มาทำ"กิมจิ"กินกัน สีสวย,หอมขิง,ผักกรุบกรอบ อร่อยสไตล์เกาหลี
"กิมจิ" เป็นหนึ่งในเครื่องเคียงที่นิยมของเกาหลี จะเรียกว่าอยู่ในทุกมื้อของอาหารเกาหลีก็ไม่ผิด (ไม่เชื่อก็ลองทานร้านอาหารเกาหลีดู มีทุกมื้อ) เป็นอาหารประเภทผักดอง โดยปกติแล้วเป็นที่นิยมจะใช้ผักกาดขาว หมักพริกป่น ต้นหอม น้ำปลา น้ำตาล กระเทียม รสชาติจะออกเผ็ด เปรี้ยว มีกลิ่นเป็นเอกลักษณ์ โดยตามหลักแล้วรสชาติของกิมจิจะขึ้นอยู่กับของที่นำมาหมัก ปัจจุบันมีการปรับรสชาติให้เข้ากับความชอบหรือปรับให้เข้ากับอาหารแต่ละชนิด
วิธีทำกิมจิแสนอร่อย
- ผักกาดขาว 1 หัว
- เกลือ 2 ช้อนโต๊ะ
- แป้งข้าวเหนียว 1 ช้อนโต๊ะ
- พริกป่นเกาหลี 1/2 ถ้วย
- น้ำปลา 4 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
- ต้นหอมซอย 3 ต้น
- หอมใหญ่ 1/4 หัว
- กระเทียม 3 กลีบ
- ขิงสับ 1/2 ช้อนชา
1. เติมเกลือลงในน้ำเปล่า 1 ถ้วยครึ่ง ใส่ผักกาดขาวหั่นชิ้นลงไปแช่ประมาณ 3-4 ชั่วโมง หรือจนนิ่ม นำขึ้นมาใส่อ่างผสม แล้วพักไว้
2. ใส่น้ำเปล่า 1 ถ้วยลงในหม้อใบเล็ก ใส่แป้งข้าวเหนียวลงไป คนไปเรื่อย ๆ ด้วยไฟกลางประมาณ 5 นาที หรือจนข้น
3. จากนั้นเทลงไปในชามผสม ปรุงรสด้วยพริกป่นเกาหลี น้ำปลา และน้ำตาลทราย คนผสมจนเข้ากัน พักทิ้งไว้จนเย็น
4. ใส่ต้นหอม หอมใหญ่ และขิงลงไป คนผสมพอเข้ากัน เทลงในอ่างผสมที่ใส่ผักกาดขาวไว้ นวดผสมจนเข้ากัน
5. ขั้นตอนสุดท้ายตักใส่ขวดโหล หรือตักใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ
ประโยชน์ของกิมจิ ส่วนใหญ่ประกอบไปด้วย วิตามินเอ, วิตามินซี, วิตามินบี 6, แร่ธาตุ และกรดอะมิโนมากกว่า 34 ชนิด ซึ่งสารอาหารเหล่านั้น อาจมีปริมาณมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับกรรมวิธีกระบวนการทำ เครื่องปรุง ของแต่ละสูตร นอกจากนี้ยังลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดี และยังเป็นหนึ่งในอาหารลดน้ำหนัก แต่ข้อควรระวังเนื่องจากตัวกิมจิ เป็นอาหารประเภทหมักดอง มักประกอบไปด้วยเกลือ หรือโซเดียมอยู่จำนวนมาก ทำให้ผู้ที่รับประทานเกินกว่าปริมาณ 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน อาจได้รับความเสี่ยงที่จะทำให้กระเพาะอาหาร ลำไส้ของคุณแปรปรวน และเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งกระเพาะอาหารขึ้น ดังนั้นควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม จะเป็นผลดีต่อร่างกาย