ชีวิตวันวันของ Jame Evening ตอนที่ 12 (เเค่เข้าใจก็พอเเล้วจริงๆหรือ?)
สวัสดีวันศุกร์ที่ 4 สิงหาคม 2566 เวลา 9:20 น ตอนนี้ผมอยากจะมาพูดถึงเรื่องเกี่ยวกับการว่าการเข้าใจช่วยเราได้จริงๆไหม แค่เข้าใจก็พอแล้วจริงๆแล้วหรือเปล่าแค่เข้าใจสามารถช่วยให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดีหรือเปล่าแม้ว่าเนื้อเป็นเรื่องที่เรามีความสุขมากๆกับมันแล้วเราก็มีความทุกข์ไปกับมันด้วยมีทั้งความสุขและความทุกข์ไปกับมันเราเข้าใจในความสุขแล้วเราก็เข้าใจในความทุกข์ไปพร้อมกันเข้าใจในความเสียใจแต่ว่าทำไมบางคนถึงไม่สามารถก้าวข้ามผ่านความเสียใจไปได้ทั้งๆที่เราก็เข้าใจในความเสียใจนานแล้วนะครับต้องบอกก่อนว่า
ผมก็เป็นคนๆนึงนะครับผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งที่เราก็มีอารมณ์มีความรู้สึกมีความสุขมีความเสียใจเหมือนๆกับทุกๆคนนะครับแต่ผมก็ยังมีอดีตเป็นการที่เรามีความเสียใจมากๆแต่เราก็ยังก้าวข้ามมันไปไม่ได้สักทีเราก็เลยมาถามตัวเองนะครับว่าทำไมเราถึงก้าวข้ามความเสียใจกันไม่ได้ทั้งที่เราก็เข้าใจแล้วนะเรารู้เหตุผลแล้วนะว่าทำไมเราถึงเสียใจเรื่องนั้นทำไมเรื่องนั้นมันถึงเกิดขึ้นอะไรแบบนี้แหละครับก็คือเราเรารู้อยู่แล้วแต่ว่าเรายังขาดอะไรไปบางอย่างที่ทำให้เราไม่สามารถผ่านมันไปได้นะครับพอถามตัวเองไปเรื่อยๆนะครับ
ถามว่าเข้าใจแล้วแล้วเราเข้าใจมันจริงๆหรอคำว่าเข้าใจมันจริงๆเนี่ยคือการที่เราเข้าใจแล้วเราได้ยอมรับมันหรือเปล่านะครับคือบางคนน่ะแค่เข้าใจในความรู้สึกนั้นว่าโอเคตอนนี้ฉันเศร้าโอเคตอนนี้ฉันมีความสุขโอเคตอนนี้ฉันรู้สึกเฉยๆเฉยชาหรือว่าไม่รู้สึกอะไรนะครับแต่เราขาดการยอมรับไปว่าเออตอนนี้เรารู้สึกแบบนี้จริงๆนะเราเป็นแบบนี้อยู่จริงๆนะคือเราไม่สามารถที่จะไปทำอะไรอย่างอื่นได้เลยเพราะว่าเราตอนนี้เป็นแบบนี้อยู่เช่นคุณอาจจะเศร้าที่อะไรๆไม่ได้ดั่งใจ เช่น
ในเรื่องของหน้าที่การงานเพื่อนร่วมงานไม่ดีงานที่ทำอยู่ไม่โอเคไม่ชอบก็พยายามเข้าใจว่าเออเนี่ยมันอาจจะไม่ใช่ตัวเรานะครับแต่ว่าในใจลึกๆอ่ะเราอาจจะไม่ได้ยอมรับมันในจุดนี้นะครับว่าเฮ้ยมันใช่หรอว่าอาจจะไม่ใช่ที่ตัวเรานะอะไรเงี้ยอาจจะเป็นที่ตัวคนอื่นก็ได้อะไรแบบนี้เวลาจะมีที่ตัวเนื้องานที่แบบว่ามันไม่ใช่อ่ะอะไรเงี้ยคือเราเราไม่ได้ยอมรับมันนะครับเราแค่เข้าใจว่าหรือเรารู้ว่าเหตุผลที่เราไม่สนุกไปกับงานหรือไม่มีความสุขไปทำงานมีความทุกข์กับงานนี้เพราะอะไรนะครับเรารู้แค่นั้นหรือเราเข้าใจมันแค่นั้น
แต่เราไม่ได้ยอมรับในความเป็นจริงว่าเราเนี่ยไม่ได้ชอบมันจริงๆหรือเราเนี่ยไม่ได้อยากทำมันจริงๆเราแค่ทำมันไปเพื่อให้มันรอดพ้นไปวันๆหรือว่าทำไปเพื่อแค่ให้มีเงินเลี้ยงตัวเองให้ได้ไปวันๆแบบนั้นนะครับอันนี้คือเราแค่เข้าใจมันเข้าใจในความเป็นจริงแต่ว่ายังไม่ได้ยอมรับมันว่าเออเราทำมันไปเพื่ออะไรนะครับต้องแยกให้ออกระหว่างคำว่าเข้าใจกับคำว่าการยอมรับมันนะครับคือเข้าใจเนี่ยคือการที่เราเข้าใจว่าอ๋อโอเคเรารู้แล้วว่าเรื่องนี้เป็นอย่างนี้เรื่องนั้นเป็นอย่างนั้นเรื่องนู้นเป็นอย่างนู้น แต่การที่เราจะยอมรับมันให้ได้ครับมันเป็นเรื่องอีก
Step หนึ่งเลยนะครับคือการยอมรับว่าตัวเองตอนนี้เราอยู่ในสภาพแบบไหนนะครับถ้าพูดกันแบบตรงๆแบบขวานผ่านซากก็คือเราเนี่ยเป็นยังไงบ้างในตอนนี้เราเศร้าไหมเราเสียใจไหมเรามีความสุขไหมแล้วเราก็ยอมรับมันจริงๆว่าโอเคตอนนี้เราเศร้าอยู่โอเคตอนนี้เรามีความสุขอยู่หรือว่าโอเคตอนนี้เราเฉยๆกับมันอยู่นะครับมันเหมือนกับว่าเป็นการยอมรับให้ตัวเองเนี่ยรับรู้ว่าฉันเป็นแบบนี้อยู่นะในตอนนี้ครับเมื่อมีการเข้าใจบวกกับการยอมรับเข้ามาพร้อมๆกันนะครับมันจะช่วยให้ตัวเราเนี่ยสามารถก้าวข้ามสิ่งๆนั้นไปได้ เช่น
การที่เราอกหักนะครับครับกับคนคนนึงมานะครับหรือเราอาจจะไปหักอกเข้ามาแต่เราก็ยังรู้สึกเสียใจอะไรแบบนี้นะครับก็เราเข้าใจแหละว่าทำไมเราถึงดูอกหักนะครับโดนหักออกมาหรือว่าเราไปหักเขาทำไมนะครับแล้วเข้าใจเลยแต่เรายังไม่ได้ยอมรับถึงความเป็นตัวตนของตัวเองว่าทำไมเราถึงไปหาของเขานะครับเรายังไม่ยอมรับสภาพของตัวเองว่าที่เราเป็นอยู่เนี่ยเราหักของเขานะหรือเราโดนเขาหักอกนะมันเป็นเรื่องของการยอมรับล้วนๆเลยครับอันนี้ผมมองว่านะไม่ๆไม่ล้วนสิไม่ล้วนไม่ล้วนต้องบอกว่ามันเป็นการเข้าใจบวกกับการยอมรับเราถึงจะเข้าข้ามผ่านไปได้อันนี้สามารถใช้กับการคุยกับคนอื่นให้ด้วยนะครับ เช่น
มีคนมาปรึกษาเราว่าเราต้องทำอะไรยังไงต่อไปดีในอนาคตในเรื่องของความสัมพันธ์นี้เราควรจะทำยังไงต่อไปคือเราต้องเข้าใจมันก่อนว่าตอนนี้เราทำอะไรลงไปบ้างแล้วสภาพที่เราเป็นอยู่ตอนนี้คืออะไรนะครับเมื่อเราเข้าใจแล้วบวกกับสภาพที่เรายอมรับนะครับเราจะสามารถทำใจมันได้นะครับสามารถยอมรับและเข้าใจมันได้จริงๆว่ามันเป็นแบบนี้แล้วแล้วเราจะทำยังไงต่อแต่เราจะทำอะไรต่อเราจะปล่อยวางไหมหรือว่า
เราจะไปต่อกับความสัมพันธ์แบบนี้หรือความรู้สึกที่ฝังลึกอยู่ในจิตใจของเรานะครับเราจะยอมรับให้มันเป็นอยู่แบบนี้ไหมหรือเราจะปล่อยผ่านมันทิ้งไปนะครับอันนี้มันก็ขึ้นอยู่แล้วแต่ตัวบุคคลนะครับก็อยากให้ทุกคนลองถามตัวเองดูนะครับว่าการที่เราเนี่ยเข้าใจอะไรบางอย่างแล้วแต่ว่าเราอ่ะ ได้ยอมรับมันไหมลองถามตัวเองดูนะครับว่าในหลายเรื่องที่เกิดขึ้นกับเราเนี่ยเราเข้าใจและยอมรับมันได้จริงๆหรือเปล่าหรือลองมองย้อนกลับไปยังไงดีก็ได้ครับเรื่องที่เราผ่านมันมาได้เป็นเพราะว่าเราเข้าใจและยอมรับมันได้ใช่ไหมเราเลยผ่านมันมาได้ก็ที่ตามตอนต่อไปนะครับตอนที่ 13 นะครับผมขอบคุณครับ