บุหรี่มวนแรกของโลก
ก่อนที่จะเป็น "บุหรี่มวนแรกของโลก" ในโลกมนุษย์ได้รู้จักสิ่งหนึ่งที่สำคัญมาก่อนที่จะค้นพบบุหรี่มวน นั่นคือใบยาสูบ มีการบันทึกไว้ว่า ใบยาสูบเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในภาคกลางของทวีปอเมริกา และชนชาติแรกที่เริ่มใช้ใบยาสูบน่าจะเป็นชาวอินเดียแดงซึ่งเป็นชนพื้นเมืองบนทวีปอเมริกา พวกเขาใช้ใบยาสูบเพื่อเป็นยาและเข้ามาใช้ในพิธีกรรมต่าง ๆ อันเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมของพวกเขา.
ในปี พ.ศ. 2035 คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส (Christopher Columbus) ได้ทำการนำยาสูบเข้าสู่แผ่นดินยุโรปในระยะเวลานั้น การนี้เกิดขึ้นหลังจากที่เขาได้ค้นพบทวีปอเมริกาและเทียบฝั่งที่ซันซัลวาดอร์ บนหมู่เกาะเวสต์อินดีส์ เขาพบเจอชาวอินเดียแดงที่กำลังเก็บใบไม้ชนิดหนึ่งมาม้วนเป็นท่อนเล็ก ๆ และใช้เม็ดพิเศษที่ปลายใบไม้เหล่านั้นเป็นจุดไฟเพื่อสูดควันผ่านทางใบไม้เหล่านั้น โคลัมบัสจึงได้นำเอาแนวคิดนี้พร้อมกับใบยาสูบกลับมายังแผ่นดินยุโรปด้วยเขาทำเช่นนี้เพื่อนำเสนอแนวคิดใหม่และน่าสนใจในสังคมยุโรป อย่างไรก็ตาม แนวคิดนี้ยังไม่ได้รับความนิยมมากนักในเวลานั้น และต้องผ่านเวลาอันนานนับหลายศตวรรษก่อนที่ยาสูบจะกลายเป็นสิ่งที่นิยมในสังคมยุโรปอย่างแท้จริง
ในปีพ.ศ. 2103 เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสที่ประจำประเทศโปรตุเกสชื่อ ฌอง นิโกต์ (Jean Nicot) เคยเป็นบุคคลที่มีบทบาทสำคัญในการนำเมล็ดยาสูบมายังราชสำนักฝรั่งเศสที่ตั้งอยู่ในกรุงปารีส สิ่งที่น่าสนใจคือชื่อของนายนิโกต์ได้กลายเป็นที่มาของคำว่า "นิโคติน" (Nicotin) ซึ่งเป็นสารที่พบในบุหรี่ในปัจจุบัน ที่นี่เราจะพบว่ายาสูบได้รับความนิยมมากขึ้นในแผ่นดินยุโรปหลังจากเมล็ดยาสูบถูกนำเข้ามาโดยนายนิโกต์ ในทวีปเอเชียนอีกที่นึง ประเทศฟิลิปปินส์เป็นประเทศแรกที่เริ่มปลูกใบยาสูบ ภายหลังนี้ ปลูกใบยาสูบได้แพร่หลายไปยังประเทศอินเดีย จีน และอินโดนีเซียอีกด้วย ดังนั้นการนำเมล็ดยาสูบมายังยุโรปและการแพร่ระบาดของยาสูบไปยังเอเชียก็เป็นเหตุผลที่ทำให้ยาสูบกลายเป็นสิ่งที่นิยมใช้ในทั่วโลกในปัจจุบัน
ช่วงแรกๆ การใช้ยาสูบต้องการกระบวนการที่ซับซ้อน เริ่มต้นด้วยการม้วนใบยาด้วยมือให้แน่นและที่ดี จากนั้นจึงจุดไฟที่ปลายและสูบผ่านท่อที่เรียกว่า "ไปป์" หรือบดใบยาให้ละเอียดเพื่อให้ได้รสชาติที่ต้องการ แต่เมื่อมันกลายเป็นเรื่องที่ได้รับความนิยมมากขึ้น เกิดการนวดเครื่องจักรที่สามารถทำการม้วนใบยาแทนมือได้ เริ่มต้นขึ้นด้วยบุหรี่มวนแรกในโลก ด้วยความสามารถของเครื่องจักรในการผลิตบุหรี่จำนวนมากในเวลาเร็ว อุตสาหกรรมนี้กลายเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่โดยรวดเร็ว การสูบบุหรี่เริ่มกลายเป็นสิ่งที่ธรรมดาและปกติมากในชุดชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นในยามสงครามหรือในชีวิตประจำวันของคนทั่วไป เราเห็นการสูบบุหรี่ไม่เพียงแต่เป็นกิจกรรมทางการแพทย์และสงครามเท่านั้น แต่ยังกลายเป็นแฟชั่นและการแสดงตัวตนของคนในสังคมด้วยลักษณะพิเศษของบุหรี่ที่เลือกใช้ด้วยกัน
ในยุคนั้น ความรู้เกี่ยวกับความอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากสารนิโคตินที่ปรากฏในควันบุหรี่ยังไม่ได้รับการรับรู้อย่างเต็มที่จากสังคมในที่นั้น การสูบบุหรี่ในสถานที่สาธารณะถือเป็นเรื่องธรรมดาและรับมองอย่างไม่น่าเป็นประเด็นสำคัญสำหรับคนส่วนใหญ่ในสังคมขณะนั้น ภาพยนตร์เรื่องเก่าๆ หลายเรื่องมักจะแสดงถึงฉากที่ตัวละครหลายคนสูบบุหรี่ร่วมกันโดยสม่ำเสมอ โดยในส่วนใหญ่จะเป็นบุหรี่มวนธรรมดาที่ใช้ใบยาสูบในกระบวนการสูบบุหรี่อย่างสมเหตุสมผล
แต่ในปัจจุบัน มีการเปลี่ยนแปลงในวิธีการสูบบุหรี่อย่างมาก นอกจากบุหรี่ที่ใช้ใบยาสูบแล้ว ยังมีบุหรี่ไฟฟ้าที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก บุหรี่ไฟฟ้าใช้น้ำยาแทนควันและมีหลากหลายรสชาติที่สามารถเลือกใช้ได้ การสูบบุหรี่ไฟฟ้านี้ได้รับความสนใจมากขึ้นเนื่องจากความสะดวกสบายและความปลอดภัยที่สูงขึ้น เป็นอีกตัวเลือกที่คนในยุคปัจจุบันพิจารณาในการสูบบุหรี่
แต่ในอดีต การรับรู้ถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการสูบบุหรี่ต่อสุขภาพยังคงเป็นเรื่องที่ควรให้ความสนใจ การเคลื่อนไหวทางการแพทย์และการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับบุหรี่ได้ส่งผลให้ความตระหนักของคนสำหรับความอันตรายที่เกิดจากสารนิโคตินในควันบุหรี่มีการเพิ่มสูงขึ้น ผู้คนในปัจจุบันมีข้อมูลมากมายในมือเพื่อช่วยให้ตัดสินใจในการสูบบุหรี่และเลือกวิธีการสูบบุหรี่ที่เหมาะสมต่อสุขภาพของตนเองและคนรอบข้างได้อย่างรับผิดชอบ.
หลังจากที่ความนิยมในการสูบบุหรี่มีมามากมายในเฉพาะยุคหนึ่งเป็นเวลาประมาณ 30-40 ปี พิษและอันตรายที่มาพร้อมกับการสูบบุหรี่ก็เริ่มแสดงตัวออกมาอย่างชัดเจน สำหรับผู้ที่ได้รับควันบุหรี่อันมีพิษนี้ พบว่ามีโรคที่พัฒนาขึ้นมาหลายชนิด เริ่มต้นจากมะเร็งปอด โรคที่เกิดจากการสูบบุหรี่ที่เข้าระบบทางเดินหายใจ หรือหลอดลม และไม่จบเพียงแค่นั้น ยังรวมถึงโรคอื่น ๆ อีกหลากหลายอาการที่ทำให้สุขภาพเสียหายได้ ซึ่งส่งผลกระทบไม่เพียงแค่กับผู้ที่สูบบุหรี่เท่านั้น แต่ยังมีผลกระทบต่อคนรอบข้างด้วย
เมื่อมนุษย์ได้เริ่มรับรู้ถึงความเสี่ยงและพิษภัยของการสูบบุหรี่อย่างมากขึ้น มีการดำเนินการเพื่อจำกัดพื้นที่ที่อนุญาตให้สูบบุหรี่ไม่ในที่สาธารณะ รวมถึงการรณรงค์ให้คนทั่วไปเลิกสูบบุหรี่เพื่อรักษาสุขภาพของตนเองและคนรอบข้าง การเรียนรู้และการแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับผลกระทบที่มาพร้อมกับบุหรี่ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมและพฤติกรรมในการสูบบุหรี่ในยุคปัจจุบัน
เป็นที่รู้กันอย่างกว้างขวางว่าการสูบบุหรี่ไม่เพียงแค่เป็นการอันตรายต่อสุขภาพของผู้สูบเอง แต่ยังส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและคนรอบข้างด้วย ดังนั้น การสร้างความตระหนักและการกระทำเพื่อลดปัญหาที่เกิดขึ้นจากการสูบบุหรี่เป็นสิ่งสำคัญในปัจจุบัน เพื่อให้เราสามารถสร้างสังคมที่มีคุณภาพและสุขภาพที่ดีขึ้นสำหรับทุกคนในสังคมของเรา