นกไร้ขน บลอนดี นกที่เป็นโรคไร้ขนแต่ยังใช้ชีวิตได้มีความสุขแบบสบายๆ
เราเคยแต่เห็นหมาพันธุ์ไร้ขนเห็นแมวไร้ขนตอนนี้ก็เลยมาเห็นนกที่เป็นโรคไร้ขนเหมือนกันดูๆแล้วมันเหมือนนกเป็นขี้เรื้อนนะครับตามข่าวบอกว่ามันโรคชนิดหนึ่งที่ทำให้ขนหลุดร่วงเหลือจะหนังหุ้มกระดูกน่าสงสารนะครับนกเคยมีขนมีปีกบินไปบินมาสุดท้ายขนร่วงหายไปหมดแย่เลยนกบินไม่ได้เลย
ธรรมชาติมักสร้างความประหลาดใจให้กับเราอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีหรือเรื่องร้ายก็ล้วนแต่ทำให้สิ่งมีชีวิตบนโลกใบนี้ดูน่าสนใจยิ่งขึ้น
เช่นเดียวกับ บลอนดี นกน้อยจากเวเนซุเอลา ที่ต้องสูญเสียขนของมันเกือบทั้งหมดจากโรคไวรัสปากและขนในนกแก้ว (PBFD) ที่โจมตีระบบภูมิคุ้มกันของนก แต่ด้วยการดูแลเป็นอย่างดีของ เบลลา เอสโคบาร์ จึงทำให้บลอนดีสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้ ไม่ต่างจากนกปกติทั่วไป
เบลลา ได้ให้สัมภาษณ์กับ Boredpanda ว่า เธอได้รับบลอนดีมาจากเพื่อนของพ่อที่เคยเลี้ยงนกมาก่อน ในตอนนั้นเองบลอนดีมีอายุได้ประมาณ 3 สัปดาห์ และยังดูเป็นปกติไม่มีอาการเจ็บป่วยใด ๆ เกิดขึ้น
บลอนดีเคยมีขนสีส้มเหลืองที่สวยงาม แต่สุดท้ายขนที่อยู่บนตัวมันก็หลุดร่วงไปหมด
“ฉันจำได้ว่าสถานที่โปรดของมันคือโคมไฟในบ้านของเรา มันขี้เล่นมาก มันชอบบินตามเรา มันเป็นนกที่อยากรู้อยากเห็น และชอบบินไปสำรวจสถานที่ใหม่ ๆ อยู่เสมอ” เบลลากล่าว
จนกระทั่งอายุได้ 1 ปี เบลลาเริ่มสังเกตเห็นว่าบลอนดีเริ่มมีอาการขนร่วงที่บริเวณขาของมัน และเมื่อเวลาผ่านไป อาการของมันก็ยิ่งหนักขึ้น ขนของมันร่วงเกือบทั้งตัวจนแทบบินไม่ได้อีก
ในตอนแรก สัตวแพทย์บอกเบลลาว่าอาจเกิดจากความเครียด แต่หลังจากการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียดก็พบว่า บลอนดีเป็นโรคไวรัสปากและขนในนกแก้ว (PBFD) ที่หายากมาก
“เราพาบลอนดีไปหาหมอ พวกเขาทดสอบดูว่ามันมีปรสิตหรือไม่ แต่ผลตรวจกลับไม่พบอะไร สัตวแพทย์บอกเราว่าน่าจะเป็นความเครียดแต่เราไม่เชื่อ มันไม่สมเหตุสมผลเลย เพราะมันจะเอาขนออกจากหัวตัวเองได้อย่างไร” เบลลากล่าว
หลังจากนั้นฉันเริ่มศึกษาเพิ่มเติมและพบว่ามีโรค PBFD ที่ส่งผลกระทบต่อจงอยปากและขนที่ถ่ายทอดจากนกสู่นกได้ เราสงสัยว่าแม่ของมันเป็นโรคนี้และส่งต่อมายังบลอนดี”
“โรคนี้ไม่มีทางรักษา แต่มีบางกรณีที่ขนนกสามารถฟื้นคืนกลับมาได้ แต่นั่นเป็นกรณีที่หายาก
การดูแลบลอนดีต้องใช้ความละเอียดอ่อนอย่างมาก เนื่องจากมันไม่มีขน เบลลาจึงต้องใช้น้ำมันมะพร้าวเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนังของมัน รวมถึงร่างกายของมันที่ต้องเผชิญกับความหนาวเย็นตลอดเวลา ซึ่งเบลลาต้องมีผ้าคอยช่วยให้ความอบอุ่น รวมถึงติดฮีตเตอร์เอาไว้ที่กรงของมันอีกด้วย
พฤติกรรมของบลอนดีก็เปลี่ยนไปเช่นกัน มันค่อนข้างง่วงซึมและไม่อยากทำอะไรเลย ดังนั้นเบลลาจึงพยายามพามันไปยังสถานที่ใหม่ ๆ ที่มันไม่เคยเห็นมาก่อน มีของเล่นใหม่ ๆ และกิจกรรมอื่น ๆ ให้มันรู้สึกสนุก และโชคดีที่สิ่งที่เธอทำได้ผล!
“ฉันชอบอยู่กับบลอนดี ฉันมีความสุขจริง ๆ ที่มันเอาชนะความท้าทายต่าง ๆ ได้ และยังคงอยู่ที่นี่ในฐานะนกที่น่าอัศจรรย์และสวยงามไม่ต่างจากตอนที่มันเคยมีขน” เบลลากล่าว
การใช้ชีวิตดูแลสัตว์ที่มีความต้องการพิเศษอาจเป็นเรื่องยาก คุณต้องพยายามทำความเข้าใจมันอย่างเต็มที่ กุญแจสำคัญคือรู้ว่าอะไรที่พวกมันชอบและไม่ชอบ เพื่อเข้าใจพฤติกรรมของพวกมัน ซึ่งบลอนดีน่าทึ่งมาก และฉันก็ภูมิใจในตัวมันจริง ๆ”
ที่มา: boredpanda/lovebird