ประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในโลกกลายเป็นประเทศที่ยากจนที่สุดในโลก
นาอูรู: จากประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในโลก สู่ประเทศที่ยากจนที่สุดในโลก
นาอูรู (Nauru) เป็นประเทศเกาะเล็กๆ ตั้งอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนกลาง เคยเป็นประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในโลกในช่วงทศวรรษ 1970 และ 1980 จากการค้นพบแหล่งฟอสเฟตขนาดใหญ่บนเกาะ แต่ปัจจุบันนาอูรูกลายเป็นประเทศที่ยากจนที่สุดในโลก
นาอูรู (Nauru) เป็นประเทศเกาะ และจุลรัฐในภูมิภาคไมโครนีเซีย ทวีปโอเชียเนีย ตอนกลางของมหาสมุทรแปซิฟิก มีประธานาธิบดีเป็นประมุขแห่งรัฐ
ที่ตั้ง
นาอูรูตั้งอยู่ทางตอนเหนือของมหาสมุทรแปซิฟิก ห่างจากออสเตรเลียไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 4,385 กิโลเมตร อยู่ใกล้กับหมู่เกาะคิริบาส เกาะบานาบา และเกาะมากาเทีย
ภูมิประเทศ
นาอูรูเป็นเกาะรูปวงรี มีขนาด 21 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 2 ใน 3 ของสนามบินสุวรรณภูมิ พื้นที่สูงสุดของประเทศมีความสูง 65 เมตรจากระดับน้ำทะเล พื้นที่อุดมสมบูรณ์ของนาอูรูอยู่บริเวณแนวชายฝั่ง ซึ่งสามารถพบ มะพร้าว ต้นเตย และไม้เนื้อแข็ง รวมถึงพื้นที่ล้อมรอบทะเลสาบน้ำจืด Buada บนเกาะ
ภูมิอากาศ
นาอูรูมีภูมิอากาศแบบเขตร้อนชื้น อุณหภูมิเฉลี่ย 27 องศาเซลเซียส ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 2,100 มิลลิเมตรต่อปี
ประวัติศาสตร์
นาอูรูถูกค้นพบโดยชาวยุโรปในปี ค.ศ. 1798 เดิมทีเป็นที่อยู่อาศัยของชนพื้นเมืองไมโครนีเซีย ต่อมาในปี ค.ศ. 1888 เยอรมนีเข้ายึดครองเกาะแห่งนี้ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 นาอูรูถูกยึดครองโดยออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และอังกฤษ ต่อมาในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 นาอูรูถูกยึดครองโดยญี่ปุ่น ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 นาอูรูได้รับเอกราชจากออสเตรเลียในปี ค.ศ. 1968
ประชากร
นาอูรูมีประชากรประมาณ 10,670 คน (ข้อมูลปี 2023) ประกอบด้วยชาวนาอูรู 87% ชาวไมโครนีเซีย 6% ชาวยุโรป 3% และอื่นๆ 4%
ภาษา
ภาษาราชการของนาอูรูคือภาษาอังกฤษ ภาษานาอูรู และภาษามอตู
ศาสนา
ศาสนาหลักของนาอูรูคือศาสนาคริสต์ นิกายโปรเตสแตนต์ 70% และนิกายโรมันคาทอลิก 20%
เศรษฐกิจ
เศรษฐกิจของนาอูรูเคยขึ้นอยู่กับการทำเหมืองฟอสเฟต แต่ปัจจุบันฟอสเฟตถูกนำมาใช้เกือบหมดแล้ว เศรษฐกิจของนาอูรูจึงตกต่ำลง รัฐบาลนาอูรูจึงพยายามหาแหล่งรายได้ใหม่ ๆ เช่น การท่องเที่ยว การทำประมง และการลงทุนจากต่างประเทศ
การเมือง
นาอูรูเป็นสาธารณรัฐ มีประธานาธิบดีเป็นประมุขแห่งรัฐ ประธานาธิบดีมีวาระดำรงตำแหน่ง 3 ปี ประธานาธิบดีคนปัจจุบันคือ David Adeang (ดำรงตำแหน่งตั้งแต่ปี 2022)
สาเหตุหลักที่นาอูรูกลายเป็นประเทศที่ยากจนที่สุดในโลกมาจาก 2 ปัจจัยหลัก ได้แก่
- การหมดทรัพยากรฟอสเฟต นาอูรูค้นพบแหล่งฟอสเฟตขนาดใหญ่บนเกาะในช่วงทศวรรษ 1900 และเริ่มทำเหมืองฟอสเฟตเพื่อส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ฟอสเฟตเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญที่ใช้ในการผลิตปุ๋ยและสารเคมีอื่นๆ นาอูรูได้ใช้ประโยชน์จากทรัพยากรฟอสเฟตนี้อย่างเต็มที่ และกลายเป็นประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในโลกในช่วงทศวรรษ 1970 และ 1980
อย่างไรก็ตาม ฟอสเฟตเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่จำกัด และนาอูรูได้หมดทรัพยากรฟอสเฟตเกือบหมดแล้วภายในปี 1990 ส่งผลให้เศรษฐกิจของนาอูรูตกต่ำลง นาอูรูจึงต้องเผชิญกับปัญหาและข้อท้าทายหลายประการ เช่น ปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ ปัญหาสิ่งแวดล้อมจากการทำลายป่าไม้เพื่อการทำเหมืองฟอสเฟต ปัญหาการอพยพของประชากร และปัญหาการทุจริตทางการเมือง
- ปัญหาการทุจริตทางการเมือง นาอูรูเผชิญกับปัญหาการทุจริตทางการเมืองมาอย่างยาวนาน รัฐบาลนาอูรูได้ใช้จ่ายเงินอย่างฟุ่มเฟือย และขาดการกำกับดูแล ส่งผลให้เงินทุนสำรองของประเทศหมดลง และเศรษฐกิจของประเทศตกต่ำลง
นอกจากสาเหตุหลัก 2 ประการนี้แล้ว นาอูรูยังเผชิญกับปัญหาและข้อท้าทายอื่นๆ อีกหลายประการ เช่น ปัญหาสิ่งแวดล้อมจากการทำลายป่าไม้เพื่อการทำเหมืองฟอสเฟต ปัญหาการอพยพของประชากร และปัญหาการขาดทักษะแรงงาน ปัญหาเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้นาอูรูกลายเป็นประเทศที่ยากจนที่สุดในโลก
นาอูรูใช้เวลาประมาณ 20 ปี จากประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในโลกกลายเป็นประเทศที่ยากจนที่สุดในโลก นาอูรูจึงเป็นตัวอย่างของประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในโลกกลายเป็นประเทศที่ยากจนที่สุดในโลกได้อย่างรวดเร็ว สาเหตุหลักมาจากการที่นาอูรูพึ่งพาทรัพยากรธรรมชาติเพียงอย่างเดียว และขาดการวางแผนในการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน
ปัจจุบัน นาอูรูกำลังพยายามแก้ไขปัญหาเหล่านี้ และเศรษฐกิจของนาอูรูเริ่มฟื้นตัวขึ้น นาอูรูมีรายได้ต่อหัวประชากรเพิ่มขึ้น และอยู่ในอันดับที่ 185 ของโลกในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม นาอูรูยังต้องเผชิญกับปัญหาและข้อท้าทายต่างๆ อีกมากมาย นาอูรูจำเป็นต้องมีแผนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน เพื่อไม่ให้ประเทศต้องประสบกับปัญหาที่คล้ายเดิมในอนาคต
ฉันได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับประเทศนาอูรูจากแหล่งต่างๆ ดังนี้
* เว็บไซต์ของรัฐบาลนาอูรู
* เว็บไซต์ขององค์การสหประชาชาติ
* เว็บไซต์ของธนาคารโลก
* เว็บไซต์ของสื่อมวลชนต่างๆ
ฉันได้ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลต่างๆ เหล่านี้ก่อนนำมาใช้เขียนกระทู้ เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลมีความถูกต้องและครบถ้วนมากที่สุด