หนึ่งวัน นั้นแสนสั้นนัก
หนึ่งวัน แสนสั้น
สั้นจน "กอดยามเช้า" ไม่ทันไร
"ยามเย็น" ก็มาอยู่ ในมือ แล้ว
หนึ่งเดือน แสนสั้น
สั้นจน "ยินดีกับเงินเดือน" ไม่ทันไร
"รายจ่าย" ก็มากระชากไปหมด
หนึ่งปี แสนสั้น
สั้นจน "เชยชมฤดูหนาว" ไม่ทันไร
"ฤดูร้อน" ก็มาให้สะสางแล้ว
หนึ่งชีวิต แสนสั้น
สั้นจน "สนุกกับชีวิต หนุ่มสาว" ไม่ทันไร
"ความชราภาพ" ก็มาปรากฏแล้ว
ชีวิตนั้น ผ่านไปเร็ว แต่ คนเรา รู้ตัวช้า
ดังนั้น จงหัด ทะนุถนอม ให้เป็น
ทะนุถนอม ความสัมพันธ์ ระหว่าง พ่อแม่พี่น้อง ระหว่างมิตรสหาย เพื่อนเรียน เพื่อนร่วมงาน ที่ได้คบค้ากันมา ได้ร่วมรบกันมา บนเส้นทาง ชีวิตด้วยกัน
เพราะเมื่อเฉียดไหล่ ผ่านไปแล้ว อาจไม่มีวัน ได้พบกันอีก
หลังอายุ 20 จะอยู่บ้านเกิด.หรือไปต่างเมือง ก็เหมือนกัน
หัวหกก้นขวิด ที่ไหน ก็ อยู่ได้
หลังอายุ 30 จะกลางวัน หรือ กลางคืน สู้ได้ทั้งนั้น
"อดนอน" กี่วัน ก็ ไม่เป็นไร
หลังอายุ 40 วิทยฐานะ สูงหรือ ต่ำไม่ใช่ เรื่องสำคัญ
เรียนไม่สูง อาจหาเงิน ได้มากกว่า
หลังอายุ 50 จะสวยหรือ ขี้เหร่มาก่อน ตอนนี้ หน้าตาก็เริ่ม เหี่ยวย่น ดูแก่ พอกัน
หลังอายุ 60 จะเคย มียศสูงหรือ ยศต่ำก็เท่าเทียมกัน เพราะ เกษียนแล้ว ต้องลงจาก ตำแหน่ง
หลังอายุ 70 จะอยู่บ้านหลังใหญ่ หรือ หลังเล็ก ก็เท่านั้น เพราะ เดินเหิน ไม่คล่องตัว มีที่ให้ ขลุกตัว เพียงมุมหนึ่ง ก็พอ
เมื่อชีวิตคุณ ได้เดินเกือบจะถึงปลายทาง ลองหันกลับไปดูอีกที คุณจะรู้สึกว่ามันเป็น เช่นนั้น จริง ๆ
อย่านึกว่า ตนเองแน่ อย่าไปอิจฉาใคร และอย่าไปเสียใจ กับสิ่งใด เพราะว่า ชีวิตมัน ก็ เท่านี้เอง....