หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ขยะอวกาศ

เนื้อหาโดย MaYee

        ขยะอวกาศ (Space Debris) คือ สิ่งมีชีวิตที่มนุษย์สร้างขึ้นและถูกทิ้งไว้ในวงโคจรรอบโลกโดยไม่ใช้งานแล้ว นอกจากนี้ ยังรวมถึงสิ่งวัสดุต่าง ๆ ที่อยู่ในวงโคจรโลกซึ่งเป็นผลมาจากการปฏิบัติของมนุษย์ในอวกาศ ตัวอย่างเช่น ดาวเทียมที่หมดอายุ ท่อนจรวดที่ใช้ในการส่งดาวเทียมหรือยานอวกาศ ฝาครอบดาวเทียม น็อต ข้อต่อ และชิ้นส่วนต่าง ๆ ของจรวด อีกทั้งยังรวมถึงกากเชื้อเพลิงที่เหลือจากการใช้งานและถูกทิ้งออกจากยานอวกาศด้วย รวมถึงเศษชิ้นส่วนที่เกิดขึ้นจากการชนกันของขยะอวกาศและการระเบิดของซากจรวดหรือดาวเทียมในวงโคจรรอบโลก 

       หกสิบปีมาแล้วที่มนุษย์เริ่มทิ้งขยะในอวกาศ การทิ้งขยะนี้เริ่มขึ้นด้วยการส่งดาวเทียมสปุตนิก 1 ขึ้นสู่วงโคจรรอบโลกในวันที่ 4 ตุลาคม 2500 ดาวเทียมสปุตนิก 1 มีขนาดเล็กเพียงแค่ลูกบอลชายหาด แต่การส่งมันขึ้นสู่อวกาศต้องใช้จรวดขีปนาวุธขนาดใหญ่ R-7 rocket ซึ่งมีความสูงถึง 30 เมตร และน้ำหนักถึง 300 ตัน เพื่อขับดันมันขึ้นสู่วงโคจรรูปวงรีที่อยู่ห่างจากพื้นโลกไกลถึง 215 - 939 กิโลเมตร โดยมีความเร็วในการเคลื่อนที่ถึง 29,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีรอบโลกรอบละ 96.2 นาที

        สปุตนิก 1 เป็นดาวเทียมแรกของโลกที่ถูกส่งขึ้นสู่อวกาศเพื่อทดลองส่งสัญญาณวิทยุกลับมายังพื้นโลก อย่างไรก็ตาม มันมีอายุการทำงานเพียง 21 วันเท่านั้น แบตเตอรีก็หมดพลังงาน ทำให้มันกลายเป็นขยะอวกาศลอยอยู่ในอวกาศ จนกระทั่งเมื่อผ่านไปสองเดือน แรงโน้มถ่วงของโลกส่งผลให้มันถูกดึงลงมาในบรรยากาศโลกและไหม้ละลายไปตามนั้น แถมยังสร้างปัญหาขยะอวกาศในอวกาศด้วย กระทั่งวันนี้ขยะดาวเทียมสปุตนิก 1 ยังคงเป็นปริมาณขยะที่ลอยอยู่ในอวกาศและอาจก่อให้เกิดความเสียหายในอนาคตของเราได้ หลายๆ คนพิจารณาเหตุการณ์นี้เป็นการเข้าใจคุณลักษณะและผลกระทบของการทิ้งขยะในอวกาศที่มีต่อโลกของเราเองได้อย่างชัดเจน เพราะนี่คือหนึ่งในตัวอย่างที่ชี้ชัดถึงความสำคัญของการรักษาและปกป้องสิ่งแวดล้อมของเราในยุคที่เทคโนโลยีและการสำรวจอวกาศก้าวหน้าขึ้นอย่างรวดเร็วที่กำลังพัฒนาอยู่ในปัจจุบันนี้

       ในช่วงสงครามเย็น มีการแข่งขันด้านอวกาศระหว่างสหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียตในการส่งดาวเทียมและสถานีอวกาศขนาดใหญ่ขึ้นสู่อวกาศ ตัวอย่างเช่น ห้องปฏิบัติการลอยฟ้าสกายแล็บของสหรัฐอเมริกา สถานีอวกาศเมียร์และสถานีอวกาศซอลยุทของสหภาพโซเวียต สถานีอวกาศเหล่านี้มีมวลหลายหมื่นตันในอวกาศ

        นอกจากนี้ยังมีดาวเทียมทหารพลังงานนิวเคลียร์ เช่น คอสมอส 954 ของสหภาพโซเวียต แต่ดาวเทียมเหล่านี้ปล่อยกากนิวเคลียร์ทิ้งไว้ในอวกาศเป็นเวลาหลายพันปีก่อนที่จะเสื่อมสลาย ตั้งแต่ปี พ.ศ.2500 จนถึงปัจจุบัน มีการส่งดาวเทียมขึ้นสู่อวกาศมากกว่าห้าพันดวง อย่างไรก็ตาม ดาวเทียมส่วนใหญ่มีอายุการใช้งานไม่เกิน 15 ปี. ดังนั้น ในวงโคจรรอบโลกมีดาวเทียมที่กำลังปฏิบัติงานได้อยู่เพียง 6% เท่านั้น. ส่วนอื่นๆ ประกอบด้วยดาวเทียมที่หมดอายุแล้ว (16%) ท่อนจรวดนำส่ง (12%) ชิ้นส่วนต่างๆ (7%) และเศษซากซึ่งเกิดจากการระเบิดหรือการชนกัน (59%)

       ในปัจจุบัน นักวิทยาศาสตร์เข้าใจว่ามีขยะอวกาศขนาดเล็กมากมายอยู่ในวงโคจรรอบโลกโดยจำนวนเป็นร้อยล้านชิ้น ซึ่งเหล่าขยะเหล่านี้เป็นวัตถุที่ไม่สามารถตรวจจับได้โดยง่าย เนื่องจากขนาดเล็กและความเร็วที่ทันที และนักวิทยาศาสตร์ต้องพยายามออกแบบเทคโนโลยีเพื่อตรวจจับและควบคุมขยะเหล่านี้ในวงโคจรของโลก ขยะอวกาศที่มีขนาดใหญ่กว่า 10 เซนติเมตรสามารถตรวจจับได้โดยใช้กล้องโทรทรรศน์บนพื้นโลกประมาณ 47,000 ชิ้น แม้ว่าจำนวนขยะในขนาดนี้จะน้อยกว่าขยะเล็ก แต่มีความเสี่ยงที่มากขึ้นเมื่อขยะอวกาศที่มีขนาดใหญ่นี้ชนกับดาวเทียมหรือสถานีอวกาศ โดยเหตุการณ์เหล่านี้อาจสร้างความเสียหายอย่างใหญ่ร้าย มากถึงขั้นที่เรียกได้ว่า "ตายอย่างไม่รู้ตัว"

        ตัวอย่างหนึ่งคือ ขยะอวกาศขนาด 1 กิโลกรัมที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 7.5 กิโลเมตรต่อวินาที มีพลังงานที่มากพอที่จะเทียบเท่ากับรถบัสขนาด 16 ตันที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 216 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ดังนั้น เมื่อขยะอวกาศขนาดนี้ปะทะกับดาวเทียมหรือสถานีอวกาศ จะเกิดการสร้างพลังงานอย่างมหาศาล และเป็นอันตรายต่ออุปกรณ์ของมนุษยชาติในอวกาศ"

       การจำกัดปริมาณขยะอวกาศในปัจจุบันเป็นเรื่องที่ท้าทายมากเนื่องจากเทคโนโลยีที่มีอยู่ในขณะนี้ยังไม่สามารถแก้ปัญหานี้อย่างแท้จริงได้ สาเหตุหลักคือการส่งยานอวกาศขึ้นไปเก็บขยะอวกาศอาจเป็นปัญหาเอง เนื่องจากยานอวกาศที่ใช้ในการส่งเหล่านี้มีขนาดใหญ่และมีจำนวนมาก ซึ่งอาจกลายเป็นขยะอวกาศในที่สุด  การทำลายขยะอวกาศด้วยการยิงอาจทำให้เกิดเศษเล็กๆที่ยากต่อการตรวจจับและกระจายไปในทิศทางต่างๆด้วยความเร็วสูง ทำให้เกิดอันตรายมากขึ้น

        ดังนั้น วิธีหนึ่งในการป้องกันอันตรายจากขยะอวกาศคือการควบคุมการปลดระวางดาวเทียมอย่างเข้มงวด สำนักงานคณะกรรมการร่วมด้านขยะอวกาศ (Agency Space Debris Coordination Committee: IADC) ได้กำหนดแนวทางสากลที่กำหนดให้ดาวเทียมที่อยู่ในวงโคจรต่ำ (Low Earth Orbit: LEO) จะต้องถูกออกแบบให้สามารถตกลงสู่โลกและเผาไหม้ในบรรยากาศในระยะเวลาไม่เกิน 25 ปีหลังจากการใช้งานสิ้นสุด สำหรับดาวเทียมในวงโคจรสถิต (Geostationary Orbit: GEO) ซึ่งอยู่ที่ความสูงประมาณ 35,780 กิโลเมตร ก่อนที่จะสิ้นสุดอายุการใช้งาน จะต้องการการจัดการเชื้อเพลิงให้ดาวเทียมลอยสูงขึ้นเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 300 กิโลเมตร เพื่อให้เข้าไปอยู่ในวงโคจรสุสาน (Graveyard Orbit) และทุกชนิดของดาวเทียมจะต้องมีการออกแบบแบตเตอรี่ที่ช่วยป้องกันการระเบิดเมื่อสิ้นสุดการใช้งานเสร็จสิ้นแล้ว นี้เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการจัดการขยะอวกาศและป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตจากขยะอวกาศที่ไม่ควบคุมได้อย่างเหมาะสม

       ในการเฝ้าระวังอันตรายจากขยะอวกาศ ศูนย์ปฏิบัติการร่วมทางอวกาศ (Combined Space Operations Center: CSpOC) ได้ดำเนินการตรวจการณ์อวกาศด้วยเรดาร์และเครือข่ายกล้องโทรทรรศน์ภาคพื้นที่ติดตั้งรอบโลก และทำการลงทะเบียนวัตถุในอวกาศทุกชนิดจำนวนมากกว่า 40,000 รายการที่เว็บไซต์นั้น นอกจากนี้ยังมีการแจ้งเตือนข่าวสารถึงเจ้าของดาวเทียมทุกประเทศ เพื่อให้หลีกเลี่ยงเส้นทางโคจรที่มีขยะอวกาศเข้ามาใกล้เคียงดาวเทียมของตน อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนเส้นทางดาวเทียมชั่วคราวเพื่อหลีกขยะอวกาศอาจเสี่ยงต่อภารกิจและรายได้ เนื่องจากการเสียเชื้อเพลิงในการควบคุมดาวเทียมให้ออกจากเส้นทางและกลับเข้าสู่วงโคจรเดิมอาจทำให้ดาวเทียมมีอายุการใช้งานสั้นลงอีกด้วย ดังนั้นในการตัดสินใจจำเป็นต้องพิจารณาข้อมูลเพิ่มเติมอย่างละเอียด ประเทศที่เป็นเจ้าของดาวเทียมจำนวนมาก เช่น ญี่ปุ่น และหลายประเทศในยุโรป ได้ลงทุนในการสร้างระบบกล้องโทรทรรศน์ติดตามดาวเทียมและขยะอวกาศเพื่อเฝ้าระวังดาวเทียมของตนเองอย่างระมัดระวังเป็นอย่างมาก นี้เป็นเพราะว่าเจ้าของดาวเทียมจำนวนมากมีความสนใจในการรักษาความปลอดภัยและประสิทธิภาพของดาวเทียมของพวกเขาในอวกาศโดยรวม

เนื้อหาโดย: MaYee
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
MaYee's profile


โพสท์โดย: MaYee
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ไทย ชวดเหรียญทอง ปันจักสีลัต ทั้งที่กำลังจะขึ้นรับเหรียญค้นพบแหล่งทองคำกว่า 500 ตัน มูลค่าสูงถึง 600,000 ล้านหยวนแฉเรือทุนไทยขายน้ำมันให้เขมร อดีต สว ประกาศ เตือน ทัพเรือสั่ง 'จมเรือ' ได้ทันที เพราะประกาศกฎอัยการศึกสื่อนอกอวย ทหารไทยสุดเจ๋ง ไม่ใช่แค่รบ แต่ถล่ม 'เมืองสแกมเมอร์' พังท่อน้ำเลี้ยงโจรได้สิ้นซากคลังเขมรเกลี้ยง ฮุนเซน ขอเงินเดือนเอกชน 5% อ้างช่วยชาติดาราดัง "ยุน ซอก ฮวา" เสียชีวิตแล้วย้อนวันวาน “ศูนย์อาหารมาบุญครอง พ.ศ. 2535” ต้นแบบฟู้ดคอร์ทไทย จากคูปองเงินสด สู่ยุคสแกนจ่ายในปลายนิ้วเครื่องบินรบไทยรุ่นใหม่ T50TH ลงสนามจริงครั้งแรกผลงานประทับใจด่วนช็อกวงการ! CIB บุกรวบ "มนัส บุญจำนงค์" ฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เอี่ยวคดีฉ้อโกงถล่มอุโมงค์ลับ เนิน 350 ทัพฟ้าส่ง F-16 เสิร์ฟไข่ 6 รอบติดสถานีรถไฟเกือบเจ๊ง แต่รอดเพราะแมวตัวเดียว ตำนาน ทามะนายสถานีขนฟูแห่งญี่ปุ่นปุ๋ยล็อตใหญ่ ไปชายแดนเกือบ 3,000 นาย
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ดาราดัง "ยุน ซอก ฮวา" เสียชีวิตแล้วเกษตรกรยุโรป บุก บรัสเซลส์กว่า 10,000 คน รถแทรกเตอร์เพียบเตือนภัยสายเนี๊ยบ! ผสมน้ำยาล้างห้องน้ำ 2 ชนิดหวังสะอาดล้ำ แต่กลับได้ก๊าซพิษทำลายปอดเฉียบพลันด่วนช็อกวงการ! CIB บุกรวบ "มนัส บุญจำนงค์" ฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เอี่ยวคดีฉ้อโกงCCT: ผู้ชี้เป็นชี้ตๅยของการรบทางอากาศ
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
มารู้จักหน่วย BHQ หน่วยองครักษ์ พิทักษ์ฮุนเซนรู้หรือไม่ ? ที่มาและประวัติของ "สุกี้ยากี้" เป็นมาอย่างไร ?ทึ่งทั่วโลก : หุบเขาเทวดาวั้งเซียนกู่" หมู่บ้านที่สร้างอยู่ริมหน้าผา สถานที่ท่องเที่ยวแสนน่าทึ่งของประเทศจีนทึ่งทั่วไทย : "น้ำตกแม่กาษา" น้ำตกลำธารใส Unseen แม่สอด จังหวัดตาก
ตั้งกระทู้ใหม่