เทคโนโลยีในอนาคต
เทคโนโลยี หรือ เทคนอลอจี (อังกฤษ: Technology; "ศาสตร์การประดิษฐ์", จากภาษากรีกโบราณ τέχνη, techne, "ศิลปะ, ทักษะ, ฝีมือ"; กับ -λογία, ศาสตร์[1]) เป็นการผสมผสานเทคนิก, ทักษะ, วิธีการ และ กระบวนการ เพื่อผลิตสินค้า หรือ บริการ หรือเพื่อบรรวัตถุประสงค์หนึ่ง ๆ
คำว่า "เทคโนโลยี" เปลี่ยนความหมายไปอย่างมากในช่วง 200 ปีที่ผ่านมา ก่อนคริสต์ศตวรรษที่ 20 คำนี้ไม่ปรากฏใช้ในภาษาอังกฤษมากนัก และหากปรากฏก็มีไว้สื่อถึงศาสตร์ชองศิลปะเพื่อการใช้งาน[2] หรือการศึกษาเชิงเทคนิก ดังเช่นในชื่อของ สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (จัดตั้งในปี 1861)[3]
คำว่า "เทคโนโลยี" เริ่มกลายมาเป็นคำที่ใช้ทั่วไปนับตั้งแต่การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่สองในศตวรรษที่ 20 คำนี้เริ่มเปลี่ยนความหมายในต้นศตวรรษที่ 20 เมื่อนักสังคมวิทยา เริ่มต้นโดยธอร์สไตน์ เวเบลน แปลแนวคิดภาษาเยอรมันของคำว่า Technik เป็น "เทคโนโลยี" ในภาษาเยอรมันและภาษายุโรปอื่น มีความแตกต่างชัดเจนระหว่างความหมายของ technik กับ technologie แต่ความต่างนี้ไม่ปรากฏในภาษาอังกฤษ ซึ่งมักแปลทั้งสองคำเป็น "technology" เหมือนกัน ภายในทศวรรษ 1930s "เทคโนโลยี" ถูกใช้เพื่อสื่อความหมายถึงทั้งการศึกษาศิลปะอุตสาหกรรมและตัวศิลปะอุตสาหกรรมเอง[4]
แนวโน้มเทคโนโลยีแห่งอนาคต!
เทคโนโลยี, โลกอนาคต, เปลี่ยนแปลง, คุณภาพชีวิต, ก้าวหน้า, นวัตกรรม, พัฒนา, ประสิทธิภาพ, ประโยชน์
ถ้าให้พูดถึงแนวโน้มเทคโนโลยีแห่งโลกอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้นแล้วล่ะก็ ต้องบอกเลยว่ามันคงไม่ใช่เรื่องที่ไกลตัวเราอีกต่อไป เนื่องจากในปัจจุบันเทคโนโลยีต่างๆ ได้มีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งยังได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราไปแล้วด้วย
ซึ่งความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีได้เข้ามาเสริมปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิตของมนุษย์ได้เป็นอย่างดี เพราะมนุษย์ได้ใช้เทคโนโลยีในการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อรองรับวิถีชีวิตของผู้คนในสังคมและอำนวยความสะดวก ตลอดจนเสริมสร้างคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น โดยมนุษย์ยังได้พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ไปเรื่อยๆ อย่างไม่หยุดยั้งอีกด้วย
Technology แห่งโลกอนาคต ที่จะมาเปลี่ยนแปลงโลกของเราให้ดีขึ้น
เทคโนโลยี, โลกอนาคต, เปลี่ยนแปลง, คุณภาพชีวิต, ก้าวหน้า, นวัตกรรม, พัฒนา, ประสิทธิภาพ, ประโยชน์
วันนี้เรามีบทความ 10 เทคโนโลยีแห่งโลกอนาคตที่จะมาเปลี่ยนแปลงและพัฒนาโลกของเราให้ดีขึ้น จนเกิดเป็นนวัตกรรมใหม่ที่สามารถพลิกรูปแบบวิถีการดำเนินชีวิตของผู้คนในสังคมได้ มาแนะนำให้ทุกคนได้อ่านกัน จะมีอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลย!
1. เครือข่ายมือถือ 5G/6G (Mobile Network 5G/6G)
เทคโนโลยี, โลกอนาคต, เปลี่ยนแปลง, คุณภาพชีวิต, ก้าวหน้า, นวัตกรรม, พัฒนา, ประสิทธิภาพ, ประโยชน์
ระบบ 4G ที่ใช้กันในปัจจุบันก็สามารถทำความเร็วในการรับส่งข้อมูลสูงสุดเพิ่มขึ้นจาก 3G อีกราว 50 เท่า และสำหรับ 5G จะมีการรับส่งข้อมูลสูงสุดเพิ่มขึ้นไปอีก 20 เท่าจาก 4G แต่ที่พิเศษคือ สามารถใช้การได้แม้แต่ขณะที่เคลื่อนที่เร็วถึง 500 กิโลเมตร/ชั่วโมง สามารถส่งข้อมูลต่อพื้นที่เพิ่มขึ้นอีก 100 เท่า ดังนั้น 5G จะเป็นแพลตฟอร์ม (Platform) ที่เชื่อมโยงเทคโนโลยีอื่นๆ เข้าไว้ด้วยกัน เช่น AI, Big Data, Cloud และ IoT เป็นต้น
ทำให้สามารถรองรับระบบรถยนต์ไร้คนขับ เกิดบริการรูปแบบใหม่ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อนได้มากมาย เช่น การขายโดยใช้ AR/VR ช่วยการเชื่อมต่อยานพาหนะเข้ากับระบบควบคุมการจราจรได้ นอกจากนี้ยังรวมถึงการให้บริการปรึกษาทางการแพทย์ทางไกล หรือแม้แต่ผ่าตัดทางไกลผ่านระบบอินเทอร์เน็ต
2. การคำนวณและวิศวกรรมควอนตัม (Quantum Computing & Engineering)
เทคโนโลยี, โลกอนาคต, เปลี่ยนแปลง, คุณภาพชีวิต, ก้าวหน้า, นวัตกรรม, พัฒนา, ประสิทธิภาพ, ประโยชน์
เทคโนโลยีควอนตัมจะเข้ามามีบทบาททำให้ภาพที่เราจินตนาการไว้เกิดขึ้นได้จริง เช่น คอมพิวเตอร์สามารถเพิ่มประสิทธิภาพให้ดีขึ้นหลายพันเท่า สามารถถอดรหัสดีเอ็นเอของสิ่งมีชีวิตที่ยาวมากเป็นพันๆ ล้านหน่วย สามารถสร้างแบบจำลองเพื่อค้นหายาใหม่ๆ ที่ใช้ได้อย่างแม่นยำกับผู้ป่วย ใช้ตรวจวินิจฉัยโรคในการแพทย์ได้อย่างรวดเร็วไม่ต้องรอผลแล็บหลายวัน
รวมถึงยังมีการสร้างอุปกรณ์ไฮเทคอื่นๆ เช่น ชิปสำหรับนาฬิกาอะตอม (Atomic Clock) ใช้เทียบค่าเวลาสากลที่มีความแม่นยำมาก ถึงระดับนาโนวินาที (nano-second) รองรับการซื้อขายในระบบธนาคาร หรือคำสั่งซื้อในตลาดหลักทรัพย์ที่มีปริมาณถึง 100 ล้านคำสั่งต่อวินาทีได้
3. เอไอแห่งอนาคต (Future AI)
เทคโนโลยี, โลกอนาคต, เปลี่ยนแปลง, คุณภาพชีวิต, ก้าวหน้า, นวัตกรรม, พัฒนา, ประสิทธิภาพ, ประโยชน์
ระบบปัญญาประดิษฐ์แห่งอนาคตหรือ Future Artificial Intelligence จะมีส่วนที่เป็นหัวใจหรือสมองของระบบได้แก่ เทคโนโลยีการเรียนรู้ของเครื่อง หรือ Machine Learning ด้วยเครือข่ายประสาทเทียม ที่เรียกว่า Deep Neural Network ซึ่งสร้างโดยเลียนแบบเครือข่ายเซลล์ประสาทในสมองของมนุษย์ ความสามารถของ AI ที่เพิ่มขึ้น
ทำให้ระบบไซเบอร์-ฟิสิคัล (Cyber-Physical System) ที่ส่งผ่านข้อมูลระหว่างโลกอินเทอร์เน็ตกับโลกจริงทางกายภาพมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติไร้คนขับ AI ประมวลผลและสั่งการควบคุมการขับรถได้ในเวลาเสี้ยววินาทีด้วยประสิทธิภาพและความปลอดภัยที่มากขึ้น แต่อาจจะทำให้คนขับรถจำนวนมากต้องตกงาน มีการคาดการณ์ว่าในปี ค.ศ.2030 AI จะทำให้ตำแหน่งงานหายไป 400-800 ล้านตำแหน่ง แม้จะทำให้เกิดงานใหม่ๆ ขึ้นมาพอๆ กัน แต่จะเป็นทักษะที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง
อ้างอิงจาก: วิกิพีเดีย nst3