กระสือมหานคร
เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นแถวชานเมือง ย่านพระรามสอง เหตุเกิดตอนที่เรายังเด็กอยู่ คือเรียนอยู่ชั้น ม.3 ย้อนไปประมาณ 10-20 ปีก่อน ในสมัยนั้นแถบชานเมืองพระราม2 แถวซอยหัวกระบือ เขตบางขุนเทียน ยังไม่ค่อยเจริญแบบทุกวันนี้ รถราบ้านเรือนก็ยังมีไม่มาก ชาวบ้านแถว ๆนั้น ส่วนใหญ่นิยมปลูกบ้านอยู่ติดกับริมคลอง ส่วนอาชีพที่นิยมทำนั้นก็คือ การขุดบ่อทำวัง และจะมีการเลี้ยงกุ้งเลี้ยงปลากันเป็นส่วนมาก
จนอยู่มาวันหนึ่ง ได้มีนายหน้าที่ดินมาหาซื้อที่ดินเพื่อมาทำเป็นร้านอาหาร รวมถึงยังพัฒนามาทำเป็นที่ขี่ม้าด้วย มีการปลูกบ้านพักให้คนงานอยู่ด้านหลังร้านอาหารแห่งนี้ ซึ่งอยู่ติดคลอง แต่ก็มีอยู่ไม่กี่หลัง พอเขาทำร้านอาหารเสร็จแล้ว เขาก็ได้นำม้ามาเลี้ยงอยู่ด้านหลังของร้านอาหารด้วย ประมาณ 20 ตัว โดยเป็นธรรมดาที่ม้าแต่ละตัวนั้น ก็ย่อมจะมีราคาแพง จึงมีคนเฝ้าอยู่ทั้งหมด 2 คน
เหตุการณ์ก็ดูเหมือนจะไม่มีอะไร กระทั่งตกกลางดึกในคืนหนึ่ง ประมาณห้าทุ่ม หลังจากที่บ้านแถวๆ นั้น แทบทุกบ้านปิดไฟนอนกันหมด รวมถึงร้านอาหารก็ปิดไฟเงียบ คนเฝ้าต่างนอนหมดแล้ว ลุงจวบซึ่งบ้านแกอยู่ในละแวกร้านอาหาร และก็อยู่ไม่ไกลจากร้านเท่าไรด้วย คืนนั้นแกลุกออกมา เพื่อดูดบุหรี่พ่นควันโขมงไปที่นอกชานบ้านแต่ก็ไม่ได้เปิดไฟ อันเป็นกิจวัตรที่แกทำอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว
ระหว่างนั้น ลุงแกเห็นเป็นดวงไฟสีแดงๆ ลอยผ่านไป ก่อนจะแปลงสภาพเป็นสีช้ำเลือดช้ำหนอง และกลายเป็นสีเขียวอ่อนๆ โดยที่แสงนั้นขนาดใหญ่ประมาณเท่าลูกบอลเห็นจะได้ ลอยสูงจากพื้นประมาณนึง มันค่อยๆ ลอยผ่านไปทางร้านอาหาร..! และด้วยความอยากรู้อยากเห็น ลุงจวบแกก็เลยเที่ยวไปเรียกทุกคนในบ้านให้ตื่น และออกมาดู ว่าที่แกเห็นนั้นมันคืออะไรกันแน่ ซึ่งเวลานั้นทุกคนก็เห็นเหมือนกันกับแกหมด สมาชิกทุกคนภายในบ้านได้แต่เก็บความสงสัยไว้ในใจ รอจนถึงเวลาตอนเช้า ลุงจวบแกก็ไปได้ยินข่าวมาจากชาวบ้านว่า ที่ร้านอาหารที่เลี้ยงม้านั้น เมื่อคืนนี้มีม้าทำการออกลูกพอดี แต่ที่น่าแปลกก็คือ อวัยวะภายในของม้าได้หายไปหมด ทั้งของแม่และลูกม้า..!!
และนั่นก็ทำให้ลุงจวบอดคิดไม่ได้เลยว่า หรือลำแสงกลมๆ ที่เห็นเมื่อคืนนั้น มันอาจจะเป็นกระสือก็เป็นได้ เพราะอย่างที่เรารู้กันดีว่าผีประเภทนี้มักจะชอบกินพวกของคาวๆ สด ๆ นอกจากรกคนแล้ว พวกสัตว์มันก็ไม่เว้น..!!
อย่างไรก็ตามเรื่องราวแปลกๆ ทำนองนี้ หลังจากนั้นก็เกิดขึ้นอีกหลายครั้ง เรียกว่าชาวบ้านแถว ๆ นั้น ต่างเชื่อกันเลยว่าที่แถบนั้นน่าจะมีผีกระสือ หรือไม่ใครสักคนคงต้องเป็นกระสือ.. และจะด้วยสาเหตุอะไรไม่ทราบได้ เวลาต่อมาร้านอาหารที่มาเปิดใหม่ร้านนั้นก็ได้ปิดตัวลงไปแบบไร้สาเหตุ จนวันนี้ก็ยังไม่ทราบว่าเพราะอะไรเหมือนกัน..