ซอยจุ๊เนื้อวัว ซาชิมิอีสาน ที่กำลังเป็นที่นิยมกิน
ซอยจุ๊เนื้อวัว ซาชิมิอีสาน ที่กำลังเป็นที่นิยมกิน
ซอยจุ๊ ไม่ใช่แค่อาหาร แต่เป็นวัฒนธรรมของชาวอีสาน เพราะแถบอีสานนั้นมีการเลี้ยงวัวกันเยอะ หาได้ง่าย เป็นสัตว์ใหญ่ที่แบ่งกันได้ทั้งหมู่บ้าน วัวจึงกลายเป็นอาหารหลักของชาวอีสานในงานสังสรรค์ต่างๆ ที่จะซื้อวัวมาล้มในงานบุญอย่างงานแต่งงาน งานบวช งานบุญข้าวสาก แล้วแบ่งเนื้อวัวที่ล้มมาทำเป็นเมนูต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นลาบ ก้อย ซอยจุ๊ ต้มแซ่บ เนื้อแดดเดียว
แต่บางครั้งถ้าไม่ใช่ในโอกาสงานบุญก็จะมีการ ตกพูด หรือการที่คนหนึ่งคนใดไปหาซื้อวัวมาล้ม แล้วนำมาแบ่งขายเอากำไรนิดหน่อยในหมู่บ้าน ส่วนใหญ่ก็จะเป็นโอกาสพิเศษอีกเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นงานเทศกาลหรือการรวมญาติในช่วงวันหยุดที่คนในครอบครัวที่แยกย้ายกันไปทำงานที่อื่นกลับบ้านมาเจอกัน โดยการซื้อขายวัวในแถบอีสานนั้นจะมีการจัดชุดให้เหมาะกับการนำไปทำอาหารต่อ ชุดหนึ่งจะได้ทั้งเนื้อวัว เลือด ตับ ผ้าขี้ริ้ววัว ขอบกระด้ง เพี้ยอ่อน และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ ดีวัว หรือน้ำที่อยู่ในถุงน้ำดีของวัว เป็นสิ่งสำคัญมากในการทำให้อาหารอร่อยขึ้นด้วยความขมและความหวานปลาย
ซอยจุ๊เป็นอาหารที่อยู่คู่ชาวอีสานมาอย่างยาวนาน เคยถูกมองว่าเป็นเมนูเปิบพิสดารมาก่อน แต่จนมาถึง ณ ยุคปัจจุบันนี้ที่ชื่อเสียงของซอยจุ๊ดังไกลไปทั่วประเทศ กลายเป็นหนึ่งในเมนูอาหารเลิศรสที่สามารถรับประทานแบบดิบ ๆ ได้ไม่ต่างอะไรจาก แซลมอน หรือ ปลาหมึก จากญี่ปุ่น เกาหลี เลยทีเดียว หวังว่าหากได้รับการสนับสนุนที่ดีพอจากภาครัฐ ไม่แน่ว่า”ซอยจุ๊”อาจกลายเป็นเมนูชื่อดังที่กระฉ่อนไปทั่วโลกเลยก็เป็นได้
เริ่มที่ ซอยจุ๊ คำว่า ซอย แปลว่าหั่น ส่วนคำว่า จุ๊ แปลว่า จิ้ม ซอยจุ๊คือการนำส่วนของเนื้อวัวดิบที่สดและเครื่องในวัวอย่างตับ ผ้าขี้ริ้ววัว และขอบกระด้ง มาหั่นเป็นชิ้นพอดีคำโดยไม่ต้องปรุงรสใดๆ แล้วจิ้มกินกับน้ำจิ้มที่เรียกว่า แจ่วขม
หลายคนสงสัยว่า แจ่วขม ประกอบด้วยอะไร ประกอบด้วยดังนี้ พริกป่น น้ำปลา ข้าวคั่ว ต้นหอม ผักชี ใบมะกรูดซอย ขี้เพี้ยวัวต้มสุก และสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้คือดีขมจากวัว จากนั้นคนส่วนผสมของแจ่วให้เข้ากันแล้วนำเนื้อวัวที่เตรียมไว้จิ้มกับแจ่วขม ถ้ามีผักกับแก้มจะดีมาก
อันตรายจากการจุ๊
แต่แน่นอนว่าการกินเนื้อดิบย่อมมี ”พยาธิตืดวัว” ปะปนอยู่ในอาหาร แต่เมื่อการกินแบบนี้อยู่คู่กับวัฒนธรรมชาวอีสานมาอย่างยาวนาน ชาวอีสานก็ต้องให้ค่าความสำคัญกับสุขอนามัยด้วย หากไม่ระวังก็อาจมีความเสี่ยงจากพยาธิทำก่อให้เกิดหลายๆโรคตามมา เช่น ไข้หูดับ ท้องร่วงเรื้อรัง ปวดท้อง ปวดกล้ามเนื้อได้