็บได้ประมาณ 3 รอบ สมมุติวันที่ 40 เก็บไข่รอบแรก แล้วนับไปอีก 4 วัน เก็บไข่รอบที่ 2 แล้วนับไปอีก 4 วัน เก็บไข่รอบที่ 3 หลังเก็บไข่ครบทั้ง 3 รอบ เราจะเก็บตั๊กแตนชุดเก่าไปขายกิโลกรัมละ 400-500 บาท ไว้สำหรับทอดกิน” เจ้าของฟาร์ม อธิบายถึงระยะเวลาในการเพาะขยายพันธุ์ตั๊กแตนสร้างรายได้
โรงเรือน ที่ใช้เลี้ยงตั๊กแตน จะเป็นแบบไหนได้ทั้งหมด ขอแค่หลังคาจะต้องมุงด้วยพลาสติกใส เนื่องจากตั๊กแตนชอบแดด ส่วนด้านข้างและด้านในของโรงเรือนแนะนำให้ใช้เป็นมุ้งแข็งๆ กันแมลงสีขาวจะดีมาก เพราะจะทนทาน ป้องกันตั๊กแตนหรือสัตว์ชนิดอื่นกัดขาดได้ หรือถ้าหากเป็นในช่วงหน้าฝนแนะนำให้หาซาแรนมาบังกันฝนสาดเข้าโรงเรือนตั๊กแตนสักหน่อย เพราะถ้าหากปล่อยให้ตั๊กแตนโดนไอฝนมากๆ จะทำให้ตั๊กแตนน็อกน้ำตายได้
อาหาร ตั๊กแตนเป็นแมลงที่เลี้ยงง่ายมากๆ อาหารที่ใช้เลี้ยงมีเพียงหญ้า ทุกขั้นตอนการเลี้ยงตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้าย ต่างจากการเลี้ยงจิ้งหรีดที่ต้องเลี้ยงด้วยหัวอาหาร โดยหญ้าที่ใช้เลี้ยงสามารถให้กินได้ทุกประเภทเลย แต่แนะนำให้เลือกหญ้าที่มีโปรตีนสูง เช่น หญ้าเนเปียร์ หญ้าหวานอิสราเอล หญ้าสวีทจัมโบ้ ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่เก็บเกี่ยวและขยายพันธุ์ได้ง่าย โดยที่ฟาร์มจะปลูกหญ้าไว้เป็นอาหารของตั๊กแตนโดยเฉพาะบนพื้นที่ประมาณ 1 ไร่ เพื่อให้เพียงพอกับปริมาณตั๊กแตนที่เพิ่มขึ้น
ปริมาณการให้อาหารต่อวัน ปริมาณไข่ที่นำเพาะขยายพันธุ์จำนวน 5 ขีด ให้อาหารวันละ 2 มื้อ เช้า-เย็น มื้อละ 5-7 กิโลกรัม รวมปริมาณวันละ 12-15 กิโลกรัมต่อวัน ซึ่งการกินอาหารจะวัดเป็นกิโลกรัมอาจจะไม่แน่นอน เพราะฉะนั้นจะต้องสังเกตที่ฤดูด้วยว่าเป็นฤดูไหน หากเลี้ยงในฤดูหนาวตั๊กแตนจะโตช้า กินอาหารได้ไม่เยอะ แต่ถ้าเป็นฤดูร้อนตั๊กแตนจะกินได้ดี เจริญเติบโตดี