ฝุ่นในห้องเยอะ ระวังโรคร้ายถามหา
ผมเป็นคนหนึ่งที่มีปัญหาฝุ่นในห้องเยอะ ไม่ว่าจะทำความสะอาดไปกี่ครั้ง ฝุ่นก็กลับมาให้เห็นอีกแล้ว ตอนแรกผมก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก คิดว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวมันก็หายไปเอง แต่พอนาน ๆ ไป ผมเริ่มมีอาการคัดจมูก จาม น้ำมูกไหล คันคอ ไอ เลยเริ่มสงสัยว่าอาจจะเป็นเพราะฝุ่นในห้องหรือเปล่า
ผมเลยลองหาข้อมูลเกี่ยวกับฝุ่นในห้อง พบว่าฝุ่นสามารถก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้หลายประการ เช่น โรคภูมิแพ้ โรคทางเดินหายใจ และโรคมะเร็งปอด ดังนั้นจึงไม่ควรมองข้ามปัญหาฝุ่นในห้อง
ผมจึงเริ่มทำความสะอาดห้องอย่างจริงจังมากขึ้น เริ่มจากดูดฝุ่นทุกวันหรืออย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง เน้นดูดฝุ่นบริเวณที่มีฝุ่นสะสมมาก เช่น ใต้เตียง ใต้โซฟา มุมห้อง เป็นต้น กวาดพื้นทุกวันหรืออย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เน้นกวาดบริเวณที่มีฝุ่นสะสมมาก เช่น บริเวณที่มีพรม บริเวณที่มีของเล่นเด็ก เป็นต้น ถูพื้นสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง โดยใช้น้ำยาทำความสะอาดสูตรอ่อนโยน ซักที่นอน ปลอกหมอน ผ้าปูที่นอน ผ้าม่าน ผ้าห่ม อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ในบ้าน เช่น โต๊ะ ตู้ เก้าอี้ โดยใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ เช็ด และทำความสะอาดอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ เช่น พัดลม ทีวี คอมพิวเตอร์ โดยใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ เช็ด
นอกจากการทำความสะอาดห้องอย่างถูกวิธีแล้ว ผมยังกำจัดแหล่งกำเนิดฝุ่น เช่น พรม หนังสือ ของเล่นเด็ก สัตว์เลี้ยง เป็นต้น ปิดหน้าต่างและประตูให้สนิท ใช้เครื่องฟอกอากาศ และจัดบ้านให้เป็นระเบียบมากขึ้น
หลังจากทำความสะอาดห้องอย่างสม่ำเสมอ ผมก็พบว่าอาการคัดจมูก จาม น้ำมูกไหล คันคอ ไอ ของผมดีขึ้นมาก ผมจึงอยากจะแนะนำให้ทุกคนหมั่นทำความสะอาดห้องอย่างถูกวิธี เพื่อสุขภาพที่ดีของเราทุกคน
นอกจากที่กล่าวไปข้างต้น หลังๆ ผมได้ซื้อหุ่นยนต์ดูดฝุ่นมาเป็นตัวช่วย ก็จะลดเวลาในการทำความสะอาดได้พอสมควร
นี่คือเคล็ดลับบางประการในการทำความสะอาดห้องอย่างมีประสิทธิภาพ ดังนี้
- เลือกใช้เครื่องดูดฝุ่นที่มีแผ่นกรอง HEPA จะช่วยดักจับฝุ่นละอองขนาดเล็กได้
- ใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ เช็ดฝุ่นแทนการใช้ไม้ขนไก่ เพราะไม้ขนไก่อาจทำให้ฝุ่นฟุ้งกระจาย
- เก็บของเข้าที่ทุกครั้งหลังใช้งาน
- กำจัดขยะและของไม่ใช้แล้ว
- เปิดหน้าต่างและประตูให้อากาศถ่ายเท
การกำจัดฝุ่นในห้องอย่างถูกวิธีจะช่วยให้บ้านสะอาด ปราศจากฝุ่นละอองที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพในระยะยาว