แกงกะทิเห็ดแครง
เห็ดแครง มีใครรู้จัก และ เคยทานบ้างไหมคะ เห็ดแครงเป็นเห็ดที่มีประโยชน์ และมีคุณค่าทางโภชนาการ มีคาร์โบไฮเดรตและโปรตีนสูง
เห็ดแครงเป็นที่รู้จักมากในแถบภาคใต้ พบมากบนท่อนไม้ยางพาราที่ตัดทิ้งไว้ โดยนิยมนำมาทำแกงสมรม แกงกะทิปลาย่าง
เห็ดแครง ถือเป็นเห็ดพื้นบ้านของภาคใต้ เนื้อเห็ดมีความหวาน หอม มักนิยมนำมาแกงใส่กะทิน้ำขลุกขลิกเล็กน้อย
อย่างเมนูนี้ ก็นำมาทำเป็นแกงคั่วเห็ดแครงใส่ปลาย่าง แต่โดยส่วนมากปลาย่างมักใช่ปลาโอในการนำมาย่าง เพราะเนื้อปลาเยอะ สามารถลองเปลี่ยนจากปลาโอมาเป็นปลาอินทรีย์ย่างได้ รสชาติไม่ต่างกัน ได้เนื้อเยอะเหมือนกัน เนื้อปลาก็ไม่เละ
เห็ดแครงนั้นเวลานำมาแกง มักจะเคี่ยวเห็ดแครงกับเครื่องแกงและน้ำกะทิให้เครื่องแกงงวดได้ที่ เห็ดแครงจะดูดเอาเครื่องแกงเข้าไปอยู่ภายในเนื้อเห็ด ทำให้ได้รสชาติเครื่องแกงที่ทั่วถึง ใส่ใบมะกรูดสักหน่อยเพื่อเพิ่มกลิ่นหอม
แต่ส่วนตัวเราจะชอบแกงใส่กุ้งคะ หรือสามารถเปลี่ยนเป็นเนื้อสัตว์อื่นๆได้ตามชอบคะ
1. ทำพริกแกงคั่วโดยโขลกพริกขี้หนูแห้ง พริกจินดา พริกขี้หนูสวน และเกลือป่น เข้าด้วยกันให้ละเอียด ใส่ตะไคร้ ข่า ขมิ้น หอมแดง และกระเทียม โขลกต่อจนละเอียดดี จากนั้นใส่กะปิ โขลกรวมกันอีกครั้ง ให้ละเอียด ตักใส่ถ้วย พักไว้
2. ล้างเห็ดแครงให้สะอาด โดยเปิดน้ำให้ไหลผ่าน ประมาณ 3 – 4 ครั้ง เพื่อเอาทรายออกจนหมด ใส่ตะแกรง พักให้สะเด็ดน้ำ นำกุ้งมาปลอกเปลือก ผ่าหลังเอาเส้นดำออก ล้างน้ำให้สะอาดเตรียมรอไว้คะ
3. ตั้งกระทะน้ำมันบนไฟกลาง พอร้อนใส่เครื่องแกงคั่วลงผัดในกระทะให้หอม จากนั้นใส่หางกะทิ ลงผัดในกระทะ ใส่เห็ดแครงลงผัดในกระทะให้ส่วนผสมเครื่องแกงกับเห็ดเข้ากันและน้ำงวด จากนั้นใส่กุ้งสด ตามด้วยพริกจินดาและใบมะกรูก ผัดให้เข้ากัน ใส่หางกะทิที่เหลือและหัวกะทิ ลงผัดในกระทะให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาล ผัดให้เข้ากันอีกครั้ง ปิดไฟ พักไว้
ส่วนตัวเราชอบที่เห็ดแครงมีความเหนียว เวลาแกงเนื้อเห็ดไม่เละคะ ใส่พริกแกงใต้ยิ่งได้ความเผ็ดร้อน กินคู่กับไข่เจียวร้อนๆ ยิ่งอร่อยเลยคะ
LOMA🐬🐬