กาแฟช่วยเผาผลาญไขมันได้จริงหรือไม่?

 

 

แน่นอนว่าเมื่อพูดถึงคาเฟอีนเราก็คงจะนึกถึงกาแฟเป็นหลัก

แต่ที่จริงๆแล้วตอนนี้ มีอาหารเสริมคาเฟอีนเม็ด ที่เราสามารถซื้อมากินแทนกาแฟได้ด้วย

 

 

งานวิจัยพบว่า การดื่มกาแฟจะช่วยให้เรารู้สึกสดชื่น และมีพละกำลังมากขึ้น

นั่นเป็นเพราะว่าคาเฟอีน จะเข้าไปหยุดสารสื่อประสาทที่มีชื่อว่า “Adenosine”

 

 

นั่นก็จะเป็นการกระตุ้นการหลั่งสารสื่อประสาทที่เรียกว่า โดพามีน (Dopamine)

ซึ่งจะช่วยให้เราอารมณ์ดี และฮอร์โมนนอร์อะดรีนาลีน (Noradrenaline)

 

 

ฮอร์โมนนอร์อะดรีนาลีน คือ ฮอร์โมนสำคัญในการลดไขมัน

เพราะมันจะบอกให้ร่างกายเราดึงไขมันออกมาใช้มากขึ้น

โดยเฉพาะไขมันในส่วนที่เอาออกยากๆ เช่น ไขมันที่ต้นขา เป็นต้น 

นักวิจัยพบว่า ภายใน 3 ชั่วโมงที่ร่างกายได้รับคาเฟอีนเข้าไป

ร่างกายจะมีการเผาผลาญไขมันมาใช้เป็นพลังงานมากขึ้นทันที 

การกินคาเฟอีนมีส่วนช่วยเร่งการเผาผลาญพลังงานมากขึ้นถึง 3-4% 

 

 

ผู้เข้าร่วมทดลองได้รับคาเฟอีนในปริมาณเพิ่มมากขึ้น อัตราการเผาผลาญไขมันก็จะมากขึ้นตามมาด้วย

เพราะในการลองทำครั้งนี้ นักวิจัยเขาทดลองโดยให้ผู้เข้าร่วมทดลองกินคาเฟอีน 100 มิลลิกรัม

ทุกๆ 2 ชั่วโมง เป็นเวลาต่อเนื่อง 12 ชั่วโมง

หลังจบการทดลองพวกเขาพบว่า ผู้เข้าร่วมทดลองมีอัตราการเผาผลาญพลังงานเพิ่มมากขึ้นถึง 8-11% หรือประมาณ 150 แคลอรี่

 

 

นอกจากคาเฟอีนจะช่วยเร่งการเผาผลาญไขมันแล้ว นักวิจัยยังพบอีกว่า

คาเฟอีนสามารถลดความอยากอาหารลงได้ด้วย

ซึ่งจากการทดลองพบว่า ผู้เข้าทดลองที่ได้รับคาเฟอีนในช่วง 30 นาที ถึง 4 ชั่วโมงก่อนมื้ออาหาร

จะมีมีความพอใจกับอาหารมากขึ้น อิ่มท้องเร็วขึ้น และกินอาหารน้อยลงโดยอัตโนมัติ

 

 

ท้ายสุด การดื่มกาแฟหรือคาเฟอีน ไม่ได้มีผลทำให้เกิดโรคกระดูกพรุน โรคมะเร็ง และโรคหัวใจ

ในทางกลับกัน ผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนที่ดื่มกาแฟ จะเสี่ยงเป็นโรคกระดูกพรุนน้อยลงถึง 36% 

ดังนั้นถ้าเพื่อนๆคนไหนมีปัญหาสุขภาพอยู่แล้ว ขอแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนดีกว่า