พ่อของผมตอนสมัยเป็นหนุ่มๆ
….พ่อของผมตอนสมัยเป็นหนุ่มๆ ยังไม่มีครอบครัว แกก็อาศัยอยู่ที่บ้านหลวงประดิษฐ์ไพเราะ
แถวๆ วัดราชนัดดา พ่อได้ร่ำเรียนวิชาช่างซ่อมเครื่องดนตรีไทยกับคุณตาอ้อน
ช่างมือดีของคุณหลวงฯ พ่อยังต้องมีภาระกิจอีกอย่าง คือต้องแวะเวียนไปเรียนวิชาอาคมต่างๆ
กับหลวงตาเมี้ยน ที่วัดราชฯอีกด้วย หลวงตาเมี้ยนแกเลี้ยงผี พ่อต้องเอาเครื่องเซ่นไปให้ผีกินด้วย
วันหน้าจะเล่าให้ฟัง วันนี้ขอเป็น “เรื่องเล่าผีเปรต” ก่อน
…..ตาชู คนนี้ก่อนแกตายแกเป็นมัคทายกฯ ตอนแกมีชีวิตอยู่ แกก็ชอบอมเงินวัด
ยักยอกเอาเงินวัดไปสร้างบ้านช่องตัวเอง ตาชูแกไม่กลัวบาปกลัวกรรม สุดท้ายแกก็ตาย
ตายแล้วก็เอาอะไรไปไม่ได้สักอย่าง
….หลวงพี่แดง แกเป็นศิษย์เอกของหลวงตาเมี้ยน เรียกว่ามีวิชาอาคมแกร่งกล้าพอตัว
วันหนึ่ง พ่อก็เอาเครื่องเซ่นไปให้ผีของหลวงตาเมี้ยนตามปกติ หลวงพี่แดงก็ทักพ่อผม
“ไอ้เล็ก คืนนี้เอ็งอยากเห็นอะไรดีๆมั้ย ?” ( พ่อผมชื่อ “เล็ก” ) …พ่อก็ตอบรับคำไป..
พอตกดึกราวเที่ยงคืน พ่อก็ไปหาหลวงพี่แดงตามนัด พ่อเดินตามหลวงพี่แดงไปบริเวณลาน
ข้างโบสถ์วัดราชนัดดา “ไอ้เล็ก ถ้าข้าบอกให้เอ็งจับจีวรข้า เอ็งก็จับนะ แล้วมองไปที่โบสถ์”
หลวงพี่แดงหันมาสั่งพ่อ ก่อนจะยืนประนมมือสวดอะไรพรึมพรำ สักพัก
หลวงพี่แดงก็หันมาบอกให้พ่อจับจีวร พอพ่อจับจีวรเท่านั้น พ่อก็มองเห็น….
….พ่อมองเห็นเงาดำๆรูปร่างคล้ายคนตัวผอมๆ แต่ร่างนั้นสูงใหญ่มาก สูงกว่าโบสถ์เสียอีก
ร่างนั้นเดินวนอยู่รอบโบสถ์ พ่อยังเห็นว่าร่างนั้นยังเอามือละหลังคาโบสถ์เรื่อยไป
นอกจากภาพที่เห็นแล้ว ยังได้ยินเสียง เป็นเสียงที่สูง ดังวี้ดๆ
….พ่อเล่าให้ผมฟังว่า เสียงที่ได้ยินมันไม่ได้รับรู้ที่หูนะ แต่มันดังอยู่ตรงกลางกระหม่อม
ดังวี้ดๆ อยู่ตลอดเวลา พ่อขนลุกซู่ เย็นสันหลังวาบๆ ลามไปจนถึงท้ายทอย
และด้วยความกลัว พ่อก็ลองปล่อยมือจากจีวรหลวงพี่แดง ทันใดนั้นภาพเงานั้นก็หายไป
พอเอามือกลับไปจับจีวรอีก ก็เห็นภาพเงาดำๆร่างสูงใหญ่เดืนเอามือละหลังคาโบสถ์เหมือนเดิม
หลวงพี่แดง เอ่ยถามพ่อว่า “เป็นไงไอ้เล็ก ที่เอ็งเห็นนั้นนะ คือเปรตตาชู” พ่อผมก็พยักหน้า
“ตอนมีชีวิตอยู่ก็โกงเงินวัด พอตายไปลูกเมียก็ไม่คิดจะทำบุญให้
ก็ต้องกลายเป็นผีเปรตรอส่วนบุญอยู่ตรงนี้แหละ” หลวงพี่แดงกล่าวสรุป…
อ้างอิงจาก: ประสิทธิ์