หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ทุเรียน ผลไม้ไทยรสเลิศ ประโยชน์และโทษที่ต้องรู้

เนื้อหาโดย nirun200

ทุเรียน ผลไม้ไทยรสเลิศที่มีทั้งประโยชน์และโทษ บทความนี้จะอธิบายถึงประโยชน์ โทษ สรรพคุณ วิธีกิน ปริมาณการกิน ช่วงเวลาในการกิน และคู่กับอะไรกินทุเรียนให้อร่อยและปลอดภัย

 

 

ประโยชน์ของทุเรียน

 

ทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง มีสารอาหารและสารต้านอนุมูลอิสระมากมาย เช่น วิตามินซี วิตามินอี โพแทสเซียม แมกนีเซียม แคลเซียม ธาตุเหล็ก และเบต้าแคโรทีน สารอาหารเหล่านี้มีประโยชน์ต่อร่างกายดังนี้

  • บำรุงผิวพรรณ ทุเรียนมีวิตามินซีสูง ซึ่งช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดริ้วรอยแห่งวัย ช่วยให้ผิวพรรณสดใสเปล่งปลั่ง
  • เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ทุเรียนมีวิตามินซี วิตามินอี และสารต้านอนุมูลอิสระอื่นๆ ที่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้อโรคต่างๆ
  • ป้องกันโรคหัวใจ ทุเรียนมีโพแทสเซียมสูง ซึ่งช่วยควบคุมความดันโลหิตและระดับคอเลสเตอรอลในเลือด ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ
  • ป้องกันโรคมะเร็ง ทุเรียนมีสารต้านอนุมูลอิสระจำนวนมาก ซึ่งช่วยป้องกันเซลล์จากการถูกทำลายจากอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคมะเร็ง
  • บำรุงสมอง ทุเรียนมีธาตุเหล็กสูง ซึ่งช่วยบำรุงสมองและระบบประสาท
  • บำรุงกระดูกและฟัน ทุเรียนมีแคลเซียมและฟอสฟอรัสสูง ซึ่งช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง

นอกจากประโยชน์ข้างต้นแล้ว ทุเรียนยังมีสรรพคุณอื่นๆ อีกมากมาย เช่น ช่วยบำรุงกำลัง ช่วยให้นอนหลับสบาย ช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือน ช่วยขับลม เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีพลังงานสูง มีคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลสูง เมื่อกินมากเกินไปอาจทำให้น้ำหนักขึ้นได้ นอกจากนี้ ทุเรียนยังมีสารแทนนิน ซึ่งเป็นสารที่อาจทำให้เกิดอาการท้องผูกได้

 

 

โทษของทุเรียน

 

ทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีพลังงานสูง มีคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลสูง เมื่อกินมากเกินไปอาจทำให้น้ำหนักขึ้นได้ นอกจากนี้ ทุเรียนยังมีสารแทนนิน ซึ่งเป็นสารที่อาจทำให้เกิดอาการท้องผูกได้

โทษของทุเรียน

  • ทำให้น้ำหนักขึ้น ทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีพลังงานสูง มีคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลสูง เมื่อกินมากเกินไปอาจทำให้น้ำหนักขึ้นได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน ควรหลีกเลี่ยงการกินทุเรียนมากเกินไป

  • ทำให้ท้องผูก ทุเรียนมีสารแทนนิน ซึ่งเป็นสารที่อาจทำให้เกิดอาการท้องผูกได้ แต่หากกินทุเรียนมากเกินไป อาจทำให้มีอาการท้องเสียได้เช่นกัน

  • อาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพอื่นๆ ทุเรียนมีฤทธิ์ร้อน ผู้ที่มีปัญหาโรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคไต โรคตับ และโรคเกาต์ ควรหลีกเลี่ยงการกินทุเรียนมากเกินไป

ข้อควรระวังในการกินทุเรียน

  • ผู้ที่มีปัญหาน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน ควรหลีกเลี่ยงการกินทุเรียนมากเกินไป
  • ผู้ที่มีปัญหาท้องผูก ควรกินทุเรียนคู่กับผลไม้ที่มีกากใยสูง เช่น แก้วมังกร มะละกอ ฝรั่ง เป็นต้น
  • ผู้ที่แพ้ทุเรียน ควรหลีกเลี่ยงการกินทุเรียน
  • ผู้ที่มีปัญหาโรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคไต โรคตับ และโรคเกาต์ ควรหลีกเลี่ยงการกินทุเรียนมากเกินไป

 

 

สรรพคุณของทุเรียน

ทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง มีสารอาหารและสารต้านอนุมูลอิสระมากมาย เช่น วิตามินซี วิตามินอี โพแทสเซียม แมกนีเซียม แคลเซียม ธาตุเหล็ก และเบต้าแคโรทีน สารอาหารเหล่านี้มีประโยชน์ต่อร่างกายดังนี้

  • บำรุงผิวพรรณ ทุเรียนมีวิตามินซีสูง ซึ่งช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดริ้วรอยแห่งวัย ช่วยให้ผิวพรรณสดใสเปล่งปลั่ง
  • เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ทุเรียนมีวิตามินซี วิตามินอี และสารต้านอนุมูลอิสระอื่นๆ ที่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้อโรคต่างๆ
  • ป้องกันโรคหัวใจ ทุเรียนมีโพแทสเซียมสูง ซึ่งช่วยควบคุมความดันโลหิตและระดับคอเลสเตอรอลในเลือด ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ
  • ป้องกันโรคมะเร็ง ทุเรียนมีสารต้านอนุมูลอิสระจำนวนมาก ซึ่งช่วยป้องกันเซลล์จากการถูกทำลายจากอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคมะเร็ง
  • บำรุงสมอง ทุเรียนมีธาตุเหล็กสูง ซึ่งช่วยบำรุงสมองและระบบประสาท
  • บำรุงกระดูกและฟัน ทุเรียนมีแคลเซียมและฟอสฟอรัสสูง ซึ่งช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง

นอกจากประโยชน์ข้างต้นแล้ว ทุเรียนยังมีสรรพคุณอื่นๆ อีกมากมาย เช่น ช่วยบำรุงกำลัง ช่วยให้นอนหลับสบาย ช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือน ช่วยขับลม เป็นต้น

สรรพคุณของทุเรียนอื่นๆ ที่น่าสนใจ ได้แก่

  • ช่วยบำรุงกำลัง ทุเรียนมีคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลสูง ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญของร่างกาย ช่วยให้ร่างกายมีกำลังวังชา
  • ช่วยให้นอนหลับสบาย ทุเรียนมีวิตามินบี6 ซึ่งช่วยในการนอนหลับ ทำให้นอนหลับสบายขึ้น
  • ช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือน ทุเรียนมีวิตามินอีและธาตุเหล็กสูง ซึ่งช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือนได้
  • ช่วยขับลม ทุเรียนมีเส้นใยอาหารสูง ซึ่งช่วยในการขับลม

อย่างไรก็ตาม ทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีพลังงานสูง มีคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลสูง เมื่อกินมากเกินไปอาจทำให้น้ำหนักขึ้นได้ นอกจากนี้ ทุเรียนยังมีสารแทนนิน ซึ่งเป็นสารที่อาจทำให้เกิดอาการท้องผูกได้

 

 

วิธีกินทุเรียน

 

ทุเรียนสามารถกินได้หลายวิธี เช่น กินสด กินสุก กินกวน กินเชื่อม กินทอด กินแปรรูปเป็นขนมต่างๆ เป็นต้น

วิธีกินทุเรียนสด

  1. เลือกทุเรียนที่สุกได้ที่ เปลือกนอกเป็นสีเหลืองอมน้ำตาล ทุเรียนกลิ่นหอมแรง
  2. แกะเปลือกทุเรียนออก
  3. ใช้ช้อนตักเนื้อทุเรียนออกมากิน

วิธีกินทุเรียนกวน

  1. หาซื้อทุเรียนกวนสำเร็จรูปตามท้องตลาด
  2. รับประทานโดยตรง หรือนำไปใส่ในขนมหรืออาหารอื่นๆ

วิธีกินทุเรียนเชื่อม

  1. หาซื้อทุเรียนเชื่อมสำเร็จรูปตามท้องตลาด
  2. รับประทานโดยตรง หรือนำไปใส่ในขนมหรืออาหารอื่นๆ

วิธีกินทุเรียนทอด

  1. หาซื้อทุเรียนทอดสำเร็จรูปตามท้องตลาด
  2. รับประทานโดยตรง หรือนำไปใส่ในขนมหรืออาหารอื่นๆ

วิธีกินทุเรียนแปรรูป

  1. หาซื้อทุเรียนแปรรูปตามท้องตลาด เช่น ทุเรียนกวน ทุเรียนทอด ทุเรียนอบแห้ง เป็นต้น
  2. รับประทานโดยตรง หรือนำไปใส่ในขนมหรืออาหารอื่นๆ

ปริมาณการกินทุเรียน

ปริมาณการกินทุเรียนที่เหมาะสมสำหรับผู้ใหญ่คือ 1-2 เม็ดต่อวัน หรือประมาณ 300-600 กรัมต่อวัน ไม่ควรกินมากเกินไปเพราะอาจทำให้น้ำหนักขึ้นและเกิดอาการต่างๆ เช่น ท้องผูก ร้อนใน นอนไม่หลับ เป็นต้น

ช่วงเวลาในการกินทุเรียน

ทุเรียนสามารถกินได้ในทุกช่วงเวลา แต่ไม่ควรกินทุเรียนตอนท้องว่าง เพราะอาจทำให้รู้สึกไม่สบายท้องได้

คู่กับอะไรกินทุเรียน

ทุเรียนสามารถกินคู่กับอะไรก็ได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงการกินทุเรียนคู่กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะอาจทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่น หน้ามืด คลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะ เป็นต้น

ข้อควรระวังในการกินทุเรียน

  • ผู้ที่มีปัญหาน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน ควรหลีกเลี่ยงการกินทุเรียนมากเกินไป
  • ผู้ที่มีปัญหาท้องผูก ควรกินทุเรียนคู่กับผลไม้ที่มีกากใยสูง เช่น แก้วมังกร มะละกอ ฝรั่ง เป็นต้น
  • ผู้ที่แพ้ทุเรียน ควรหลีกเลี่ยงการกินทุเรียน
  • ผู้ที่มีปัญหาโรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคไต โรคตับ และโรคเกาต์ ควรหลีกเลี่ยงการกินทุเรียนมากเกินไป

 

เนื้อหาโดย: nirun200
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
nirun200's profile


โพสท์โดย: nirun200
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ไม่ควรกิน"แตงโม"ถ้าอยู่ในคน7กลุ่มนี้!!ฉันขายให้ผู้ดีกิน! "เดย์ ฟรีแมน" โต้ขายขนมแพง ตอกกลับเจ็บจี๊ด มีหน้าชาทุกคอมเม้นต์อดีตแม่ตอนสาวๆ ลูกไม่เชื่อจนมาเห็นกับตา..ว่าสวยไม่ธรรมดาเลยสิ่งที่คนจีนได้เรียนรู้เกี่ยวกับนิสัยของคนไทยเมื่อมาเที่ยวที่ไทย!เลขเด็ดคุณไก่ วุฒินันท์ สอนศรี งวด 2 พฤษภาคม 2567ไปทำงานเลท " เหตุเพราะไอโฟนไม่ปลุก "ซึ้งใจ!! เจ้าของร้านอาหาร "คลังนาปลาข้าว" ประกาศตามหาหนุ่มไข่ดาว 70 บาท ให้มาทำงานที่ร้านได้ ☺ปริศนารังผึ้ง ทำไมมีสีแปลกๆ กว่าจะรู้ อ้อ...เพราะแบบนี้นี่เอง...เลขเด็ดวันแรงงาน เลขไหนดัง เลขไหนเข้า มาเช็คกันก่อนลุ้นรางวัลเลย!!!
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
J&J อ่วมอีกรอบ " ยอมจ่าย 6500 ล้าน " ยุติคดีช็อก! เด็กชายวัย 2 ขวบ พยายามฆ่าน้องสาวสูตรกำจัดแมลงสาบง่ายๆ ตายยกรังท่องโลกดึกดำบรรพ์: ทะเลของราชามังกรชอล์กขาว (ยุคครีเตเชียส)
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
vomit: อาเจียนไมโครพลาสติก " Toxic ร้ายกว่าที่คิด "กัมมันตรังสี อันตรายแค่ไหนเมื่อกระจายตัวในอากาศมะเขือเทศยักษ์ใหญ่หนัก 8 ปอนด์ ชายอเมริกันปลูกมะเขือเทศลูกโตที่สุดในโลก!
ตั้งกระทู้ใหม่