นิยาย ซ่อนเสน่ห์หารัก ตอนที่ 1
พล เป็นชายหนุ่มที่เกิดมาใน ครอบครัวข้าราชการ คุณพ่อรับราชการทหาร คุณแม่เป็นแม่บ้าน ค่อยดูแลรับผิดชอบทุกอย่างภายในบ้าน พลเป็นลูกชายเพียงคนเดียวในครอบครัว พลเป็นเด็กเรียบร้อย เรียนเก่ง เป็นเด็กไม่ค่อยพูดค่อยจา เท่าไหร ติดจะพูดน้อยด้วยซ้ำ
สำหรับคนภายนอกที่มองเข้ามา บ้านนี้จะดูเป็นครอบครัวที่รักใคร่กันดี มีความอบอุ่น ดูมีความสุข มีทุกอย่างที่เพียบพร้อม ครบถ้วนสมบูรณ์แบบ ทั้งหน้าที่การงาน หน้าตาทางสังคม
แต่สิ่งที่คนภายนอก ไม่เคยมีใครเคยได้รับรู้ว่าความเป็นจริงแล้ว ภายในครอบครัวของพล เต็มไปด้วยความรุนแรง เขาเห็น พ่อกับแม่ ทะเลาะ เบาะแว้ง ลงไม้ลงมือ ตบตีกันอยู่เป็นประจำแทบจะทุกครั้ง เวลาที่พ่อของพล เมากลับมาบ้าน พ่อของพล จะกลายเป็นคนที่มี อารมณ์รุนแรง และ โมโหร้าย ควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่ได้
พลผู้เป็นลูกชาย ต้องเติบโตขึ้นมาพร้อมกับเห็นความรุนแรง ที่คนเป็นพ่อกระทำกับคนเป็นแม่ของเขามาโดยตลอด พลต้องทนเห็นแม่โดนพ่อซ้อม ตบตีทำร้ายร่างกายอยู่เป็นประจำ มันรุนแรงจนบางครั้งแม่ของเขา ถึงขั้นเดินไม่ไหว ออกไปข้างนอกไม่ได้ต้องอยู่แต่ในบ้าน แต่แม่ของเขาก็ยังทนอยู่กับพ่อมาโดยตลอด
ส่วนพ่อของพล นอกจากชอบดื่มเหล้า ยังมีนิสัยเจ้าชู้ ชอบเที่ยวผู้หญิง บางวันพ่อของเขาก็ไม่กลับบ้าน แต่ถึงอย่างนั้นพ่อของเขา ก็ยังไปทำงานตามปกติ บางวันพ่อของเขาเมากลับมาบ้าน แถมยังพาผู้หญิงคนอื่นกลับมานอนในบ้านด้วยซ้ำ โดยไม่สนใจว่า แม่ของเขาจะรู้สึกยังไง เหตุการณ์ทุกอย่างยังคงดำเนินผ่านไปเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยน พร้อมกับความรุนแรงในครอบครัว ที่ไม่เคยลดลงมีแต่จะเพิ่มมากขึ้นในแต่ละครั้ง
จนกระทั้งวันหนึ่งมาถึง แม่ของเขาเริ่มทน พ่อต่อไปไม่ไหว แม่ตัดสินใจเดินทางกลับไปอยู่บ้านกับยาย ที่อยู่อีกจังหวัดหนึ่ง หลังจากที่แม่ของเขาทะเลาะกับพ่อ ครั้งนี้แม่ของพลโดนพ่อทำร้ายร่างกาย อย่างรุนแรงมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เมื่อพ่อเริ่มพาหญิงสาวไม่ซ้ำหน้าเข้ามาหลับนอนในบ้านแทบจะทุกวันจนแม่ของเขาเริ่มทนไม่ไหว
แม่ทิ้งให้พลอยู่กับพ่อ ที่บ้านสวนหลังเดิม เพราะพลยังต้องไปเรียนหนังสือ หลังจากแม่ตัดสินใจไปรักษาตัวเองที่บ้านของยาย แม่มีอาการช้ำใน ร่างกายของแม่ บอบช้ำเป็นอย่างมาก ทั้งทางร่างกายและจิตใจ หลังจากผู้เป็นแม่ ย้ายไปอยู่บ้านยายที่ต่างจังหวัดได้ไม่นาน แม่ของเขาก็เสียชีวิตลง จากอาการติดเชื้อ ขั้นรุนแรง
พอทราบข่าวการตายของผู้เป็นแม่ พลเสียใจมากกับ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาเริ่มเก็บตัวอยู่คนเดียว ไม่สุงสิงกับใคร จากที่เป็นคนนิ่ง ๆ เงียบ ๆ ก็ยิ่งทำให้ พลกลายเป็นคนเงียบขรึม ชอบเก็บตัว ไม่ค่อยพูดจากับใครมากขึ้นไปกว่าเดิม เขาพูดน้อยลง ชอบเก็บตัวอยู่กลับบ้าน คนเดียวเป็นประจำ
พลเริ่มหันมาปลูกต้นไม้ ดอกไม้ เหมือนที่แม่ของเขาชอบทำ เมื่อตอนยังมีชีวิตอยู่ แม่ของเขาชอบมาปลูกต้นไม้ดอกไม้ เมื่อยังพอมีเวลาเหลือ หลังจากทำงานบ้านเสร็จเรียบร้อยทุกอย่างแล้ว
พลเริ่มต้นจากการปลูก ต้นดอกแก้ว ที่ผู้เป็นแม่ของเขาได้ปลูกค้างเอาไว้ ก่อนที่จะกลับไปอยู่บ้านยาย แล้วแม่ของเขาก็ไม่มีโอกาส ได้กลับมาปลูก ต้นดอกแก้ว ที่ยังเหลือให้เสร็จ พล จึงมาปลูกต้นดอกแก้วต่อตามความตั้งใจของผู้เป็นแม่ ที่ต้องการเห็น ต้นดอกแก้ว โตจนเป็นกำแพงรั้วข้างบ้าน
ระยะเวลาผ่านไปจน พล เข้าเรียนมหาลัย พล เลือกเรียนด้านทนายความ เป็นที่ปรึกษาด้านกฏหมาย พลเริ่มมีสังคมใหม่ มีเพื่อนใหม่มากขึ้น แต่เขาก็ยังเป็นคนนิ่ง ๆ เงียบ ๆ ไม่ค่อยพูดค่อยจาเหมือนเดิม แต่เพื่อน ๆ ก็เข้าใจในตัวตนของพล เพราะ พล มีบุคลิคแบบนี้มาตั้งแต่เรียนอยู่ปี 1 แล้ว
ตอนนี้ พล เรียนมหาลัยอยู่ปี 3 พล เริ่มมีแฟนเป็นนักศึกษา เรียนอยู่มหาลัยเดียวกัน แต่เรียนอยู่กันคนละคณะ เกด เรียนอยู่คณะบริหารธุรกิจ การบัญชี เธอเป็นหญิงสาวค่อนไปทางน่ารัก รูปร่างผอมเพียว ตัวเล็ก ผิวขาว เป็นคนเรียบร้อย เกดเป็นผู้หญิงคนแรกที่ พลเปิดใจและเริ่มคบหาด้วย และจะเป็นที่รู้กันดีในหมู่เพื่อน ๆ ว่า พลจะเป็นคนที่ค่อยดูแลเอาใจใส่ ค่อยไปรับไปส่ง เกดตลอดช่วงเวลาที่คบหากันมา ด้วยความที่ เกดเป็นคนต่างจังหวัดเข้ามาเรียนในเมืองคนเดียว จึงทำให้เกดต้องพักอาศัยอยู่ที่ห้องพักเพียงลำพัง
หลังเรียนจบ พลได้ทำงานเป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมาย. ส่วนตัวของ เกด ได้ทำงานด้านบัญชี ให้กับบริษัทเอกชนแห่งนึงที่อยู่ใจกลางเมือง ตัวของ เกด เลยเลือกที่จะพักอยู่คอนโดใกล้ ๆ กับที่ทำงาน เพื่อความสะดวกในการเดินทางไปกลับระหว่างที่ทำงาน
ส่วนตัวของ พล เลือกกลับมาอยู่ที่บ้านสวนของ ตัวเองเหมือนเดิม ด้วยตัวงานของพลที่เป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมาย เป็นงานที่ไม่จำเป็นต้องใช้ช่วงเวลาเร่งด่วน ในการเดินทางไปทำงานแข่งขันกับเวลา เหมือนกับคนอื่นๆ ดังนั้น พลจึงเลือกที่จะกลับมาอยู่ที่บ้านสวน ซึ่งเป็นบ้านหลังเดิมที่ตัวเขาเคยอาศัยอยู่กับ พ่อและแม่ เมื่อครั้งที่ตัวเขายังเป็นเด็ก และเมื่อครั้งที่พ่อกับแม่ของเขาทั้งคู่ ยังมีชีวิตอยู่
ที่นี้เป็นบ้านเก่าของพ่อ ที่พ่อเหลือทิ้งไว้ ส่วนพ่อของพล เสียชีวิตไปนานแล้ว หลังจากแม่ของเขาเสียชีวิตไปได้แค่ 2 ปี พ่อของเขาเสียขีวิต จากการถูกลอบยิง สาเหตุก็มาจากเรื่องชู้สาว ด้วยเหตุนั้นจึงทำให้ พล ต้องอยู่บ้านหลังนี้ตัวเองตามลำพัง ถึงแม้ยายของเขา จะมารับตัวเขาไปอยู่ด้วยที่ต่างจังหวัดก็ตาม แต่พลก็เลือกที่จะอยู่บ้านหลังนี้ไม่ไปอยู่กับยายของเขา พลเลือกที่จะอยู่บ้านหลังนี้ต่อเพียงคนเดียว จนถึงช่วงที่พลเข้าเรียนมหาวิทยาลัย แต่ช่วงที่เรียนอยู่มหาลัย พลเลือกที่จะเช่าหอพักอยู่ข้างนอก เพื่อความสะดวกในการบ้านเดินทางไปเรียน
บ้านสวนของพล ตั้งอยู่แถวชานเมือง ทำให้อาจมีบางครั้งที่ พลต้องขับรถไปกลับที่ทำงานบาง ในเวลาที่มีงานด่วน แต่ถ้างานชิ้นไหนไม่เร่งด่วน พลก็จะเอางานกลับมาทำที่บ้านเป็นประจำ ทั้งพลและเกด ต่างก็แยกกันทำงานในหน้าที่ของตัวเอง เสาร์ อาทิตย์ ไหนที่ เกดไม่ติดงาน พลก็จะไปรับเกด มาเที่ยวที่บ้านสวนของตัวเอง บางครั้งที่มีวันหยุดยาว เกดก็จะมานอนค้างที่บ้านสวนของพลบางเป็นครั้งคราว
ด้วยตัวงานของ เกด ทำให้ต้องเลือกพักอยู่ในตัวเมือง พอมีเวลาว่าง เกดก็จะมาเที่ยวที่บ้านสวนของพลบ้าง ด้วยบรรยากาศของบ้านสวน ที่ดูร่มรื่น มีทั้งต้นไม้เล็ก ต้นใหญ่ ดอกไม้หลากหลายชนิด นานาพันธ์ ที่ปลูกไว้รวมกัน ทั้งต้นดอกแก้ว ต้นโมก ต้นดอกจำปี ต้นดอกปีบ. ต้นกระดังงา ต้นลีลาวดี จึงทำให้บ้านสวน มีดอกไม้ที่ ส่งกลิ่นหอม ทั้งกลางวัน และ กลางคืน ทำให้รู้สึกเหมือนได้ ผ่อนคลายตลอแเวลาที่มาอยู่บ้านสวนหลังนี้
แต่นอกจากต้นไม้ ดอกไม้นานาพันธ์ ที่ปลูกรวมกันไว้ พล ยังได้ปลูก ต้นดอกซากศพ หรือ ดอกบุบยักษ์ ไว้บริเวณสวนหลังบ้านด้วย ตัวดอกมีความสวยงามน่าสนใจ แต่ก็มีกลิ่นเหม็นที่รุนแรงมาก เหมือนกับกลิ่นของซากศพ แต่น่าแปลกที่กลิ่นเหม็นของตัวดอก กับเป็นกลิ่นที่ยั่วยวนเหล่าแมลงให้มาดอมดมเกสรดอกไม้ เพื่อช่วยในการผสมเกสรไม้ได้เป็นอย่างดี พลจึงนำมาปลูกไว้เพื่อให้แมลงมาช่วยผสมเกสรดอกไม้
" พลค่ะ มาทานข้าวคะ เกด ทำกับข้าวเสร็จเรียบร้อยแล้วน่ะ "
" ครับเกด ขอพลปลูกต้นไม้ตรงนี้ให้เสร็จก่อนนะครับ เดี่ยวพลไป "
" พักก่อนเถอะค่ะ มาทานข้าวกันก่อนค่ะ กับข้าวกำลังร้อน ๆ เย็นแล้วเดี่ยวจะไม่อร่อยนะคะ "
" พอก่อนคะพล ทานข้าวเสร็จ เดี่ยวเกดไปช่วยปลูกคะ แต่ตอนนี้มาทานข้าวกันก่อน เกดหิวแล้ว "
" ครับๆ ไปเดี่ยวนี้หล่ะครับ ขอพลล้างมือก่อนนะครับ "
ทุกครั้งที่เกดมาเที่ยวที่บ้านสวน คนทั้งคู่จะช่วยกันทำอาหาร เพื่อทานด้วยกันที่บ้าน ทั้งคู่จะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ด้วยกัน ทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกัน มันดูอบอุ่น และมีความสุขมากในความรู้สึกของพล
" หนังเรื่องนี้สนุกดีเหมือนกันนะค่ะพล "
" อืม..ใช้ สนุกดีนะ ดูตอนแรกเหมือนจะไม่ค่อยสนุก "
" พล ไปปลูกต้นไม้ต่อดีกว่า เกดนั่งดูหนังต่อก็ได้น่ะครับ "
" ไม่เอาคะ เกด ไปช่วยปลูกต้นไม้ด้วยดีกว่าคะ "
" เกดชอบสวนข้างหลังบ้านตรงนี้ มันสดชื่นและร่มรื่น ทำให้ เกดรู้สึกได้ผ่อนคลายจากการทำงานมาเหนื่อย ๆ ตลอดทั้งอาทิตย์ได้เลยคะ "
แต่ช่วงพักหลัง ๆ เกดไม่ค่อยมีเวลาได้มาบ้านสวนของพล บ่อยเท่าไหร่นัก หรือถ้ามาวันไหน เกด ก็ไม่เคยมานอนค้างเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา บางครั้ง พลจะเห็นเกด คุยโทรศัทพ์ด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด ทำให้พลคิดว่าเกด อาจจะมีปัญหาเรื่องงาน หรือ อาจจะมีปัญหาเรื่องอื่น ๆ ที่ปิดบังตัวเขาอยู่ก็ได้
" พลคะ อาทิตย์นี้เกดไม่ได้เข้าไปหาที่บ้านสวนนะคะ "
" หรอครับ เกด มีปัญหาอะไรหรือเปล่า "
" ช่วงหลัง ๆ มานี้ พล เห็น เกด เหมือนมีเรื่องให้ต้องคิดมากตลอดเวลาเลย "
" อ๋อ... เรื่องงานนะคะ พอดี..งานมีปัญหานิดหน่อย พล ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ "
" จะไม่ให้ พล เป็นห่วงได้ยังไงหล่ะครับ "
" ถ้า เกด มีอะไรให้ พลช่วยก็บอกมาได้นะ"
" งั้นอาทิตย์นี้ให้ พล เข้าไปหาที่ห้องแทนไหมครับ พล จะได้ไปทำกับข้าวให้ เกด ทานด้วย "
" ไม่เป็นไรคะ พล อาทิตย์นี้ เกด ต้องเข้าไปเคลียร์งานที่บริษัทไม่แน่ใจว่าจะเสร็จกี่โมงด้วย พล จะได้ไม่ต้องเสียเวลามารอ เกด ด้วยคะ "
" เอาอย่างงั้นก็ได้ครับ งั้น เกด ก็ดูแลตัวเองดี ๆ เรื่องงานก็ไม่ต้องเครียดมากนะ พล เป็นห่วง "
" คะพล งั้นแค่นี้ก่อนนะคะ เกด ขอเคลียร์งานต่อก่อนคะ "
" ได้ครับ เกด แล้วค่อยเจอกับครับ "
พลเริ่มรู้สึกไม่สบายใจ เริ่มรู้สึกเป็นกังวล เมื่อเขาเริ่มรู้สึกว่าตัวของเกด มีบางอย่างเปลี่ยนแปลงไป เขาเริ่มรู้สึกเกิดความสงสัย ในตัวของเกดมากขึ้น เมื่อเกดเริ่มที่จะทำตัวห่างเหินออกจากเขา โดยที่พลเองก็ไม่รู้ว่าสาเหตุเกิดมาจากอะไร
แล้ววันหนึ่งก็มีเหตุบังเอิญให้ พลได้มาเห็น เกด เดินมากับชายหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่ง ทั้งคู่ดูสนิทสนมกันมาก ถึงขั้นเดินจับมือถือแขน เดินควงกันมาเหมือนคนรัก ทั้งสองคนมาทานข้าวเที่ยงด้วยกัน พลมองดูทั้งคู่ด้วยความสงสัย ในความสนิทสนมนั้น เมื่อทั้งสองคนทานข้าวเที่ยงด้วยกันเรียบร้อย ก็พากันเดินออกจากร้านไป พลจึงขับรถตามคนทั้งคู่ไปจนถึงที่ทำงานของเกด พลเฝ้าคอยดูพฤติกรรมของคนทั้งสองมาตลอดเป็นเวลาหลายวัน ด้วยความสงสัยและอยากรู้ถึงสาเหตุ ของการเปลี่ยนแปลงไปในตัวของเกดที่มีต่อเขา
คนทั้งคู่ยังทำทุก ๆ อย่างด้วยกันเหมือนเดิม กลางวันไปทานข้าวด้วยกัน ตอนเย็นชายหนุ่มก็ขับรถไปส่งเธอที่คอนโด ที่เกดพักอาศัยอยู่ บางครั้งชายหนุ่มก็ขึ้นไปส่งเธอถึงข้างบนห้อง และอยู่ด้วยกันจนดึกจึงจะกลับลงมาแล้วขันรถออกไป แต่ในบางครั้งก็จะอยู่ค้างคืนด้วยกันและออกไปทำงานพร้อมกันอีกครั้งในเช้าวันต่อมา
พลเฝ้าคอยดูคนทั้งสอง และเห็นพฤติกรรมทุกอย่างที่เกิดขึ้น เฝ้ามองดูด้วยความอดทน อดกลั้น พลใช้เวลาถึง 2 อาทิตย์ เพื่อเฝ้าสังเกตุพฤติกรรมของคนทั้งคู่มาโดยตลอด โดยที่เกดไม่รู้ตัวเลย เพราะตลอดเวลา 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา พลก็ยังคงโทรพูดคุย ยังสอบถามความเป็นอยู่ของเธอ สอบถามปัญหาเรื่องที่ทำงานของเธอ พลยังคงทำตัวเหมือนเดิมตามปกติ
" ช่วงนี้เรื่องงานเป็นยังไงบ้างครับ เกดงานยังมีปัญหาอยู่ไหม "
" ไม่ค่อยมีปัญหาอะไรแล้วคะ แล้ว พล หล่ะค่ะช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง "
" ก็เหมือนเดิมครับ ยังมีงานเข้ามาให้ทำเรื่อยๆ อยู่เหมือนนะครับ "
" ไม่ได้เจอกันหลายวันแล้ว พล คิดถึง เกดจังครับ "
" แล้ว เกด หล่ะ ช่วงนี้เป็นยังไงบ้างครับ คิดถึง พล บ้างไหม "
" คิดถึงสิคะ เอ่อ พล แค่นี้ก่อนนะคะ เจ้านายเรียกไปคุยเรื่องงานนะคะ "
" ครับ เกด อย่างมัวแต่ทำงานจนลืมดูแลตัวเองนะครับ "
" ค่ะ พลแค่นี้ก่อนนะคะ เกดต้องวางสายแล้วคะ "
พลยังโทรคุยกับเกด โทรนัดเกด เพื่อมาทานข้าวกันบ้าง แม้เกดจะปฎิเสธว่าติดงานไม่สามารถออกมาหาเขาได้ก็ตาม ตลอดระยะเวลาที่คุยกัน พล ไม่เคยแสดงอาการใดๆ ให้ เกดสงสัยเลยแม้แต่น้อย ถึงแม้ว่าภายในใจ พลจะรู้สึกเจ็บปวด รู้สึกโกรธแค้น ในสิ่งที่เกดทำกับเขา ที่เธอกำลังโกหกเขา มากแค่ไหนก็ตามแต่ พลก็เลือกที่จะเก็บทุกอย่างไว้ในใจ โดยไม่แสดงอาการต่าง ๆ อะไรออกมา
วันนี้เป็นวันศุกร์ พล โทรชวน เกดไปนอนที่บ้านสวนด้วยกันอีกครั้ง เพราะเห็นว่า เกด ไม่ได้ไปเที่ยวที่บ้านสวนมาหลายอาทิตย์แล้ว ซึ่งครั้งนี้ตัวของ เกด เองก็ตอบตกลงที่จะไปเที่ยวบ้านสวนของพล เพราะตัวของเธอเองก็มีเรื่องที่อยากจะคุย จะบอกกับ พลอยู่เหมือนกัน
" เกดครับ วันหยุดนี้มาเที่ยวบ้านสวน พล ไหมครับ เกดไม่ได้มานานแล้ว "
" ได้คะพล เดี่ยววันหยุดนี้ เกด เข้าไปหานะคะ "
" พอดีเกดมีเรื่องที่ ต้องการจะคุยกับพล อยู่เหมือนกันคะ "
" ครับ งั้น..เดี่ยวเย็นวันศุกร์ให้ พลไปรับเกด ดีไหมเลิกงานตอนเย็น ๆ เกดจะได้ไม่ต้องขับรถมาเองคนเดียว "
" ไม่เป็นไรคะ เดี่ยวเกดไปเองดีกว่า พล จะได้ไม่ต้องขับรถกลับไปกลับมาด้วย "
" เอาแบบนั้นก็ได้ครับ งั้นเดี่ยวพล ทำกับข้าวไว้รอนะ เกด อยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม พล จะได้ทำไว้ให้ "
" อะไรก็ได้คะ เกด ทานได้หมดคะ "
" แค่นี้ก่อนนะคะพล เกดต้องทำงานต่อแล้ว วันศุกร์ ตอนเย็นเจอกันที่บ้านสวนคะ "
" ครับเกด วันศุกร์เจอกันครับ เดี่ยว พล ทำกับข้าวไว้รอครับ "
เย็นวันศุกร์ พล เตรียมทำกับข้าวไว้หลายอย่างเพื่อรอ เกด มาทานข้าวด้วยกันที่บ้านสวนของเขา เกด เดินทางมาถึงในเวลาที่ พล จัดโต๊ะเรียบร้อยพอดี
" อ้าว...มาถึงแล้วหรอครับ เหนื่อยไหม "
" แล้วเกดมายังไงครับเนี้ย พล ไม่เห็นได้ยินเสียงรถเลย "
" อยู่ดีๆ รถก็สตาร์ไม่ติดนะคะ เกด เลยเรียกรถให้มาส่งแทน "
" อ้าว..หรอ แล้วทำไมไม่โทรบอกหล่ะ พล จะได้ไปรับ จะได้ไม่ต้องเรียกรถมาส่ง "
" ไม่เป็นไรหรอกคะ แล้วนี้ พล กำลังทำอะไรอยู่ให้ เกด ช่วยไหม "
" ไม่เป็นไร พล กำลังจัดโต๊ะอาหารอยู่ เสร็จพอดีเลย "
" ว่าแต่ เกด หิวหรือยังทานข้าวกันเลยไหม "
" เกดยังไม่ค่อยหิวคะ พอดี เกดมีเรื่องที่อยากจะคุยกับ พล นะคะ "
" แต่ พล ว่าทานข้าวก่อนแล้วค่อยคุยกันดีกว่านะครับ กับข้าวกำลังร้อน ๆ เลย "
" งั้นก็ได้คะ เรามาทานข้าวด้วยกันก่อน แล้วเราค่อยมาคุยกันก็ได้คะ "
ตลอดเวลาที่นั่งทานข้าวด้วยกัน เกดมักจะเผลอแสดงสีหน้าวิตกกังวล ออกมาให้พลเห็นแบบไม่รู้ตัว หลังจากทานข้าวกันเสร็จเรียบร้อย เกดเสนอตัวว่าขอเป็นคนล้างจานเอง ด้วยเหตุผลที่ว่า พลเป็นคนทำกับข้าวมื้อเย็นให้เธอทานแล้ว หลังจากล้างจานในครัวเสร็จเรียบร้อย. เกดเดินมาหา พลในห้องนั่งเล่นที่ พลนั่งดูทีวีรออยู่ก่อนหน้าแล้ว เกดเดินมาทิ้งตัวนั่งลงตรงเก้าอี้ตัวข้าง ๆ เธอมีท่าที อึกอัก อำอึ้ง ทำท่าทางเหมือนกับตัดสินใจเรื่องอะไรบางอย่างอยู่
" เกด เป็นอะไรหรือเปล่า มีเรื่องอะไรจะคุยกับ พลหรอ ดูท่าทาวอึกอักเชี่ยว มีเรื่องอะไรบอกพลได้นะ "
" เกดมีเรื่องอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า "
" พล.. เกด ว่าเราสองคน ลองห่างกันดูสักพักดีไหม "
" ทำไมหรอ เกดมีเรื่องอะไร ? พล ทำอะไรให้ เกดไม่พอใจหรือเปล่า ? "
" เปล่าหรอ พล ไม่ได้ทำอะไรให้เกด ไม่สบายใจหรืออึดอัดหรอก "
" เพียงแต่ช่วงนี้งานที่บริษัทเกด ยุ่งๆ และมีปัญหาเรื่องงานเข้ามาให้ต้องแก้ไขตลอด เกดก็เลยอยากจะ มีเวลาทำงานให้เต็มที่นะ "
" เกดแน่ใจนะ ว่าที่ขอห่างจากพลเพราะเรื่องงานไม่ใช่เรื่องอื่นนะ "
" ใช่สิพล เกี่ยวกับเรื่องงานนะ ไม่มีเรื่องอื่นนอกเหนือจากนี้หรอก "
" คือ..เกดเห็นว่าเราทั้งสองคนก็พึ่งจะเริ่มทำงานกัน ก็เลยอยากจะตั้งใจทำงานให้เต็มที่ก่อนนะ "
" ส่วนตัวพลก็จะได้ มีเวลาทำงานที่พลรัก ได้อย่างเต็มที่ด้วยเหมือนกันไง "
" แน่ใจนะเกด ว่าที่เกดมาขอห่างกับพลเพราะเรื่องงาน เพราะเกดอยากตั้งใจทำงานนะ "
" ถ้าเป็นเรื่องงาน พลไม่เห็นว่าเราจะต้องห่างกันเลยนะ เกดก็ทำงาาของเกดไป พลก็ทำงานของพลไป สะดวกหรือว่างวันไหนเราสองคนก็ ค่อยมาเจอกันบ้างก็แค่นั้น "
" แต่เกดอยากเอาเวลาไปโฟกัสกับเรื่องงานอย่างเดียวนะพล เพราะฉะนั้นเกดว่า เราสองคนห่างกันสักพักนะดีแล้ว "
" ดีกว่าที่ว่า ดีสำหรับใคร ดีสำหรับเกด หรือ คิดว่าดีสำหรับพลหรอ ? "
" มันก็ดีสำหรับเราทั้งคู่นะพล ไม่ใช่ดีสำหรับใครคนใดคนหนึ่ง "
ทั้งสองคนนั่งพูดคุยและถกเถียงกันไปมาด้วยเหตุผลของแต่ละฝ่าย จนสุดท้ายพลเริ่มทนไม่ไหว เอ่ยถามเกดถึงเหตุผลจริงๆ ที่เกด มาของลดความสัมพันธ์กับเขาลง เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกให้รู้ว่าเจ้าตัวเริ่มโมโหมากแค่ไหน
" พลถามจริงนะเกด ว่าที่เกดมาขอลดความสัมพันธ์ของเราลง เพราะเรื่องงานหรือเพราะอะไร "
" ก็เพราะเรื่องงานจริงๆ นะสิพล เกดบอกแล้วว่าอยากจะโฟกัสเรื่องงานให้เต็มที่นะ "
" แน่ใจนะเกดว่าที่พูดมามันคือความจริง เกดอย่านึกว่าพลไม่รู้เรื่องอะไรนะเกด "
" ก็เรื่องงานจริงๆ นะสิ พลคิดว่าเรื่องอะไร พลพูดเหมือนไปรู้อะไรมา "
" พลให้โอกาสพูดความจริงอีกครั้งนะ ว่าเกดขอหยุดความสัมพันธ์ของเราด้วยเหตุผลอะไรกันแน่เกด "
" ก็เรื่องงานจริงๆ นะสิพล ไม่ได้มีเรื่องอื่นเลย พลคิดว่าเกดมีเรื่องอะไรหรือไงคะ ทำไมถึงได้พูดกันไม่รู้เรื่องแบบนี้ "
" พลเห็นนะเกด พลรู้เรื่องทุกอย่างหมดแล้ว เกดจะมาโกหกพลทำไม มาพูดเหมือนตัวเองไม่ได้ไปทำเรื่องอะไรผิดมายังไง "
" พลรู้เรื่องอะไรมา แล้วเกดไปโกหกพลตอนไหน เกดก็บอกอยู่ว่า ที่ของห่างเพราะเรื่องงานนะ "
ทั้งคู่เริ่มทะเลาะและมีปากเสียงรุนแรงใส่กัน ต่างคนต่างใส่อารมณ์และพูดเหตุผลของตัวเองมากขึ้น เหตุการณ์เริ่มรุนแรงมากขึ้นจนสุดท้าย พลก็พูดเรื่องที่เขารู้และเขาเห็นมาตลอดให้เกดฟัง เกดได้ยินแบบนั้นก็ตกใจเป็นอย่างมากที่ พลรู้เรื่องของเธอกับชายคนใหม่มาโดยตลอด
" เกดมึงมีผู้ชายคนใหม่ อย่าคิดว่ากูไม่รู้เรื่องนะ กูรู้มาโดยตลอด "
" พลเห็นได้ยังไง พลรู้มาจากไหน แล้วทำไมพลต้องมากพูดกับเกดแบบนี้ "
" กูเห็นมึงกับมัน มากินข้าวกลางวันด้วยกันทุกวัน "
" ตอนเย็นเลิกงาน. มันก็ขับรถไปส่งมึงที่ห้องทุกวันไม่ใช่หรอ "
" ทุกวันที่มึงบอกกับกูว่ามึงติดงาน ที่มึงบอกกูว่างานของมึงมีปัญหานั้นหล่ะ งานมึงมีปัญหามากเลยใช่ไหม ถึงต้องแก้..กันแทบทุกเย็น ต้องแก้...กันทั้งคืนก็มีนี้ อย่านึกว่ากูไม่รู้น่ะ "
" ใช่...เกดมีคนใหม่ ในเมื่อพลรู้เรื่องทุกอย่างแล้ว งั้นเราก็เลิกกันเถอะ แล้วต่างคนต่างไป ต่างคนต่างอยู่ "
" ไม่เลิกกูไม่เลิกกับมึงเกด กูไม่เลิก เกดพลทำอะไรผิดหรอ ทำไมเกดถึงได้นอกใจพล ทำไมเกดถึงทำกลับพลแบบนี้ "
" พลไม่ได้ทำอะไรผิดหรอก เกดผิดเองที่ไปเผลอใจให้กับเขา เพราะว่าใกล้ชิดกันจนมากเกินไป จนทำให้มีอะไรเกินเลยกันขึ้นมา เกดขอโทษ "
" ไม่เป็นไรเกด ไม่ต้องของโทษ ถ้าอย่างนั้น พลให้อภัยเกดได้ เกดไม่ต้องคิดมาก พลไม่โกรธเกดเลย. เรามาเริ่มต้นกันใหม่นะ "
" แต่..เกดไม่ได้รักพลแล้ว เกดขอโทษ เกดรักเขา เกดไม่ได้รักพลแล้ว เราสองคนเลิกกันเถอะนะพล "
LOMA 🐬🐬