ชีวิตวันวันของ Jame Evening ตอนที่ 27 (ทำไมการเป็นคนที่ยิ้มเยอะถึงทำให้เรารู้สึกเเย่ไปในตัว?)
สวัสดีวันอังคารที่ 8 สิงหาคม 2566 เวลา 15.40 นที่ผ่านมาผมได้สังเกตใครหลายๆคนนะครับว่าคนที่ยิ้มเยอะเนี่ยภายในใจเนี่ยเขารู้สึกยังไงบ้างนะครับแล้วได้มีโอกาสไปคุยกับคนๆนึงนะครับซึ่งเป็นในเรื่องของสมัยก่อนเนาะซึ่งเรานะครับเคยสอบถามเขาว่ายิ้มเยอะแล้วเนี่ยคุณดูสดใสจังยิ้มเยอะแล้วคุณดูดีจังเลยอะไรแบบนี้นะครับ
แต่เขากลับถามผมกลับมาว่าแล้วเคยยิ้มเยอะแล้วรู้สึกแย่ไปในตัวเองโดยที่ไม่ทันรู้ตัวบ้างไหมตอนนั้นคือผมงงมากครับว่าคนยิ้มเยอะเราจะรู้สึกแย่ได้ยังไงในเมื่อเขายิ้มเยอะออกมาก็หมายความว่าเขาจะต้องมีความสุขสิเขาจะต้องไม่มีความทุกข์แน่ๆยิ้มของเขาเป็นยิ้มที่สดใสขนาดนั้นผมก็เลยถามเขาว่าแล้วยิ้มของพี่เนี่ยมันไม่ดีหรอครับมันเป็นยิ้มที่ไม่มีความสุขหรอครับ
ซึ่งผมก็สงสัยนะครับในตรงจุดนี้ผมก็เลยถามเขากลับไปนะครับเป็นการตอบคำถามด้วยคำถามอีกทีนึงว่าทำไมเขาถึงยิ้มแบบไม่มีความสุขหรือเปล่าเขาบอกว่ายิ้มของเขาเนี่ยเป็นยิ้มที่มีความสุขครับแต่เป็นยิ้มที่เหมือนกับว่าเป็นการแบ่งปันความสุขให้กับคนอื่นมากจนเกินไปแต่เขาไม่เคยยิ้มให้ตัวเองเลยครับไม่เคยยิ้มให้กับสิ่งที่ตัวเองทำได้สำเร็จไม่เคยยิ้มให้กับสิ่งที่ตัวเองทำได้ไม่เคยยิ้มกับสิ่งที่ตัวเองมี
เขาตอบกลับมาด้วยเหตุผลประมาณนี้นะครับว่าเขาไม่เคยยิ้มให้กับตัวเองเลยเขายิ้มแต่ให้กับคนอื่นอยู่ตลอดเวลาผมเลยถามเขาต่อไปว่าแล้วถ้าไม่พี่ถึงไม่ยิ้มให้กับตัวเองบ้างทำไมถึงยิ้มให้แต่กับคนอื่นเขาก็ตอบผมกลับมานะครับว่าการยิ้มให้กับคนอื่นเนี่ยมันเป็นสิ่งที่ง่ายมากเลยอ่ะสำหรับตัวเขานะครับการยื้มให้กับคนอื่นในมุมมองของพี่คนนี้นะครับเขาเหมือนกับว่ามันเป็นเรื่องของการแบ่งปันแบบง่ายๆ
นะครับโดยที่ตัวเองไม่ต้องลงทุนหรืออะไรมากมายนะครับแต่เขาก็ได้กลับมาคิดนะครับว่าจริงๆแล้วการยิ้มแบ่งปันให้กับคนอื่นเนี่ยมันก็เหนื่อยเหมือนกันนะการยิ้มบอกว่าเขาไม่เป็นไรเขาทำได้ดีแล้วบอกคนอื่นนะครับการยิ้มเอาไปว่าคุณทำได้ดีมากแล้วนะทำต่อไปนะมันเหมือนกับว่าเป็นการยิ้มที่แบบว่าให้กำลังใจผู้ฟังนะครับแต่ในขณะเดียวกันมันก็เป็นการยิ้มที่ทำให้กำลังใจของผู้พูดนะครับหายไปด้วยเหมือนกัน
เพราะว่าด้วยลักษณะนิสัยของพี่คนนี้นะครับเขาจะเป็นแบบประมาณว่าฉันยิ้มให้คนอื่นได้แต่ฉันยิ้มให้ตัวเองไม่ค่อยได้เพราะว่าการยิ้มให้คนอื่นเป็นเรื่องง่ายมันไม่ต้องเปรียบเทียบแต่พอเป็นการยิ้มให้กับตัวเองแล้วมันต้องเปรียบเทียบขึ้นมาทันทีอย่างเช่นใช้มายิ้มให้กับคนนี้ที่เขาดูแลเรื่องการเงินดีจังเลยแต่ทำไมกับฉันเนี่ยดูแลเรื่องการเงินได้ไม่ดีเขาก็เลยยิ้มไม่ได้ครับยิ้มให้กับตัวเองไม่ได้เขาก็เลยเริ่มรู้สึกแย่ไปกับตัวเองรู้สึกเศร้าไปกับตัวเองโดยที่ตัวเองไม่รู้ตัว
อันนี้มันเสียเหมือนกันนะครับของการที่เราเป็นคนยิ้มเยอะๆเรายิ้มเยอะๆโดยที่เราไม่รู้เลยว่ายิ้มที่เราส่งไปอ่ะครับมันเป็นยิ้มที่ทำร้ายตัวเองเราไปในตัวด้วยหรือเปล่ายิ้มในครั้งนี้นะครับมันมีความสุขกับตัวเราไหมหรือไม่มีความสุขแค่กับคนที่ได้ฟังกับคนที่ได้เห็นนะครับหลายครั้งที่ผมถามเขานะครับว่าพี่ยิ้มแล้วพี่รู้สึกยังไงพี่รู้สึกดีไหมเขาตอบกลับมาว่าในหลายๆครั้งพี่รู้สึกไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่เพราะว่าในใจลึกๆแล้วเขามีการเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นตลอดเวลา
ว่ายิ้มของเราเนี่ยทำไมกับคนอื่นเรายิ้มให้ดีจังทำไมกับยิ้มของตัวเองเรายิ้มให้น้อยจังเราใจร้ายกับตัวเองไว้หรือเปล่ายิ้มที่แย่ที่สุดของเขาเนี่ยที่เขาเคยเล่าประสบการณ์มานะครับคือยิ้มในตอนที่เขาร้องไห้เขาฝืนยิ้มทั้งๆที่ตัวเองเนี่ยไม่ได้มีความสุขเลยมีแต่ความเสียใจมีความทุกข์มีแต่ความคิดที่ว่าตัวเองจะต้องอยู่บนโลกใบนี้ต่อไปจริงๆหรอทั้งๆที่ตัวเองไม่เคยทำอะไรที่จะสำเร็จสักเท่าไหร่เลยหรือจะทำอะไรที่ดีไปกว่าคนอื่นสักเท่าไหร่เลยหรือแค่การเปรียบเทียบกับตัวเอง
ก็ตามก็ยังไม่ได้ดีขึ้นกับตัวเองในวันที่ผ่านมาเลยนั่นคือยิ้มที่ทำให้เขาเจ็บปวดที่สุดยิ้มทำให้เขารู้สึกแย่ที่สุดในชีวิตของเขานะครับซึ่งถามว่าเขาผ่านมานั้นได้ไหมตอนนี้เขาก็ยังผ่านมาไม่ได้ขนาดนั้นเขาก็ยังอยู่กับมันนะครับอยู่กับมันแต่ว่าไม่ได้เป็นมันอันนี้ก็ยังดีหน่อยนะครับคืออยู่กับรอยยิ้มที่ไม่มีความสุขได้แต่ว่ามันก็ยังไม่ดีสักเท่าไหร่สำหรับผมผมก็ได้ตอบไปว่างั้นพี่ลองยิ้มให้กับสิ่งเล็กๆบ้างไหมไม่ต้องแบบสิ่งที่มันใหญ่มากหรอกยิ้มให้กับตัวเองในสิ่งเล็กๆนะครับเพื่อลองดูว่ารอยยิ้มของพี่จะกลับมาเป็นยิ้มที่มีความสุขจริงไหมจะไม่เป็นยิ้มที่ทำให้ตัวเองต้องเจ็บปวดหรือว่าเศร้าเสียใจในวันข้างหน้านะครับก็ผมก็เลยบอกเขาไปแบบนั้นนะครับแต่ก็ไม่รู้ว่าเขาจะเป็นยังไงต่อ ติดตามตอนต่อไปตอนที่ 28 นะครับขอบคุณครับ