ทำเงินจาก AI ได้เงินจริงไหม วิธีหาเงินจาก AI ทำได้จริงไม่ต้องลงทุน!!
AI คืออะไร?
เพื่อนๆหลายคนก็คงจะสงสัยว่าเจ้าปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) หรือ AI นี้คืออะไรกันนะ ทำไมหันไปทางไหนก็เจอ ก็ได้ยินเค้าพูดถึงกันเยอะแยะเลยโดยเฉพาะบริษัทเทคโนโลยีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Microsoft, Google, Facebook, HUAWEI หรือ Apple ต่างก็ให้ความสนใจไม่น้อย แอดก็จะมาเอ่ยให้เข้าใจกันอย่างคร่าวๆ นั่นก็คือปัญญาประดิษฐ์ ในภาษาอังกฤษเรียกว่า Artificial Intelligence มีคำย่อว่า AI เป็นศาสตร์แขนงหนึ่งของวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ ที่มีแนวคิดในรูปที่เน้นเหตุผลเป็นหลัก มีความสามารถคล้ายมนุษย์หรือเลียนแบบพฤติกรรมมนุษย์ โดยเฉพาะความสามารถในการคิดและเป็นผู้ช่วยในด้านต่างๆ อาทิเช่น ระบบนำทางรถยนต์ไร้คนขับ, ช่วยผู้อัจฉริยะในสมาร์ทโฟน
ดังนั้นจึงมีคำนิยาม AI ตามความสามารถที่มนุษย์ต้องการให้มันแบ่งได้ 4 กลุ่ม ดังนี้
- ระบบที่คิดเหมือนมนุษย์ (Systems that think like humans)
- ระบบที่กระทำเหมือนมนุษย์ (Systems that act like humans)
- ระบบที่คิดอย่างมีเหตุผล (Systems that think rationally)
- ระบบที่กระทำอย่างมีเหตุผล (System that act rationally)
สรุปคร่าวๆ ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) หรือ AI ก็คือ วิทยาการด้านปัญญาที่จะมาช่วยให้มนุษย์อย่างเราๆแก้ปัญหาต่างๆได้ดีขึ้น โดยสร้างหุ่นยนต์ให้สามารถทำงานได้เหมือคน, หรือจะใส่เจ้าปัญญาประดิษฐ์ลงไปในคอมพิวเตอร์ ให้คอมพิวเตอร์ช่วยจำลองการทำงานต่างๆ เลียนแบบพฤติกรรมของคน โดยเน้นตามแนวความคิดแบบสมองมนุษย์ที่มีการวางแผนขั้นตอนการเรียนรู้ การตัดสินใจ การแก้ปัญหา รวมไปถึงการเลือกแนวทางการดำเนินการในลักษณะคล้ายมนุษย์นั่นเอง
หาเงินจาก AI ยังไง
แจกเทคนิคใช้ AI วาดภาพ “ทำเงิน” ไม่ต้องลงทุน
แจกเทคนิคใช้ AI วาดภาพ “ทำเงิน” ไม่ต้องลงทุน ไม่ต้องวาดรูปเก่งก็หาเงินหลักแสนได้ !
เลยอยากเอามาแชร์เป็นไอเดียให้กับเพื่อน ๆ ที่ต้องหา ‘รายได้เสริม’ กัน ซึ่งเค้าเคลมว่า วิธีนี้สามารถสร้างภาพที่มีเอกลักษณ์ คุณภาพสูง และถูกลิขสิทธิ์ได้ โดยที่เพื่อน ๆ ไม่ต้องลงทุน ไม่ต้องวาดรูปเก่งก็สามารถหาเงินแสนต่อเดือนได้อย่างไม่ยากเย็น
ซึ่งผลลัพธ์ที่เค้าทำออกมาก็ถือว่า ‘อึ้ง’ อยู่ไม่น้อยราว ๆ 1 หมื่นดอลลาร์ หรือประมาณ 3 แสนบาทต่อเดือนเลย
เพียงแค่เรามีคอมพิวเตอร์ 1 เครื่องที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ก็สามารถลุยงานนี้ได้แล้ว เรียกว่า เป็นเทคนิคที่ทลายขีดจำกัดในการหาเงินแบบสุด ๆ และไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ก็สามารถทำได้ทันที
ซึ่ง ‘วิธีการ’ และ ‘เทคนิค’ ที่เราจำเป็นต้องรู้ในการทำงานรูปแบบนี้จะมียังไงบ้างนั้นไปดูกันนน
1.หากลุ่มเป้าหมายที่ต้องการขายให้เจอ
ในวงการศิลปะจะมีคนที่ต้องการงานอาร์ตที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นแนวธรรมชาติ แนว Fantasy แนว Sci - Fi หรือแนวอนิเมชั่นก็ตาม ซึ่งเราต้องหาความต้องการของคนกลุ่มนี้ให้เจอ ยิ่งแนวไหนมีความต้องการเยอะ ก็ยิ่งมีสิทธิ์ที่จะขายงานได้ง่ายขึ้น
โดยเทคนิคที่เค้าเลือกใช้ก็คือไปถามแชทบอทอัจฉริยะอย่างเจ้า ‘ChatGPT’ เอาเลยว่า งานอดิเรกแบบไหนที่มีใช้จ่ายเยอะ และงานศิลปะแบบไหนที่กำลังเป็นที่นิยม ซึ่งคำตอบที่ได้ก็ออกมาเป็น
1.คนที่ชื่นชอบจักรยานยนต์
2.นักสะสมสินค้ากีฬา
3.นักดนตรี
4.นักเล่นเกมตัวยง
ส่วนงานศิลปะที่นิยมคือ Sci-Fi Art, Fantasy Art, Surrealism Art, Abstract Art และ Video Game Art
2.ใช้ Midjourney ในการออกแบบงานศิลปะ
หลังจากเลือกกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้แล้วให้เพื่อน ๆ ใช้ AI วาดรูปชื่อ ‘Midjourney’ ได้เลย ตัว AI จะ Generate ภาพออกมาให้จากการพิมพ์ ‘ข้อความ’ ของเรา เพียงไม่กี่วินาทีก็จะได้ภาพสวย ๆ ไม่ต่างจากนักศิลปะมืออาชีพแบบฟรี ๆ เลย
ในส่วนนี้เราอาจจะต้องใช้ความพยายาม และจินตนาการในการคิด และผสมคำมากหน่อย เพื่อที่จะให้ AI ทำภาพสวย ๆ ที่ไม่เหมือนใครออกมาเช่น Abstract, Neon, Space Vortex เป็นต้น
และสำหรับเคล็ดลับที่เค้าเลือกใช้ในส่วนนี้คือ การทำภาพให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย และนำภาพจาก AI ที่ Generate ออกมากลับมาผสมกันต่อกันไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะได้ภาพที่สวยจนพอใจนั่นเอง
3.สร้างผลิตภัณฑ์การพิมพ์ตามต้องการ
นอกจากจะนำภาพที่ได้ไปขายแล้ว ภาพเหล่านี้ยังสามารถนำไปต่อยอดเป็นสินค้าต่าง ๆ ได้อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น โปสเตอร์ เสื้อยืด สติ๊กเกอร์ หรือลายแก้วน้ำ ซึ่งเราสามารถนำภาพจาก AI ไปผลิตเป็นสินค้าได้ผ่านหลักเกณฑ์ Print on Demand หรือ “การผลิตสินค้าเมื่อมีลูกค้าต้องการซื้อเท่านั้น” เรียกง่ายๆก็คือการ pre-order นั่นแหละ
ทำให้เราไม่ต้องเสี่ยงลงทุนเองก่อน และไม่ต้องเสี่ยงที่เงินจมไปอย่างเปล่าประโยชน์ด้วย โดยปัจจุบันมีแพลตฟอร์มให้บริการแบบนี้อยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Printful, Printify หรือ Zazzle
ซึ่งเทคนิคที่เค้าใช้ก็คือ การผลิตสินค้าให้เหมาะสมกับรสนิยมของกลุ่มเป้าหมาย
เช่น หากกลุ่มเป้าหมายเป็นคนที่ชื่นชอบรถจักรยานยนต์หรือชื่นชอบการออกกำลังกาย การผลิต ‘เสื้อยืด’ ก็จะเหมาะสม หรือหากกลุ่มเป้าหมายเป็น ‘เกมเมอร์’ ให้ทำโปสเตอร์ที่สามารถแขวนไว้ในห้องเล่นเกมได้ หรือกลุ่มเป้าหมายสนใจด้านเทคโนโลยี ก็ให้ทำแผ่นรองเมาส์หรือแก้วน้ำก็จะได้ผลลัพธ์ที่ดีมาก
4.มีร้านค้าออนไลน์จาก AI
หากต้องการขายสินค้าให้ได้ เราจำเป็นจะต้องมี ‘หน้าร้าน’ ซึ่งในที่นี้หมายถึง หน้าร้านบน ‘โลกออนไลน์’ อย่าง Shopify หรือ etsy ที่เราสามารถขายสินค้าให้ใครก็ได้บนโลกใบนี้ แต่สิ่งที่เค้าทำนั้นค่อนข้างต่างออกไปจากคนทั่วไปก็คือ เค้ามีการตั้งค่าหน้าร้านด้วยการใช้ AI เข้ามาช่วย ทำให้ผลลัพธ์นั้นดีกว่าการนั่งมโนไปเองหลายเท่า เช่น
ชื่อร้าน : ใช้ ChatGPT ในการคิด
โลโก้ : ใช้ Canva หรือ Looka ในการทำ
รูปสินค้า : ใช้หลักเกณฑ์ Print on Demand หรือ Mock up (ไม่ต้องผลิตสินค้าออกมาก่อน แต่ก็มีรูปสินค้าให้โชว์)
คำอธิบายสินค้า : ใช้ Copy.ai และ Rytr ที่เป็น AI ช่วยเขียนคำอธิบายสินค้าให้
เพียงเท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อย ตั้งแต่การวาดรูป การผลิตสินค้า ค้นหากลุ่มลูกค้า หรือการขาย เราแทบไม่ต้องออกจากบ้าน และไม่ต้องมีทักษะอะไรมากมายเลย เพียงแค่รู้จักการใช้ AI ก็สามารถผลิตสินค้าเจ๋ง ๆ ออกขายได้อย่างไม่ยากเย็นแล้ว
ถือเป็นไอเดียในยุค AI ที่น่าสนใจไม่น้อยเลย ยังไงเพื่อน ๆ ก็ลองนำไปทำตาม หรือนำไปต่อยอดให้เหมาะสมกับบ้านเราดูนะ แอดเชื่อว่า น่าจะเป็นเทคนิคที่มีประโยชน์มาก ๆ สำหรับคนที่อยากจะสร้างความแตกต่างให้กับสินค้าเราไม่น้อยเลยทีเดียว
ที่มา : https://www.facebook.com/stockerday/posts/578110064214643
อ้างอิงจาก: ที่มา : https://www.facebook.com/stockerday/posts/578110064214643