Aquaponics แนวทางการผลิตอาหารยุคใหม่ : ข้อมูลสำหร้บผู้เริ่มต้น
Aquaponics แนวทางการผลิตอาหารยุคใหม่ : ข้อมูลสำหร้บผู้เริ่มต้น
อควาโปนิกส์ คืออะไร
Aquaponics มาจากคำว่า
Aquaculture แปลง่าย ๆ (หยาบ ๆ ) ว่าการเลี้ยงสัตว์น้ำ (แต่หมายรวมถึงพื่ชน้ำด้วย)
กับคำว่า
Hydroponics หมายถึง การปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน (ใช้น้ำ Hydro = น้ำ Ponic = การปลูก)
Aquaponics หมายถึง การเอาน้ำจากการเลี้ยงสัตว์น้ำ มาปลูกพืช
โดยส่วนใหญ่แล้ว สัตว์น้ำคือปลา และ พืชคือผัก
โดยทั่วไปแล้ว อควาโปนิกส์ เหมาะสำหรับ พืชกินใบ เพราะระบบมักมีไนเตรทสูง
ระบบประกอบด้วยสองส่วนหลักคือ บ่อปลากับ แปลงปลูกผักแบบไฮโดรโปรนิกส์
หลักการทำงานคือ เวลาเราเลี้ยงปลา จะมีของเสียจากปลา (เมื่อเลี้ยงไปนาน ๆ ต้องเปลียนน้ำ)
ดังนั้นเราก็จะเอาน้ำเลี้งปลามาวนรดผัก พืชผักจะดูดของเสียเป็นปุ๋ย เป็นการช่วยบำบัดน้ำเสียให้ปลา
ปลาก็จะปล่อยของเสีย รวมทั้งของเสียที่ตกค้างในระบบ จะถูกย่อยสลาย แล้วกลายเป็นสารอาหารสำหรับพืช
ในระบบการเลี้ยงปลาปกติ เมื่อน้ำเสียก็ต้องถายน้ำเปลี่ยนน้ำใหม่
ในระบบการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ เมือปลูกพืชไปนาน ๆ สารอาหารก็จะเปลียนแปลง สารบางตัวลดลงมาก บางตัวลดลงน้อย บางตัวเพิ่ม ทำให้ต้องเปลี่ยนสารละลายอาหารพืช
สิ่งเหล่านี้จะต้องทิ้งไป ทำให้เป็นภาระกับธรรมชาติจะต้องบำบัดของเสียเหล่านี้ และทำให้เปลืองน้ำ
Aquaponics แก้ปัญหาตรงนี้โดยเลียนแบบธรรมชาติ เอาของเสียจากระบบหนึ่งไปเป็นของดีอีกระบบหนึ่ง ระบบหมุนเวียนน้ำตลอด ทำให้พืชได้รับสารอาหารเต็มที่ตลอดเวลา ปลาได้รับการบำบัดจากพืชตลอดเวลาด้วยเช่นกัน
อันที่จริง Aquaponics มีมานานแล้วใน ไทยไนจีนนี่แหละ เช่นการเลี้ยงปลาในนข้าวเป็นต้น
แต่ในที่นี้จะหมายเอา Aquaponics ที่เป็นระบบสมัยใหม่เป็นหลัก หมายถึงระบบ ที่เลี้ยงปลา และปลูกผักแบบไฮโดร ฯ แบบที่มีการควบคุมพอสมควร ไม่ใช่แบบเลี้ยงแบบปล่อย ๆ อย่าง เลี้ยงปลาในนา หรือ ปลูกผักบุ้งผักกระเฉดในบ่อปลา อันนั้นลงทุนน้อย แต่ก็ไม่สะดวกสบาย ให้ผลผลิตต่พื้นที่สูงเท่าแบบที่เรากำลังจะคุยกัน
ข้อดีข้อเสีย
ข้อดี
1 ลดการใช้น้ำ ลดน้ำเสีย ของการเลี้ยงปลา และปลูกผัก
โดยปกติแล้วระบบ Aquaponics จะไม่มีการทิ้งน้ำเสียออกไปเลย มีแต่เติมน้ำเข้า อาจมีปล่อยน้ำเสียบ้างตอนที่คุมระบบไม่ได้ ต้องถ่ายน้ำออกป้องกันปลาตาย
เรื่องการใช้น้ำนั้น บางเว็บบอกว่าใช้แค่ 1% ของการปลูกผักปกติ(อันนี้คงโม้) แต่ผมว่า ได้ 10%ก็หรูแล้ว ตัวเลขจริงน่าจะซัก 20-30%ของการปลูกปกติ
2 ใช้เนื้อที่น้อย ให้อัตราผลผลิตต่อพื้นที่ดีกว่า เพราะพืชได้น้ำและสารอาหารตลอดเวลา เลี้ยงปลาได้หนาแน่น เพราะมีการบำบัดน้ำตลอดเวลา
บางเว็บบอกว่าได้ผักถึงสิบเท่าของการปลูกแบบปกติในพื่นที่เท่ากัน แต่ผมว่าซักสองสามเท่าน่าจะพอได้ แล้วแต่ชนิดของผักด้วย
3 สามารถปลูกใกล้แหล่งบริโภคได้ ไม่ต้อขนใกล เนื่องจากระบบที่ใช้น้ำและพื้นที่น้อย
การผลิตใกล้แหล่งบริโภคทำให้ลดการขนส่ง และบริโภคได้สดกว่า เช่น ถ้าทำระบบในครัวเรื่อน ทำให้ไม่ต้องซื้อ ไม่ต้องขับรถไปซื้อของสด ไม่ต้องแช่เย็น และกินได้อาหารสดกว่ามาก
4 ลดการใช้สารเคมี เนื่องจากพื้นที่น้อยการลงทำโรงเรือนเพื่อป้องกันโรคแมลงทำได้ง่ายกว่า
ข้อเสีย
1 ลงทุนสูง
2 ต้องใช้พลังงานโดยเฉพาะไฟฟ้า
3 ระบบที่เลี้ยงปลาหนาแน่นมาก อาจต้องมีระบบสำรองไฟฟ้า
4 ต้องเรียนรู้หลายอย่าง ในการดำเนินระบบ ต้องรู้จักพืช สัตว์ และงานช่างหลายแขนง (นี่อาจเป็นข้อดี เพราะมันสนุกมากเลย) สั้น ๆ คือทำยากกว่า ปลูกผัก หรือ เลี้ยงปลา เดี่ยว ๆ ในแง่การเรียนรู้ แต่ในแง่การเดินระบบ ถ้าศึกษาจนรู้แล้ว Aquaponics ทำงานได้ง่ายกว่าสะดวกกว่า
5 ระบบเป็นการ ประณีประณอม ระหว่าการเลื้ยงสัตว์กับพืช ทำให้อาจได้ได้ผลผลิตมากอย่างระบบที่แยกกันผลิต โดยทั่วไป ผู้เลี้ยงจะต้องตัดสินใจว่า จะเน้นพืช หรือ ปลา จะเอาทั่งสองอย่างเป็นเรื่องยาก
6 กำจัดโรคแมลงยากกว่า เช่นถ้าปลาเป็นโรค ถ้าเลี้ยงปลาอย่างเดียวให้ยาฆ่าเชื้อได้เลย แต่ระบบนี้ทำไม่ได้ เพราะระบบอควาโปนิกส์ต้องการจุลินทรีย์ในการเปลี่ยนของเสีย
คำเตือน
ข้อมูลในเว็บมักให้ข้อมูลด้านดี ของระบบ Aquaponics มากเกินจริง เพราะเจ้าของเว็บไซต์(ฟรั่ง)มักขายอุปกรณ์เป็นหลักไม่ได้เป็นผู้ผลิตอาหารโดยตรง
สำหรับผม ระบบนี้เหมาะสำหรับ ทำเป็นผักสวนครัว ใช้กินในครอบครัว จะได้ของสด สะอาด ปลอดภัย ไม่ต้องแช่เย็น ไม่ต้องขับรถไปซื้อ ใช้ของเสียในครัวให้เป็นประโยชน์ เช่นเอามาเลี้ยงปลา เลี้ยงใส้เดือน
แต่ผมคิดว่า ไม่เหมาะสำหรับ ทำแบบการค้า เพราะลงทุนสูงมาก ระบบไม่สามารถเน้นทั้งผักและปลาได้ ไม่เหมาะสำหรับเมืองไทย เพราะเมืองไทยมีพื้นที่สำหรับเพาะปลูกเหลือเฟือ(คู่แข่ง)
ไม่เหมือนเมืองนอก พื้นที่เพาะปลูกน้อย อาหารต้องขนส่งมาไกล ราคาแพง
อีกอย่าง Aquaponics เป็นศาสตร์ที่ยังไ่ม่นิ่ง มีความหลากหลายมาก ข้อแนะนำในบทความนี้ อาจไม่เหมาะกับทุกสถานะการณ์
ไม่มีระบบแบบใหนดีที่สุด ทุกอันมัข้อดีข้อเสียต่างกันไป
ตัวแปรมีเยอะมาก เช่น ชนิดของปลา ชนิดของพืชที่ปลูก จำนวนชนิดของพืชที่ปลูก สัดส่วนแปลงปลูกต่อปลา ชนิดของวัสุดปลูก ชนิด/การตั้งระบบ อุณหภูมิ pH ฯลฯ
ข้อมูลบางอยางอาจถูกในบริบทหนึ่ง แต่ผิดกับบางบริบท เช่น มีข้อมุลว่า ระบบ Aquaponics พืชเจริญเติบโตเร็วกว่า การปลูกแบบ ไฮโดรโปนิกส์ อาจไม่จริงเสมอไป
หลัการทำงานของระบบ แบบ ละเอียดขึ้นหน่อย
ระบบโดยมากจะประกอบด้วย บ่อเลี้ยงปลา และแปลงปลูกไฮโดรโปรนิกส์ มีปั้ม ปั้มน้ำวนในระบบให้ของเสียส่งไปบำบัด พืชได้ปุ๋ย
ส่วนรายละเอียด เดี๋ยวผมจะมาอธิบายอีกที ตอนนี้เอาหลักการทำงาน ให้ลึกขึ้นก่อน เพราะถ้้าไม่เข้าใจ อาจทำระบบล่มได้เลยทีเดียว
มองเผิน ๆ ระบบจะมีแค่นี้
ที่มา: Aquaponicsthai