โรคเวียนศรีษะบ้านหมุน
- 1. เส้นประสาทการทรงตัวอักเสบเฉียบพลัน พบบ่อยที่สุด
- 2. ผงหินปูนในหูชั้นในหลุด
- 3. น้ำในหูไม่เท่ากัน
- 4. โรคทางสมองส่วนกลาง
1.โรคเวียนศีรษะจากเส้นประสาทการทรงตัวอักเสบ (Acute vestibular neuritis)
เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด คาดว่าเกิดจากปลายเส้นประสาทอักเสบจากเชื้อไวรัสซึ่งเข้าสู่ร่างกายทางจมูกเข้าเส้นเลือด และไปที่เส้นประสาทการทรงตัวในหูขั้นใน เนื่องจากพบผู้ป่วยเวียนศีรษะเฉียบพลันจำนวนมากในช่วงเวลาใกล้ๆกัน พบได้ทุกกลุ่มอายุแต่พบน้อยในเด็ก และในบางรายจะพบหูดับเฉียบพลันร่วมด้วยซึ่งเป็นเส้นประสาทสมองคู่ที่แปดที่อยู่คู่ติดกัน เลี้ยงด้วยเส้นเลือดเส้นเดียวกัน
หูชั้นใน มีส่วนสำคัญ 2 ส่วน
1. อวัยวะรูปก้นหอย เป็นส่วนรับฟังเสียง
2. อวัยวะรูปห่วง 3 ห่วง เป็นส่วนรับการทรงตัว
ข้างในห่วง 3 ห่วง จะมีน้ำที่เรียกว่าน้ำในหูซึ่งจะไหลเมื่อมีการเคลื่อนไหวของศีรษะ และเกิดสัญญาณประสาทวิ่งไปตามเส้นประสาทการทรงตัวไปยังสมองทั้ง 2 ข้างพร้อมกันทำให้ร่างกายสามารถรับรู้การทรงตัว และเคลื่อนไหวร่างกายตามปกติแต่เมื่อเส้นประสาทการทรงตัวอักเสบจะบวมการส่งผ่านสัญญาณประสาทข้างนั้นจะช้าลง ทำให้สัญญาณการทรงตัวจากหูอีกข้างไปถึงก่อนเกิดการไม่สมดุลของการทรงตัวทำให้มีการเวียนหัวโคลงเคลง และถ้าขยับศีรษะเร็วความแตกต่างของสัญญาณการทรงตัวของหู 2 ข้างต่างกันมากขึ้นจะรู้สึกบ้านหมุนด้วยถ้าหยุดการเคลื่อนไหวศีรษะ หัวนิ่ง น้ำในหูหยุดเคลื่อนไหวข้อมูลการทรงตัวที่สมองน้อย สักพักไม่เกิน 1 นาที ก็จะหมดไปทำให้หายเวียนหัว ขยับศีรษะใหม่ จะเวียนศีรษะขึ้นอีก
แต่ถ้าเมื่อรู้สึกเวียนหัวแล้วยังขยับศีรษะต่อไปอีก ไม่หยุดนิ่งการกระตุ้นมากๆ จะกระตุ้นศูนย์อาเจียนในสมองระยะแรกผู้ป่วยจะเริ่มรู้สึกคลื่นไส้ถ้าหยุดการเคลื่อนไหวศีรษะตอนนี้ก็จะไม่อาเจียนเมื่อถ้าขยับศีรษะต่อเนื่องไม่หยุด จนกระตุ้นศูนย์อาเจียนได้แล้วผู้ป่วยจะเวียนหัวมากจะอยากอาเจียนเมื่อขยับศีรษะ แม้จะขยับแต่เพียงเล็กน้อยผู้ป่วยมักจะหลับตาตลอดเวลาเพราะเมื่อลืมตาจะเห็นบ้านหมุนจะอยากอาเจียนต้องนอนนิ่งๆ ไม่ขยับหัวเลย 2 ชั่วโมงการกระตุ้นที่ศูนย์อาเจียนจึงจะหมดไปดังนั้นเมื่อเวียนหัวต้องหัวนิ่งเมื่อหายเวียนหัวจึงค่อยขยับหัวช้าๆจะสามารถไปไหนๆ ได้อาจรู้สึกโคลงเคลงเล็กน้อย แต่จะไม่กระตุ้นศูนย์อาเจียน
เมื่อเราเดินหรือนั่งรถ น้ำในหูชั้นในจะกระเพื่อมร่างกายจะปรับมาใช้การทรงตัวทางการมองเห็นทางตา โดยต้องมองไปไกลๆแต่ถ้าผู้ป่วยไปสถานที่คนมากๆมองซ้ายขวา หรือมองพื้นจะรู้สึกเวียนหัวและเดินเซเพราะร่างกายใช้ตาไปทำหน้าที่ในการมองเห็นการทรงตัวเลยต้องกลับไปใช้สัญญาณจากประสาทการทรงตัวที่ไม่สมดุลจึงเกิดอาการเดินเซ และโคลงเคลงได้
ผู้ป่วยที่เวียนหัวมากห้ามขับรถเพราะถ้าหันศีรษะเพื่อดูรถด้านข้างจะเวียนหัวมากไม่รู้ทิศ ทำให้ควบคุมรถไม่ได้อาจเกิดอุบัติเหตุรุนแรงได้ให้ทดสอบตัวเองโดยหันศีรษะไปด้านขวาและไปด้านซ้ายโดยเร็ว ถ้าไม่เวียนหัว สามารถขับรถได้
การรักษา
ปกติการบวมของเส้นประสาทจากไวรัสจะค่อยๆหายไปเองใน 3-5 วัน จากภูมิต้านทานของร่างกายอาการเวียนหัวส่วนใหญ่จึงหายได้เองโดยไม่ต้องรักษาแต่เนื่องจากในเส้นประสาทจะมีเส้นเลือดไปเลี้ยง เมื่อเส้นประสาทบวมจะไปกดเส้นเลือดให้ตีบลงทำให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงเซลล์ประสาทส่วนปลายลดลงอย่างมากถ้าขาดเลือดนานเซลล์ประสาทการทรงตัวบางส่วนจะตาย แม้ว่าเส้นประสาทจะยุบบวมใน 3-5 วัน แต่ผู้ป่วยกลุ่มนี้จะยังไม่หายเวียนหัว เพราะสัญญาณการทรงตัวข้างนั้นบางส่วนสูญเสียไปทำให้เกิดการไม่สมดุลของการทรงตัวทุกครั้งที่ขยับหัว จึงยังเวียนหัวไปอีกหลายวัน
แต่ร่างกายจะมีการปรับสัญญานประสาทที่สมองน้อยเกี่ยวกับการทรงตัวให้เกิดสมดุลขึ้นใหม่ช้าๆ ทำให้ผู้ป่วยค่อยๆหายขาดจากการเวียนหัวใน 1-3 เดือน ดังนั้นถ้าผู้ป่วยเวียนหัวมาหาหมอใน 2-3 วันแรก ในตอนที่เส้นประสาทบวม การฉีดยา Steroid เข้าเส้นเลือดเพื่อลดการบวมของเส้นประสาททำให้การนำสัญญาณประสาท 2 ข้างเกิดสมดุลก็จะหายเวียนหัวและยังช่วยไม่ให้เส้นประสาทบวมมากจนกดเส้นเลือดในเส้นประสาทเซลล์ประสาทส่วนใหญ่ก็จะไม่ตาย ทำให้หายเวียนหัวเร็วขึ้นแต่เมื่อยาหมดฤทธิ์ใน 6-8 ชั่วโมง อาการบวมเส้นประสาทจะกลับมาอีก จะเวียนหัวใหม่ได้อาจต้องฉีดยาซ้ำหรือให้ยากินร่วมด้วย
อาการเวียนศีรษะถ้าเวียนมากหรืออาเจียนอาจฉีดยากดการเวียนศีรษะ เช่น Dramamine จะลดการเวียนหัวได้แต่จะง่วงมากมียากินลดการเวียนศีรษะยาขยายเส้นเลือดและยาบำรุงเส้นประสาทช่วยได้และที่สำคัญเมื่อไหร่ที่เวียนศีรษะให้หยุดขยับศีรษะไม่ถึงนาทีจะหายเวียนศีรษะเสมอ ถ้าเห็นบ้านหมุนควรหลับตาหัวนิ่งด้วยเวลาเดินหรือนั่งรถ ให้มองไปไกลๆ
2. โรคเวียนศีรษะ จากผงหินปูนในหูชั้นในหลุด (Benign paroxysmal vertigo)
เป็นโรคเวียนศีรษะที่พบบ่อยรองลงมาจากเส้นประสาทการทรงตัวอักเสบ ผู้ป่วยจะมีการเวียนหัวเมื่อขยับศีรษะในแนวใดแนวหนึ่งมากเป็นพิเศษเพราะมีผงหินปูนหลุดออกจากเยื่อบุแผ่นการทรงตัว (Otolithic membrane) เข้าไปอยู่ในวงแหวนครึ่งวงกลมของการทรงตัว เมื่อขยับศีรษะผงหินปูนจะไหลตามการเคลื่อนไหวของน้ำในหูไปกระตุ้นให้เกิดสัญญาณประสาทมากขึ้นกว่าหูอีกข้าง เกิดการไม่สมดุลของการทรงตัวทำให้เวียนหัวเมื่อเคลื่อนไหวหัวในแนวนั้นๆโดยมากมักเกิดในเมื่อก้ม หรือเงยศีรษะทำให้รู้สึกเหมือนหัวจะทิ่มลงด้านหน้าหรือจะทิ่มไปด้านหลัง หรือเวียนศีรษะบ้านหมุนขณะล้มตัวลงนอน หรือลุกขึ้นนั่งหรือนอนแล้วหันขวา หรือหันซ้ายแต่มักจะเป็นเวียนหัวมากในแนวใดแนวเดียวอาจเวียนหัวเล็กน้อยในแนวอื่น และมักจะมีปวดศีรษะหนักๆ ตื้อๆ ที่หน้าผาก หัวคิ้ว หรือท้ายทอยร่วมด้วย
สาเหตุ
โรคนี้มักพบหลังจากมีการอักเสบของเส้นประสาทการทรงตัวมาก่อนหน้านั้นสัก 1-3 เดือนทำให้เซลล์ประสาทขาดเลือดมีผลให้เยื่อบุแผ่นการทางตัวที่มีผงหินปูนอยู่ด้านบนเสื่อมสภาพและเมื่อมีการขยับศีรษะเร็ว เยื่อบุแผ่นการทรงตัวที่มีผงหินปูนติดอยู่ด้านบนจะสะบัดกระเพื่อมอย่างแรงทำให้ผงหินปูนหลุดออกจากแผ่นเยื่อบุการทรงตัว ไปอยู่ในวงแหวนครึ่งวงกลมของการทรงตัวได้
การรักษา
หมอจะจัดท่าศีรษะเพื่อให้ผงหินปูนที่มีน้ำหนักไหลตามน้ำในหูในทิศทางที่ต้องการ และจัดให้หินปูนหลุดออกจากวงแหวนครึ่งวงกลมของการทรงตัวการจัดท่าขึ้นกับว่าผงหินปูนนั้นหลุดไปอยู่ในครึ่งวงกลมด้านหน้าหรือหลัง หรือด้านข้างของหูขวาหรือซ้ายหลังจัดท่าเสร็จผู้ป่วยจะรู้สึกเวียนหัวน้อยลง อาการปวดหนักตื้อๆที่หัวจะลดลงไปด้วยแต่อาการอาจไม่หายหมดในคราวเดียว เพราะอาจมีผงหินปูนเล็กๆหลงเหลือลอยอยู่อย่างไรก็ตามผงหินปูนนี้เมื่อหลุดออกมาในน้ำจะค่อยๆสลายตัวไปเองช้าๆ ก็หายเวียนหัวได้
3. โรคเวียนศีรษะจากน้ำในหูไม่เท่ากัน (Meniere's disease)
ผู้ป่วยจะมีอาการ
-
• เวียนหัว เมื่อขยับหัว
-
• การได้ยินหูข้างนั้นลดลง
-
• มีเสียงดัง ในหูข้างนั้น
-
• รู้สึกตื้อๆ ในหูข้างนั้น
ต้องมีอาการ 3-4 อย่าง ถึงจะจัดเป็นโรคนี้และจะเป็นเรื้อรังไปเรื่อยๆ และถ้าเป็นบ่อยการได้ยินหูข้างนั้นจะเสื่อมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆสาเหตุไม่ทราบแน่ชัดแต่พบว่ามีปริมาณน้ำในหูชั้นในข้างนั้นมากกว่าปกติพบไม่บ่อย
การรักษา
เป็นการรักษาตามอาการอาจให้ยาขับปัสสาวะ เพื่อลดปริมาณน้ำในหูชั้นในลง
4. โรคทางสมองส่วนกลาง
มักจะเวียนศีรษะเกือบตลอดเวลาอาจไม่สัมพันธ์กับการเคลื่อนไหวของศีรษะ และมักพบอาการทางสมองส่วนกลางร่วมด้วยเช่นปวดศีรษะแขนขาอ่อนแรงซีกหนึ่งหรือเดินเซการตรวจ MRI ถ้าสงสัยเมื่อมีอาการดังกล่าวอาจช่วยวินิจฉัยโรคทางสมองได้
อ้างอิงจาก: โรงพยาบาลนนทเวช
จรวดจีนฟัดจรวดจีน เปิดคลังอาวุธลับสมรภูมิสระแก้ว เมื่อไทย-เขมรต่างงัดไม้เด็ด "สายเลือดมังกร" มาดวลกัน
"ทัพฟ้าไทย" ยืดอกรับ ส่งฝูงบินถล่มคลังแสงพระตะบอง ลั่น "เราไม่ได้เริ่มก่อน" แต่ต้องทำเพื่อปกป้องประชาชน
📜 ภาพเก่าประวัติศาสตร์ “พระตะบอง” จากแผ่นดินสยาม สู่ความทรงจำ
รู้จัก M777 ปืนใหญ่สนามตัวโหด เบา คล่อง ยิงแม่นระดับนำวิถี ตัวเปลี่ยนเกมสงครามยุคใหม่
ทัพภาค 2 จัดหนัก งัดจรวดไทย DTI-1G รับใช้ชาติ ถล่ม BM-21 เขมรให้กระจาย
"DJ Sakura Soh" กับบทบาทใหม่ในวงการ JAV
เขมร ยอมมาโต๊ะเจรจาที่จันทบุรี หลังไทยดัดหลัง "ไม่ย้ายประเทศ"
วิเคราะห์สถิติหวยปีใหม่ 2 มกราคม: เจาะลึกเลขเด่นรับโชควันศุกร์ 2569
10 ประเด็นร้อนฉ่าที่คนไทยให้ความสนใจสูงสุดในปี 2568
เน็ตไทยสวนเจ็บ! วิจารณ์แรงครูสาวเขมร ใช้บทเรียน “นกแร้ง” พาดพิงการเมือง ชี้ครูยังคิดได้ขนาดนี้ อนาคตเด็กจะเหลืออะไร
พชร์ อานนท์ การันตี "หอแต๋วแตก" ภาคล่าสุด เส้นเรื่องแน่น มุกสดใหม่ทันเหตุการณ์
เน็ตไทยสวนเจ็บ! วิจารณ์แรงครูสาวเขมร ใช้บทเรียน “นกแร้ง” พาดพิงการเมือง ชี้ครูยังคิดได้ขนาดนี้ อนาคตเด็กจะเหลืออะไร
เงินเดือนผู้ประกาศข่าว
ปลาย พรายกระซิบ ยัน "ไม่ใช่ผู้วิเศษ" ต้องหาอาชีพอื่นสำรองไว้ด้วย
พชร์ อานนท์ การันตี "หอแต๋วแตก" ภาคล่าสุด เส้นเรื่องแน่น มุกสดใหม่ทันเหตุการณ์
อัปเดตวงการ SEO & AI Search ปี 2025: แหล่งอ้างอิงสำหรับ AEO และ GEO ที่คนทำ SEO ต้องรู้จัก
เตือนแล้วนะ! 3 ผลไม้ที่ "เซลล์มะเร็ง" โปรดปราน หมอยังไม่กล้าแตะ แต่หลายคนกินทุกวันโดยไม่รู้ตัว
เปิดตำนานคุณลุงซานต้า: จากนักบุญใจบุญยุคโบราณ สู่ชายชุดแดงพุงพลุ้ยที่โคคา-โคล่าช่วยปั้น! 🎅🦌
อันตรายใกล้ตัว เตือน 3 ประเภท ชามใส่อาหาร ที่หลายบ้านยังใช้ เสี่ยงสารพิษสะสมไม่รู้ตัว