ตำนานป่าล่าสังเวย
ตำนานป่าล่าสังเวย
เข้าป่าแล้วหายตัวไปไม่ได้มีแค่หลงป่า ถูกสัตว์ทำร้าย ยิงกันเอง ไข้ป่า หรือโดนอาถรรพ์ไพรเล่นงานจนเสียชีวิตหรือขาดสติเสียผู้เสียคนเท่านั้น ช่วงเวลาแห่งอดีตกาลมีคนจำนวนไม่น้อยที่หายสูญไปในพงพีเพียงเพราะเข้าป่าในช่วงที่ชนเผ่าบางพวกกำลังต้องการวิญญาณคนต่างถิ่นมาเซ่นผีเจ้าที่เข้าให้พอดี
ตำนาน เรื่องเล่า หรือสรรพสิ่งที่ขับขานกันมาเนิ่นนานระหว่างพรานไพรในอดีต โดยเฉพาะที่อยู่ช่วงรอยต่อพรมแดนระหว่างไทยพม่าและไทยลาวนั้นมีพรานเก่าระดับลายครามยุคร่วมร้อยปีก่อนเคยถ่ายทอดให้ลูกหลานฟังว่ามีชนเผ่าลึกลับที่เชื่อกันว่าพืชผลทางเกษตรของพวกตนจะเจริญงอกงามขึ้นมาได้ก็เพราะได้ร่างของคนต่างถิ่นมาเป็นบรรณาการ และเป็นที่เข้าใจกันดีว่าร่างคนเคราะห์ร้ายนั้นต้องถูกสังหารกันทั้งสิ้น
การได้มาซึ่งร่างบวงสรวงก็ไม่ซับซ้อน แค่หาคนเข้าป่าต่างถิ่นที่หลงใหลในสรีระของสตรีเพศ พูดง่ายๆว่าใช้หญิงมาเป็นตัวล่อ จากนั้นก็ใช้ทีมตามที่เป็นชายล้วนซึ่งอุดมไปด้วยมนต์คาถาและไสยเวทย์ที่ว่ากันว่าสามารถเปลี่ยนร่างจากมนุษย์เป็นบางสิ่งที่น่ากลัวได้ ตำนานกล่าวว่าเป็นหมาดำขนาดใหญ่เท่าเสือที่พร้อมปลิดชีวิตคนต่างถิ่นทันทีที่คนเหล่านั้นเริ่มสังหรณ์หรือลังเลใจ หรือในกรณีนางนกต่อนั้นพลาดท่าด้วยประการใดๆ ทีมสังหารจะจัดการตามแต่ตกลง
วิธีการคือล่อให้เข้าใกล้หมู่บ้านมากที่สุด จากนั้นก็ลงมือลากตัวมาสังเวยกันที่ลานหมู่บ้าน การได้เหยื่อมาแบบเป็นๆนั้นคือธรรมเนียมปฏิบัติของกลุ่มคนดังกล่าว เมื่อสังหารเหยื่อแล้วก็เชื่อกันว่าพืชผลของตนเองจะมีความเจริญงอกงามตามไปด้วยในไม่ช้า และจะทำกันอย่างนั้นทุกปี ปีละครั้ง ไม่ได้ทำพร่ำเพรื่อ ส่วนเหยื่อนั้นก็ว่ากันว่ามีตั้งแต่คนต่างเผ่า ไปจนกระทั่งถึงนายพรานต่างถิ่น หรือแม้แต่นักเดินป่าในอดีตที่หายสูญไปก็มักจะลงเอยกันเช่นว่า
ตำนานนี้มีความคล้ายกับพวกอินเดียนเผ่า ฮิวาโร (Jivaro) ทางทวีปอเมริกาใต้ที่มักจะล่าหัวมนุษย์ต่างถิ่นมาเพื่อเซ่นสังเวยเทพประจำเผ่าของตน หากแต่มีความพิสดารมากขึ้นอีกนิดก็คือ พวกนี้จะไม่ลากตัวเหยื่อมาที่เผ่า แต่จะสังหาร ตัดหัวศัตรู แล้วเลาะกะโหลกออกข้างลำธาร จากนั้นก็เย็บหนังหัวให้เรียบร้อยแล้วเอาหินร้อนๆยัดภายในเพี่อทำให้แห้งและเป็นการยืดอายุในตัว ต่อไปก็นำไปเข้าพิธีที่หมู่บ้านของตน หัวบางส่วนก็ปักเอาไว้รอบหมู่บ้านเพื่ออานุภาพทางการป้องกันเขตแดนและให้ผลผลิตการเกษตรดีงามตามไปด้วย
บอกไม่ได้ว่าตำนานจากฟากตะเข็บชายแดนไทยหรือที่อเมริกาใต้ที่ไหนจะดุโหดกว่ากัน...แต่ตำนานก็คือตำนาน และเรื่องเล่าก็คือเรื่องเล่า ทุกวันนี้มันเป็นเพียงความรู้ ความหลัง ลอยลมที่ชื่นชมกันหลังกองไฟเท่านั้น