รู้ทันกลโกง หนี้นอกระบบ ก่อนตกเป็นเหยื่อ พร้อมวิธีการรับมือฉบับใช้ได้จริง
ในยุคที่เศรษฐกิจฝืดเคือง สภาพคล่องทางการเงินไม่ค่อยจะดี พ่วงมากับภาวะเงินเฟ้อในปัจจุบันที่ธนาคารก็ยิ่งทยอยขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ ยิ่งส่งผลกระทบต่อภาคประชาชนอย่างหนัก ทำให้หลายคนต้องหาหนทางในการหมุนรายได้ให้ทันตามรายจ่ายซึ่งในบางครั้งก็ไม่พอกับรายรับจึงจำเป็นต้องกู้หนี้ยืมสิน ไม่ว่าจะเงินกู้ หรือสินเชื่อต่าง ๆ ยิ่งคนที่ไม่มีรายได้ประจำยิ่งกู้ธนาคารยากจึงเริ่มหาหนทางที่กู้เงินได้เร็ว อนุมัติไวจนนำไปสู่การเป็นเหยื่อจากการถูกหลอกลวงซึ่งในวันนี้เราจะช่วยให้คุณ รู้ทันกลโกง หนี้นอกระบบ ซึ่งจะมีอะไรน่ารู้บ้าง และต้องรับมืออย่างไร ไปเริ่มกันเลย
เงินนอกระบบ VS หนี้นอกระบบ
เริ่มต้นสิ่งที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าเงินนอกระบบกับหนี้นอกระบบนั้นไม่เหมือนกันซึ่งเราจะสรุปแบบพอสังเขปเพื่อให้ง่ายต่อคุณผู้อ่านเข้าใจ ดังนี้
หนี้นอกระบบ คือหนึ่งในเงินนอกระบบซึ่งในปัจจุบันมีเงินนอกระบบในรูปแบบอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น แชร์ลูกโซ่อย่างคดี Forex หรือแม่มณีที่มีการหลอกลงทุนจากการระดมทุนเป็นทอด ๆ รวมถึงการใช้เงินในการทำธุรกิจที่ไม่อยู่ภายใต้การควบคุมกำกับดูแลของทางราชการซึ่งทำให้เป็นช่องทางหนึ่งที่ง่ายต่อมิจฉาชีพแฝงตัวเพื่อเข้าไปหลอกเอาเงิน
รู้ทันกลโกง หนี้นอกระบบ
ต่อมาจะเจาะไปที่การกู้นอกระบบ หรือหนี้นอกระบบที่หลายคนรู้จักกันดีนั่นเอง โดยจะเป็นการกู้ที่มีเงื่อนไขจากเจ้าหนี้เพื่อทำการตกลงกับลูกหนี้ซึ่งจะคลุมเครือและไม่ได้มีการควบคุมจากธนาคารแห่งประเทศไทยจึงทำให้ลูกหนี้มีโอกาสสูงที่จะถูกโกง โดยลักษณะเด่นที่เห็นได้ชัดของเงินกู้นอกระบบได้แก่
- ให้ดอกเบี้ยต่ำ โดยไม่บอกรายละเอียดของว่าดอกเบี้ย 10% คิดเป็นต่อวัน หรือต่อเดือน หรือต่อปี
- สัญญาคลุมเครือ โดยเฉพาะการจ่ายดอกเบี้ยผู้กู้อาจจะต้องจ่ายดอกเบี้ยแบบทบต้นทบดอกในอัตราดอกเบี้ยที่สูงมาก ๆ แต่มีการเขียนในสัญญาแบบคลุมเครือ หรือระบุเงื่อนไขไม่ชัดเจน
- ใช้ระบบฝากขาย ผู้กู้จะโอนกรรมสิทธิ์ให้กับเจ้าหนี้ ถ้าจ่ายไม่ทันเจ้าหนี้จะใช้สิทธิ์ตามสัญญาเพื่อยึดทรัพย์
- ทวงหนี้แบบมหาโหด ซึ่งมีได้หลายรูปแบบ ได้แก่ การก่อกวนความสงบ โทรศัพท์ข่มขู่ หรือแม้กระทั่งทำร้ายร่างกาย หรือนำทรัพย์ที่มีอยู่ไปโดยไม่ได้รับอนุญาต
ตัวอย่างการกู้เงินนอกระบบ
นาย B ที่กำลังเดือดร้อนเรื่องเงินต้องการเงินก้อนนำไปหมุนเวียนใช้ในครัวเรือนจึงได้ทำการค้นหาในเว็บไซต์โดยพบว่า นาย A เป็นผู้ให้บริการเงินกู้นอกระบบซึ่งไม่จัดเป็นผู้ให้กู้ที่อยู่ในระบบสถาบันการเงิน หรือธนาคารที่มีการโฆษณาน่าสนใจว่าถ้าหากกู้ 10,000 บาทจะผ่อนเพียงวันละ 150 บาทเท่านั้นทำให้นาย B สนใจและได้ทำสัญญาโดยไม่ได้อ่านรายละเอียดเงื่อนไขทั้งหมดอย่างละเอียดและเข้าใจส่งผลให้หลังจากนาย B ได้รับเงิน นาย A ได้คิดอัตราดอกเบี้ยการกู้ยืม ดังนี้
ยอดเงินทั้งหมดที่ต้องจ่ายคืน = 150×90 = 13,500 บาท ซึ่งคิดอัตราดอกเบี้ย = 13,500-10,000 = 3,500 บาท และอัตราดอกเบี้ยจ่ายต่อ 3 เดือน = (3,500+10,000)x100 = 35% ต่อ 3 เดือน แต่ถ้าหากคิดเป็นปีอัตราดอกเบี้ยจ่ายต่อปี = (35/3)x12 = 140% ต่อปี
โดยมีข้อสังเกตก็คือ จำนวนเงินจ่ายคืน หรือดอกเบี้ยที่นายทุนเงินกู้แจ้งต่อผู้กู้นั้นมักจะมาในอัตราดอกเบี้ยที่ทำให้ผู้กู้รู้สึกว่าจำนวนน้อยกว่าสถาบันการเงิน หรือธนาคาร แต่พอหากนำไปคำนวณจริง ๆ จะพบว่าดอกเบี้ยที่ถูกเรียกเก็บนั้นสูงกว่าสถาบันการเงินและธนาคารที่มีทางการกำกับดูแลเป็นจำนวนมาก
ดังตัวอย่างที่อัตราดอกเบี้ยที่จ่ายต่อ 3 เดือนสูงถึง 35% และหากคิดเป็นปีดอกเบี้ยสูงถึง 140% ต่อปีซึ่งถือเป็นอัตราดอกเบี้ยที่สูงมาก
ตัวอย่างสัญญาอำพรางเงินกู้
จะเป็นอีกวิธีการหนึ่งที่นายทุนมักจะให้ผู้กู้ใช้บัตรผ่อนสินค้า หรือบัตรเครดิตซื้อาินค้าที่มูลค่าแพงกว่าเงินกู้ เช่น หากต้องการกู้เงิน 20,000 จะให้ซื้อสินค้ามูลค่า 26,000 บาท เมื่อสินค้านายทุนเงินกู้จะให้ผู้กู้นำสินค้านั้นมาแลกกับเงินกู้จำนวน 20,000 บาทแล้ว ผู้กู้จะต้องรับผิดชอบชำระสินค้ากับค่าสินค้ากับบริษัทบัตรผ่อนสินค้า หรือบัตรเครดิตพร้อมทั้งดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมอื่น ๆ โดยนายทุนเงินกู้จะไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงในการปล่อยกู้เงินในครั้งนี้เพราะทันทีที่จ่ายเงินไปให้กับผู้กู้นายทุนเงินกู้จะได้รับสินค้ามูลค่าสูงกว่าเงินที่จ่ายให้ผู้กู้ไป
ป้องกันกลโกงเงินกู้นอกระบบได้อย่างไร
ต่อมาจะเป็นการวิธีการที่จะช่วยให้เราป้องกันกลโกง หรือหยุดวงจรก่อนก่อหนี้โดยมีวิธีการ ดังนี้
- ให้วางแผนรายรับรายจ่ายล่วงหน้าโดยให้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดเพื่อสร้างวินัยไม่ให้ก่อปัญหาด้านการเงินที่ไม่พอใช้จนนำไปสู่การก่อหนี้
- จากนั้นให้ประเมินความสามารรถในการชำระเงินก่อนก่อหนี้ โดยอย่าคิดแค่ว่าจ่ายได้แต่ให้เริ่มต้นมาจากการคำนวณค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่จะมีเงินเหลือพอจะใช้หนี้ในอนาคตหรือไม่ หากจะมีการก่อหนี้
- จากนั้นศึกษารายละเอียดเงินกู้จากผู้ให้กู้เพื่อป้องกันปัญหาทางการเงินที่อาจเกิดจากสัญญาที่ถูกระบุไว้อย่างคลุมเครือโดยควรตรวจสอบรายละเอียดจำนวนเงินกู้ อัตราดอกเบี้ยที่จะต้องผ่อนว่ามีอัตราเท่าไร คิดแบบรายวัน รายเดือน หรือรายปี
- แนะนำให้กู้เงินกับสถาบันการเงิน หรือธนาคารที่มีกฎหมายรองรับอย่างถูกต้องในระบบดีกว่าเพราะให้รายละเอียดชัดและมีความเป็นธรรมมากกว่า
สิ่งที่ควรทำหากตกเป็นเหยื่อเงินกู้นอกระบบ
จากข้างต้นหากคุณไม่สามารถกลโกงของเงินกู้นอกระบบจนตกเป็นเหยื่อแล้วกำลังประสบปัญหาที่ต้องแบกรับภาระดอกเบี้ยสูง ผู้กู้ควรหาแหล่งเงินกู้ในระบบมาชำระคืน แต่หากไม่สามารถทำได้ยอมขายสินทรัพย์บางมาเพื่อชำระหนี้แล้วแต่ยังไม่สามารถคืนได้หมด แนะนำให้เข้ามาขอคำปรึกษากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
- สำนักนโยบายพัฒนาระบบการเงินภาคประชาชน สำนักนโยบายพัฒนาระบบการเงินภาคประชาชน สำนักงานเศรษฐกิจการคลังกระทรวงการคลัง ซอยอารีย์สัมพันธ์ ถนนพระราม 6 สามเสนใน พญาไท กรุงเทพฯ โทร. 1359
- ศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม กระทรวงยุติธรรม ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ โทร. 0-2575-3344
- ศูนย์ดำรงธรรมกระทรวงมหาดไทย ตู้ ป.ณ. 1 ปณฝ. มหาดไทย กรุงเทพฯ โทร. 1567
จากข้างต้นที่กล่าวมาทั้งหมดก่อนจะรู้ทันกลโกง หนี้นอกระบบก็ต้องเริ่มมาจากการทำความเข้าว่าเงินนอกระบบมันคืออะไรซึ่งได้มีการอธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ ว่าหนี้นอกระบบคือหนึ่งในเงินนอกระบบที่สามารถสร้างผลกระทบให้แก่ผู้ที่กู้ยืมได้ค่อนข้างชัดเจน ทั้งจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงจริง รวมไปถึงการติดตามทวงหนี้ที่ใช้ความรุนแรง
แม้จะมีวิธีป้องกันกลโกงหลายรูปแบบที่เริ่มได้ง่าย ๆ จากการสร้างวินัยทางการเงินในการบริหารจัดการไม่ให้เป็นหนี้ หรือไปกู้เงินจากในระบบ แต่ก็อาจจะทำได้ยากในคนบางกลุ่มจนนำไปสู่การกู้หนี้นอกระบบที่กำลังส่งผลกระทบตามมามากมายและหลายคนก็อยากหลุดพ้น
ภัยจากหนี้นอกระบบ
รู้ก่อนเป็นเหยื่อ!
ความน่ากลัวของ "หนี้นอกระบบ"
- ดอกเบี้ยแพงมหาโหด อาจสูงถึงวันละหลายร้อยบาท - คิดดอกเบี้ยคงที่ ไม่มีลดต้นลดดอก - สัญญาไม่เป็นธรรม หรือบีบให้กู้เกินจำนวนที่ต้องการ - เสี่ยงโดนทวงหนี้โหด ข่มขู่ หยาบคาย ทำลายข้าวของ ทำร้ายร่างกาย - อาจโดนทวงหนี้จากคนใกล้ชิด หรือประจานให้อับอาย - อาจโดนยึดบ้าน ยึดที่ดิน
กลลวงของแก๊งหนี้นอกระบบ - ปล่อยเงินกู้สุดง่าย ไม่ตรวจเครดิตบูโร - อ้างว่าได้เงินไว ผ่อนสบาย - บอกอัตราดอกเบี้ยเป็นรายวันหรือรายเดือนให้เลขดูน้อย
วิธีป้องกันตัวเองจากหนี้นอกระบบ - วางแผนใช้จ่ายให้รัดกุม อย่าใช้เงินเกินตัว - หากจำเป็นต้องกู้ ให้พึ่งสถาบันการเงินอย่างถูกต้อง - ศึกษากฎหมายเกี่ยวกับกับสัญญาเงินกู้ให้ดีก่อนเซ็น - จำไว้ว่า ตามกฎหมายดอกเบี้ยเงินกู้ต้องไม่เกิน 15% ต่อปี หรือ 1.25% ต่อเดือน
เป็นเหยื่อหนี้นอกระบบ ร้องเรียนได้ที่ไหนบ้าง - สำนักงานตำรวจแห่งชาติ : โทร. 1599 - ศูนย์ดำรงธรรม : โทร. 1567 - ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์การกู้ยืมเงินโดยสัญญาที่ไม่เป็นธรรมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ : โทร. 1155 - ศูนย์รับแจ้งการเงินนอกระบบ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง : โทร. 1359 - ศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม กระทรวงยุติธรรม : โทร. 02-575-3344
ค้นพบแหล่งทองคำกว่า 500 ตัน มูลค่าสูงถึง 600,000 ล้านหยวน
ช็อกวงการมวย! “ตะวันฉาย” ขาหักหลังพ่าย TKO ยกแรก
สถานีรถไฟเกือบเจ๊ง แต่รอดเพราะแมวตัวเดียว ตำนาน ทามะนายสถานีขนฟูแห่งญี่ปุ่น
ปุ๋ยล็อตใหญ่ ไปชายแดนเกือบ 3,000 นาย
ทหารเขมรใช้สไนเปอร์ลอบยิง "ผบ.ทร." รอดหวุดหวิด กระสุนพลาดถูกรถยนต์
เด็กพลัดตกท่อลึก ผ่านไปเป็นชม. กว่าจะมีคนมาช่วย
"ฮุน เซน" เมินเก็บศพทหารเขมร ปล่อยทิ้งขึ้นอืดตามแนวชายแดน กลิ่นคละคลุ้ง
เครื่องบินรบไทยรุ่นใหม่ T50TH ลงสนามจริงครั้งแรกผลงานประทับใจ
สมอง สามารถทำนายอนาคตได้
ไทย ชวดเหรียญทอง ปันจักสีลัต ทั้งที่กำลังจะขึ้นรับเหรียญ
11 เคล็ดลับการดูแลสุขภาพพื้นฐานตามศาสตร์แพทย์แผนจีน
นักมวยรองแชมป์โอลิมปิก แซะเจ้าภาพไทย หลังตกรอบรองฯ ซีเกมส์ 33
ดร.เขมร หาว่าไทยจะบุกลาวกับเมียนมาเป็นรายต่อไป
เมื่อวิทยาศาสตร์อธิบายวินาที "กระดูกร้าวถึงหัก" บนสังเวียนของตะวันฉาย
ทึ่งทั่วโลก : หุบเขาเทวดาวั้งเซียนกู่" หมู่บ้านที่สร้างอยู่ริมหน้าผา สถานที่ท่องเที่ยวแสนน่าทึ่งของประเทศจีน
นักมวยรองแชมป์โอลิมปิก แซะเจ้าภาพไทย หลังตกรอบรองฯ ซีเกมส์ 33
4 พันธุ์ไม้ "นักดูดฝุ่น" ฟอกอากาศขั้นเทพที่ควรมีติดบ้าน
ช็อกวงการมวย! “ตะวันฉาย” ขาหักหลังพ่าย TKO ยกแรก




