ระวัง! ไมโครเวฟกับบรรจุภัณฑ์พลาสติก
ระวัง! ไมโครเวฟกับบรรจุภัณฑ์พลาสติกอาจทำให้ร่างกายได้รับไมโครพลาสติก
ในยุคปัจจุบัน ไมโครเวฟเป็นอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่พบเห็นได้ทั่วไปในครัวเรือน เนื่องจากมีความสะดวกและรวดเร็วในการอุ่นอาหาร อย่างไรก็ตาม การใช้ไมโครเวฟกับบรรจุภัณฑ์พลาสติกอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงต่อสุขภาพได้
ผลการวิจัยชิ้นใหม่ของมหาวิทยาลัยเนแบรสกา ในสหรัฐอเมริกา พบว่า การใช้ไมโครเวฟกับบรรจุภัณฑ์พลาสติกอาจทำให้อนุภาคพลาสติกขนาดเล็กจิ๋วที่เรียกว่าไมโครพลาสติกปนเปื้อนเข้าสู่อาหารและร่างกายมนุษย์ได้
ในการศึกษานี้ นักวิจัยได้นำขวดนมพลาสติกของเด็กที่ได้รับการรับรองจาก FDA ว่าผ่านมาตรฐานความปลอดภัยสามารถนำเข้าไมโครเวฟได้ บรรจุน้ำและสารละลายอื่น ๆ ที่ใช้เป็นตัวแทนอาหาร แล้วนำไปเข้าไมโครเวฟเป็นเวลา 3 นาที จากนั้นนำไปให้เด็กดื่ม ผลปรากฏว่า เด็กได้รับไมโครพลาสติกเข้าไปในร่างกาย
ไมโครพลาสติกคืออนุภาคพลาสติกขนาดเล็กจิ๋วที่พบได้ทั่วไปในสิ่งแวดล้อม ไมโครพลาสติกอาจเกิดจากกระบวนการย่อยสลายของพลาสติก หรืออาจเกิดจากการสึกหรอของพลาสติก ไมโครพลาสติกสามารถปนเปื้อนเข้าสู่อาหารและน้ำได้ ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้
ไมโครพลาสติกอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้หลายประการ เช่น
- ก่อให้เกิดการอักเสบในร่างกาย
- สะสมในร่างกายและเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ เช่น โรคหัวใจ โรคมะเร็ง โรคอัลไซเมอร์ และโรคพาร์กินสัน
- ส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน ระบบสืบพันธุ์ และระบบประสาท
เพื่อหลีกเลี่ยงการปนเปื้อนของไมโครพลาสติก ควรหลีกเลี่ยงการใช้ไมโครเวฟกับบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ไม่ทนความร้อนสูง ควรใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ระบุไว้อย่างชัดเจนว่าสามารถใช้กับไมโครเวฟได้ และไม่ควรใช้ไมโครเวฟอุ่นอาหารที่มีไขมันหรือน้ำมันมากเกินไป ซึ่งอาจทำให้พลาสติกละลายและปนเปื้อนเข้าสู่อาหารได้
นอกจากนี้ ยังมีวิธีอื่นๆ ที่อาจช่วยลดการปนเปื้อนของไมโครพลาสติกได้ เช่น การหลีกเลี่ยงการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกในชีวิตประจำวัน เช่น ถุงพลาสติก ขวดน้ำพลาสติก หรือภาชนะพลาสติกสำหรับเก็บอาหาร แทนที่ด้วยบรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้ เช่น ภาชนะแก้วหรือเซรามิก
การวิจัยเกี่ยวกับผลกระทบของไมโครพลาสติกต่อสุขภาพมนุษย์ยังคงดำเนินอยู่ อย่างไรก็ตาม การศึกษาชิ้นนี้แสดงให้เห็นว่าการใช้ไมโครเวฟกับบรรจุภัณฑ์พลาสติกอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพได้ ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการใช้ไมโครเวฟกับบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ไม่จำเป็น
อ้างอิงจาก:เว็บไซต์ The Cool Down
เว็บไซต์ Henry Ford Health
เว็บไซต์ National Geographic