หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

5 เทคนิค อ่านใจคน

เนื้อหาโดย buay1975

การอ่านใจคนเป็นทักษะที่มีประโยชน์อย่างยิ่ง ช่วยให้คุณสามารถเข้าใจผู้คนรอบตัวคุณได้ดียิ่งขึ้น รู้ว่าพวกเขาคิดอย่างไร รู้สึกอย่างไร และต้องการอะไร สิ่งนี้สามารถเป็นประโยชน์ในหลาย ๆ ด้านของชีวิต ตัวอย่างเช่น คุณสามารถใช้ในการปรับปรุงความสัมพันธ์ของคุณกับผู้อื่น ในการเจรจาต่อรอง ในการสัมภาษณ์งาน หรือแม้แต่ในการเล่นเกม

มีเทคนิคมากมายที่คุณสามารถใช้ในการอ่านใจคน ต่อไปนี้คือ 5 วิธีง่ายๆ ที่คุณสามารถทำได้:

1. ยิ้ม

การยิ้มเป็นท่าทางที่แสดงถึงอารมณ์หลายอย่าง เช่น ความสุข ความพอใจ ความขอบคุณ และความเสน่หา แต่การยิ้มก็ไม่ได้บ่งบอกถึงอารมณ์เหล่านั้นเสมอไป บางครั้งคนอาจยิ้มโดยไม่ได้รู้สึกถึงอารมณ์เหล่านั้นเลย ตัวอย่างเช่น คนอาจยิ้มเพื่อทำให้คนอื่นสบายใจ หรือเพื่อปกปิดอารมณ์ที่แท้จริงของพวกเขา

มีหลายสิ่งที่คุณสามารถทำได้เพื่ออ่านใจคนจากการยิ้ม ต่อไปนี้คือเคล็ดลับบางประการ:

  • สังเกตดวงตา ดวงตาเป็นหน้าต่างสู่จิตวิญญาณ และสามารถบอกคุณมากมายเกี่ยวกับอารมณ์ของบุคคล ตัวอย่างเช่น คนที่กำลังยิ้มอย่างแท้จริงจะใช้กล้ามเนื้อรอบดวงตาและแก้ม คนที่กำลังยิ้มอย่างไม่เต็มใจอาจยิ้มเฉพาะริมฝีปากเท่านั้น คนที่กำลังโกรธอาจขบฟันหรือเม้มปาก
  • สังเกตปาก ปากสามารถบอกคุณมากมายเกี่ยวกับอารมณ์ของบุคคลเช่นกัน ตัวอย่างเช่น คนที่กำลังยิ้มอย่างแท้จริงจะใช้กล้ามเนื้อรอบดวงตาและแก้ม คนที่กำลังยิ้มอย่างไม่เต็มใจอาจยิ้มเฉพาะริมฝีปากเท่านั้น คนที่กำลังโกรธอาจขบฟันหรือเม้มปาก
  • สังเกตใบหน้า ใบหน้าสามารถบอกคุณมากมายเกี่ยวกับอารมณ์ของบุคคลเช่นกัน ตัวอย่างเช่น คนที่กำลังโกรธอาจขมวดคิ้วหรือหน้าแดง คนที่กำลังเศร้าอาจแสดงรอยย่นบนหน้าผาก คนที่กำลังกลัวอาจเหงื่อออกหรือตัวสั่น
  • สังเกตภาษากาย ภาษากายสามารถบอกคุณมากมายเกี่ยวกับอารมณ์และความรู้สึกของบุคคล ตัวอย่างเช่น คนที่กำลังโกรธอาจก้าวร้าวหรือกอดไหล่ คนที่กำลังเศร้าอาจก้มหน้าหรือห่อไหล่ คนที่กำลังกลัวอาจก้าวถอยหลังหรือนั่งลง

สิ่งสำคัญคือต้องสังเกตว่าไม่ใช่ทุกคนที่ยิ้มในลักษณะเดียวกัน บางคนอาจแสดงออกทางสีหน้ามากกว่าคนอื่น และบางคนอาจซ่อนอารมณ์ของพวกเขาไว้ได้ดี สิ่งสำคัญคือต้องสังเกตสัญญาณทั้งหมดข้างต้นเพื่อที่คุณจะได้ตัดสินว่าใครรู้สึกอย่างไร

ต่อไปนี้คือตัวอย่างการยิ้มที่บ่งบอกถึงอารมณ์ต่างๆ:

  • รอยยิ้มที่แท้จริง: รอยยิ้มที่แท้จริงเป็นรอยยิ้มที่กว้างและดวงตาจะยิ้มด้วย รอยยิ้มนี้บ่งบอกถึงอารมณ์เชิงบวก เช่น ความสุข ความพึงพอใจ ความขอบคุณ และความเสน่หา
  • รอยยิ้มที่ไม่เป็นธรรมชาติ: รอยยิ้มที่ไม่เป็นธรรมชาติเป็นรอยยิ้มที่แคบ และดวงตาจะไม่ยิ้มด้วย รอยยิ้มนี้บ่งบอกถึงอารมณ์เชิงลบ เช่น ความไม่พอใจ ความหงุดหงิด หรือความโกรธ
  • รอยยิ้มที่บังคับ: รอยยิ้มที่บังคับเป็นรอยยิ้มที่ดูเหมือนจะติดอยู่ รอยยิ้มนี้บ่งบอกถึงอารมณ์ที่ซับซ้อน เช่น ความวิตกกังวล ความประหม่า หรือความกลัว

การอ่านใจคนจากการยิ้มเป็นทักษะที่ต้องใช้การฝึกฝน แต่สามารถทำได้ เพียงสังเกตอย่างระมัดระวังและถามคำถาม คุณจะสามารถเข้าใจผู้คนรอบตัวคุณได้ดียิ่งขึ้น

 2. การแสดงออกทางสีหน้า

การอ่านใจคนจากการแสดงออกทางสีหน้าเป็นทักษะที่ต้องใช้การฝึกฝน แต่สามารถทำได้ เพียงสังเกตอย่างระมัดระวัง คุณจะสามารถเข้าใจผู้คนรอบตัวคุณได้ดียิ่งขึ้น ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับบางประการในการอ่านใจคนจากการแสดงออกทางสีหน้า:

  • สังเกตดวงตา ดวงตาเป็นหน้าต่างสู่จิตวิญญาณ และสามารถบอกคุณมากมายเกี่ยวกับอารมณ์ของบุคคลได้ ตัวอย่างเช่น คนที่กำลังโกรธอาจจ้องเขม็งหรือกระพริบตาถี่ คนที่กำลังเศร้าอาจหลั่งน้ำตาหรือก้มหน้า คนที่กำลังกลัวอาจหรี่ตาหรือมองไปด้านข้าง
  • สังเกตปาก ปากสามารถบอกคุณมากมายเกี่ยวกับอารมณ์ของบุคคลได้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น คนที่กำลังยิ้มอย่างแท้จริงจะใช้กล้ามเนื้อรอบดวงตาและแก้ม คนที่กำลังยิ้มอย่างไม่เต็มใจอาจยิ้มเฉพาะริมฝีปากเท่านั้น คนที่กำลังโกรธอาจขบฟันหรือเม้มปาก
  • สังเกตใบหน้า ใบหน้าสามารถบอกคุณมากมายเกี่ยวกับอารมณ์ของบุคคลได้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น คนที่กำลังโกรธอาจขมวดคิ้วหรือหน้าแดง คนที่กำลังเศร้าอาจแสดงรอยย่นบนหน้าผาก คนที่กำลังกลัวอาจเหงื่อออกหรือตัวสั่น
  • สังเกตร่างกาย ร่างกายสามารถบอกคุณมากมายเกี่ยวกับอารมณ์ของบุคคลได้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น คนที่กำลังโกรธอาจก้าวร้าวหรือกอดไหล่ คนที่กำลังเศร้าอาจก้มหน้าหรือห่อไหล่ คนที่กำลังกลัวอาจก้าวถอยหลังหรือนั่งลง

สิ่งสำคัญคือต้องสังเกตว่าไม่ใช่ทุกคนที่แสดงออกทางสีหน้าในลักษณะเดียวกัน บางคนอาจแสดงออกทางสีหน้ามากกว่าคนอื่น และบางคนอาจซ่อนอารมณ์ของพวกเขาไว้ได้ดี สิ่งสำคัญคือต้องสังเกตสัญญาณทั้งหมดข้างต้นเพื่อที่คุณจะได้ตัดสินว่าใครรู้สึกอย่างไร

ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างการแสดงออกทางสีหน้าทั่วไปและความหมาย:

  • รอยยิ้ม รอยยิ้มอาจเป็นสัญญาณของความสุข ความพึงพอใจ หรือความเสน่หา
  • คิ้วขมวด คิ้วขมวดอาจเป็นสัญญาณของความไม่พอใจ ความหงุดหงิด หรือความโกรธ
  • ตาโต ตาโตอาจเป็นสัญญาณของความประหลาดใจ ความกลัว หรือความตื่นเต้น
  • ปากที่เปิดออก ปากที่เปิดออกอาจเป็นสัญญาณของความตกใจ ความกลัว หรือความประหลาดใจ
  • เหงื่อออก เหงื่อออกอาจเป็นสัญญาณของความเครียด ความกังวล หรือความกลัว

การอ่านใจคนจากการแสดงออกทางสีหน้าเป็นทักษะที่มีประโยชน์ที่สามารถช่วยให้คุณเข้าใจผู้คนรอบตัวคุณได้ดียิ่งขึ้น เพียงสังเกตอย่างระมัดระวังและถามคำถาม คุณจะสามารถเข้าใจผู้คนรอบตัวคุณได้ดียิ่งขึ้น

 3. การขยับร่างกาย

ทิศทางของร่างกายสามารถบอกคุณมากมายเกี่ยวกับอารมณ์และความรู้สึกของบุคคล ต่อไปนี้คือเคล็ดลับบางประการในการอ่านใจคนจากทิศทางของร่างกาย:

  • ทิศทางของเท้า: เท้ามักจะชี้ไปในทิศทางที่บุคคลต้องการไป ตัวอย่างเช่น หากบุคคลกำลังนั่งคุยกับคุณและเท้าชี้ไปทางประตู พวกเขาอาจไม่สนใจการสนทนาหรือต้องการจากไป ในทางกลับกัน หากบุคคลกำลังนั่งคุยกับคุณและเท้าชี้มาที่คุณ พวกเขาอาจสนใจการสนทนาและต้องการสานต่อ
  • ทิศทางของลำตัว: ลำตัวมักจะชี้ไปในทิศทางที่บุคคลให้ความสำคัญ ตัวอย่างเช่น หากบุคคลกำลังคุยกับคุณและลำตัวหันไปทางคุณ พวกเขาอาจให้ความสำคัญกับการสนทนา หากคุณหันไปทางอื่น พวกเขาอาจไม่ให้ความสำคัญกับการสนทนา
  • การสัมผัส: ผู้คนมักจะสัมผัสคนที่พวกเขารู้สึกสบายใจและไว้ใจ การสัมผัสสามารถเป็นอะไรก็ได้ตั้งแต่การจับมือไปจนถึงการสัมผัสเบาๆ บนไหล่ หากคุณสัมผัสใครสักคนและพวกเขาถอยหนีหรือขยับออก พวกเขาอาจไม่สบายใจหรือไม่ไว้ใจคุณ
  • ระยะห่าง: ผู้คนมักจะรักษาระยะห่างทางกายภาพกับคนที่พวกเขารู้สึกสบายใจและไว้ใจ ระยะห่างที่สะดวกสบายอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล แต่โดยทั่วไปแล้วผู้คนจะรู้สึกสบายใจเมื่ออยู่ห่างจากคนที่พวกเขาไม่รู้จักมากกว่าคนที่พวกเขารู้จัก

สิ่งสำคัญคือต้องสังเกตว่าไม่ใช่ทุกคนที่แสดงออกทางร่างกายในลักษณะเดียวกัน บางคนอาจแสดงออกทางร่างกายมากกว่าคนอื่น และบางคนอาจซ่อนอารมณ์ของพวกเขาไว้ได้ดี สิ่งสำคัญคือต้องสังเกตสัญญาณทั้งหมดข้างต้นเพื่อที่คุณจะได้ตัดสินว่าใครรู้สึกอย่างไร

ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างทิศทางร่างกายทั่วไปและความหมาย:

  • เท้าชี้ไปทางประตู: บุคคลไม่สนใจการสนทนาหรือต้องการจากไป
  • ลำตัวหันไปทางคุณ: บุคคลให้ความสำคัญกับการสนทนา
  • การสัมผัส: บุคคลรู้สึกสบายใจและไว้ใจคุณ
  • ระยะห่าง: บุคคลรู้สึกสบายใจกับคุณ

การอ่านใจคนจากทิศทางของร่างกายเป็นทักษะที่มีประโยชน์ที่สามารถช่วยให้คุณเข้าใจผู้คนรอบตัวคุณได้ดียิ่งขึ้น เพียงสังเกตอย่างระมัดระวังและถามคำถาม คุณจะสามารถเข้าใจผู้คนรอบตัวคุณได้ดียิ่งขึ้น

 4. การมองตา

การมองตาเป็นวิธีหนึ่งในการอ่านความรู้สึกของอีกฝ่าย ต่อไปนี้คือเคล็ดลับบางประการในการอ่านความรู้สึกของอีกฝ่ายด้วย "การมองตา":

  • ระยะเวลาในการมองตา: ระยะเวลาในการมองตาอาจบ่งบอกถึงอารมณ์ของอีกฝ่าย ตัวอย่างเช่น คนที่กำลังโกรธอาจมองคุณเป็นเวลานานกว่าปกติ คนที่กำลังรู้สึกสบายใจอาจมองคุณเป็นเวลาสั้นกว่าปกติ
  • ความถี่ในการมองตา: ความถี่ในการมองตาอาจบ่งบอกถึงอารมณ์ของอีกฝ่าย ตัวอย่างเช่น คนที่กำลังโกหกอาจมองคุณบ่อยกว่าปกติ คนที่กำลังรู้สึกสบายใจอาจมองคุณน้อยกว่าปกติ
  • การกระพริบตา: การกระพริบตาอาจบ่งบอกถึงอารมณ์ของอีกฝ่าย ตัวอย่างเช่น คนที่กำลังโกรธอาจกระพริบตาน้อยลง คนที่กำลังรู้สึกสบายใจอาจกระพริบตามากกว่าปกติ
  • การแสดงออกทางสีหน้า: การแสดงออกทางสีหน้าอาจบ่งบอกถึงอารมณ์ของอีกฝ่าย ตัวอย่างเช่น คนที่กำลังโกรธอาจขมวดคิ้วหรือบีบดวงตา คนที่กำลังรู้สึกสบายใจอาจยิ้มหรือหัวเราะ
  • ภาษากาย: ภาษากายอาจบ่งบอกถึงอารมณ์ของอีกฝ่าย ตัวอย่างเช่น คนที่กำลังโกรธอาจกอดอกหรือก้าวถอยหลัง คนที่กำลังรู้สึกสบายใจอาจยืนตรงหรือเท้าชิดกัน

สิ่งสำคัญคือต้องสังเกตว่าไม่ใช่ทุกคนที่แสดงออกทางอารมณ์ในลักษณะเดียวกัน บางคนอาจแสดงออกทางอารมณ์มากกว่าคนอื่น และบางคนอาจซ่อนอารมณ์ของพวกเขาไว้ได้ดี สิ่งสำคัญคือต้องสังเกตสัญญาณทั้งหมดข้างต้นเพื่อที่คุณจะได้ตัดสินว่าใครรู้สึกอย่างไร

ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างวิธีการมองตาที่บ่งบอกถึงอารมณ์ต่างๆ:

  • การมองตาแบบท้าทาย: การมองตาแบบท้าทายอาจบ่งบอกถึงความโกรธ ความหงุดหงิด หรือความท้าทาย
  • การมองตาแบบหลบๆ ซ่อนๆ: การมองตาแบบหลบๆ ซ่อนๆ อาจบ่งบอกถึงความประหม่า ความวิตกกังวล หรือความไม่สบายใจ
  • การมองตาแบบชื่นชม: การมองตาแบบชื่นชมอาจบ่งบอกถึงความเสน่หา ความหลงใหล หรือความรัก
  • การมองตาแบบสบายๆ: การมองตาแบบสบายๆ อาจบ่งบอกถึงความไว้วางใจ ความสบายใจ หรือความสบายใจ

การอ่านความรู้สึกของอีกฝ่ายด้วย "การมองตา" เป็นทักษะที่ต้องใช้การฝึกฝน แต่สามารถทำได้ เพียงสังเกตอย่างระมัดระวังและถามคำถาม คุณจะสามารถเข้าใจผู้คนรอบตัวคุณได้ดียิ่งขึ้น

 5. อ่านนิสัยความคิดจากท่าทาง

ท่าทางสามารถบอกคุณมากมายเกี่ยวกับนิสัยและความคิดของบุคคล ต่อไปนี้คือเคล็ดลับบางประการในการอ่านนิสัยและความคิดของบุคคลจากท่าทาง:

  • เท้า: เท้ามักจะชี้ไปในทิศทางที่บุคคลต้องการไป ตัวอย่างเช่น หากบุคคลกำลังนั่งคุยกับคุณและเท้าชี้ไปทางประตู พวกเขาอาจไม่สนใจการสนทนาหรือต้องการจากไป ในทางกลับกัน หากบุคคลกำลังนั่งคุยกับคุณและเท้าชี้มาที่คุณ พวกเขาอาจสนใจการสนทนาและต้องการสานต่อ
  • มือ: มือมักจะแสดงออกเกี่ยวกับอารมณ์ของบุคคล ตัวอย่างเช่น หากบุคคลกำลังจับมือแน่น พวกเขาอาจรู้สึกประหม่าหรือกังวล ในทางกลับกัน หากบุคคลกำลังขยับมืออยู่ตลอดเวลา พวกเขาอาจรู้สึกไม่สบายใจหรือวิตกกังวล
  • ไหล่: ไหล่มักจะแสดงออกเกี่ยวกับความมั่นใจของบุคคล ตัวอย่างเช่น หากบุคคลกำลังห่อไหล่ พวกเขาอาจรู้สึกไม่สบายใจหรือวิตกกังวล ในทางกลับกัน หากบุคคลกำลังยืนตรง พวกเขาอาจรู้สึกมั่นใจและสบายใจ
  • ใบหน้า: ใบหน้ามักจะแสดงออกเกี่ยวกับอารมณ์ของบุคคล ตัวอย่างเช่น หากบุคคลกำลังยิ้ม พวกเขาอาจรู้สึกมีความสุขหรือพอใจ ในทางกลับกัน หากบุคคลกำลังขมวดคิ้ว พวกเขาอาจรู้สึกโกรธหรือหงุดหงิด
  • ดวงตา: ดวงตามักจะแสดงออกเกี่ยวกับความสนใจของบุคคล ตัวอย่างเช่น หากบุคคลกำลังมองคุณ พวกเขาอาจสนใจการสนทนา ในทางกลับกัน หากบุคคลกำลังมองไปรอบๆ พวกเขาอาจไม่สนใจการสนทนา

สิ่งสำคัญคือต้องสังเกตว่าไม่ใช่ทุกคนที่แสดงออกทางร่างกายในลักษณะเดียวกัน บางคนอาจแสดงออกทางร่างกายมากกว่าคนอื่น และบางคนอาจซ่อนอารมณ์ของพวกเขาไว้ได้ดี สิ่งสำคัญคือต้องสังเกตสัญญาณทั้งหมดข้างต้นเพื่อที่คุณจะได้ตัดสินว่าใครรู้สึกอย่างไร

ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างท่าทางทั่วไปและความหมาย:

  • เท้าชี้ไปทางประตู: บุคคลไม่สนใจการสนทนาหรือต้องการจากไป
  • มือจับแน่น: บุคคลรู้สึกประหม่าหรือกังวล
  • ไหล่ห่อ: บุคคลรู้สึกไม่สบายใจหรือวิตกกังวล
  • ยืนตรง: บุคคลรู้สึกมั่นใจและสบายใจ
  • ยิ้ม: บุคคลรู้สึกมีความสุขหรือพอใจ
  • ขมวดคิ้ว: บุคคลรู้สึกโกรธหรือหงุดหงิด

การอ่านนิสัยและความคิดของบุคคลจากท่าทางเป็นทักษะที่ต้องใช้การฝึกฝน แต่สามารถทำได้ เพียงสังเกตอย่างระมัดระวังและถามคำถาม คุณจะสามารถเข้าใจผู้คนรอบตัวคุณได้ดียิ่งขึ้น

หวังว่าวิธีการต่างๆเหล่านี้คงเป็นประโยชน์กับทุกท่านไม่มากก็น้อย ขอบคุณครับ

เนื้อหาโดย: buay1975
รูปภาพโดย: pixabay.com
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
buay1975's profile


โพสท์โดย: buay1975
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
15 VOTES (5/5 จาก 3 คน)
VOTED: fm, riddle, buay1975
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
หนุ่มชาวจีนตัดสินใจลบรอยสัก เพราะทำให้ชีวิตลำบากมากขึ้นโลกออนไลน์แฉ ร้านอาหารของคนจีน แถวคลองเตยไม่ตรงปกสภาพสุดยี้ ไรเดอร์ไปทีไรแทบอ้วกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 3 มาแน่! คนทั่วไปรับผ่านดิจิทัลวอลเล็ต กระตุ้นเศรษฐกิจปี 2568เภสัชกรเผย!..อาหารเสริมวิตามิน 3 ชนิดที่คุณควรหยุดกิน!สุดอลังการ! งานเลี้ยงปีใหม่ของบริษัทดัง จัดเต็มกว่า 1,500 โต๊ะ พร้อมโชว์สุดปังจากศิลปินดังพบสิ่งมีชีวิตลึกลับที่ชายหาดออสเตรเลียสาวประเภทสอง ถูกแฟนเก่าทิ้ง ไปมีหญิงใหม่ ยัดเยียดลูกให้เลี้ยงไม่งั้นฟ้องไรเดอร์เจอหลวงพี่วัดดังจ.อยุธยา สั่งถุงยๅงกับเจล ฝากมาถามทุกคนว่าคิดว่าหลวงพี่เอาไปทำอะไร คิดไม่ออกจริงๆช่วยทีเสียชีวิตทันที หนุ่มอินเดียซ้อมท่าพลิกตัวกลางอากาศ พลาดหัวปักลงพื้นรวม 20 แคปชั่นสาวยุคใหม่ โพสต์โซเชียลยังไงให้ปังเกินต้าน!ด่วน !!! เกิดเหตุสลด!! เครื่องบินเล็กตก เสียชีวิตกว่า 10 ราย50 ปัญหายอดฮิต "มนุษย์งาน"
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
เสียชีวิตทันที หนุ่มอินเดียซ้อมท่าพลิกตัวกลางอากาศ พลาดหัวปักลงพื้น50 ปัญหายอดฮิต "มนุษย์งาน"โลกออนไลน์แฉ ร้านอาหารของคนจีน แถวคลองเตยไม่ตรงปกสภาพสุดยี้ ไรเดอร์ไปทีไรแทบอ้วกหนุ่มคลั่งการ์ตูนชินจัง ลงทุนสร้างบ้านเหมือนเป๊ะ!!
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
50 ปัญหายอดฮิต "มนุษย์งาน"โหวเฟิง : สุดยอดนวัตกรรมเครื่องตรวจจับแผ่นดินไหวจากจีนโบราณต้องลอง! 20 ท่าแปลกใหม่สำหรับคู่รัก เพิ่มความเร่ๅร้อนและตื่นเต้นในชีวิตรักปราสาทชเวริน : ปราสาทที่งดงามราวเทพนิยาย ที่อยู่ท่ามกลางแทะเลสาบ
ตั้งกระทู้ใหม่