หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

นิยายเรื่อง ล่ามรักอสูร โดย...กัมพู

เนื้อหาโดย nok19800

 

นิยายเรื่อง ล่ามรักอสูร (นามปากกา กัมพู) แนวนิยายรัก 

วางจำหน่าย ในรูปแบบนิยายออนไลน์ (ebook) 
แพลตฟอร์มที่วางจำหน่าย : Meb ธัญวลัย นายอินทร์ Ookbee 
สามารถ เข้าอ่านเนื้อหา ฉบับเต็มได้ตาม แพลตฟอร์มนิยายชั้นนำทั่วไป อาทิเช่น...
( Dek-d , readAwrite , ธัญวลัย , Hongsamut , fictionlog )

--------------------------------------

อารัมภบท...

นั่นเป็นครั้งแรกกับการได้เห็นหน้าของรติชา แล้วพรหมลิขิตก็เล่นตลกกับเขาอีกครั้ง...
วันนั้นเขากำลังจะเดินทางกลับขึ้นเหนือ แต่เกิดลืมซื้อของบางอย่าง จึงจอดรถแวะซื้อของดังกล่าวในร้านสะดวกซื้อข้างทาง รถเขาจอดไว้ริมถนน ห่างไปเล็กน้อยเป็นป้ายรถเมล์ จำเป็นต้องเดินผ่าน ในขณะนั้นเองเขาได้ยินเสียงเรียกขอความช่วยเหลือ...
‘คุณ...คุณคะ รบกวนช่วยเรียกรถแท็กซี่ให้ทีเถอะค่ะ คุณป้าท่านนี้อาการไม่ค่อยดีเลย ฉันจะพาแกไปส่งโรงพยาบาล’
เทวินทร์หยุดชะงักเท้าทันทีที่เขาถูกร้องขอ นัยน์ตาดุหรี่มองใบหน้าเรียวรูปไข่ มองผิวเผินเหมือนจะดูซีดลงเล็กน้อย หัวใจเขากลับเต้นถี่ระรัว มุมปากหยักของเขาเกือบยกสูงขึ้นอย่างลืมตัว เป็นอีกครั้งที่ผู้ชายอย่างเทวินทร์ต้องพยายามควบคุมอารมณ์ให้มันสงบนิ่ง
‘ไปรถผมก็ได้ครับ น่าจะเร็วกว่าเรียกรถแท็กซี่ ในขณะท้องฟ้ากำลังจะรั่วลงมาด้วยเม็ดฝน’
เทวินทร์อาสาอย่างไม่คิดลังเล เขาเป็นฝ่ายปราดเข้าไปพยุงร่างอ่อนแรงของหญิงวัยกลางคน
รติชายกมือไหว้ขอบคุณเขาทันที สีหน้าดูติดเกรงใจ หากก็ดีกว่ารอให้ฝนตกจนอาจทำให้อาการของคุณป้าท่านนี้ย่ำแย่ขึ้นกว่าเดิม
‘ขอบคุณมากนะคะ ที่กรุณาช่วยเหลือเราสองคน’

 

ลิงค์ดาวน์โหลด อีบุ๊ก ฉบับเต็ม (MEB)  - https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTA5NTcwOSI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjY6IjIwNjM1OSI7fQ

 

เปิดเรื่อง

งานเลี้ยงก่อนวิวาห์

 

รติชา วัชรสกุลกิจ กำลังก้มๆ เงยๆ อยู่ตรงซุ้มเครื่องดื่ม เธอกำลังตรวจตราดูความเรียบร้อย ใกล้กันนั้นเป็นโต๊ะจัดเรียงอาหาร วางไว้เป็นถาดมีฝาครอบตามหลักสุขอนามัย แบ่งเป็นอาหารคาวและหวานอย่างละโต๊ะทรงยาว ส่วนตรงกลางรายล้อมไปด้วยโต๊ะนั่งแบบทรงกลม มีเก้าอี้วางเรียงไว้อย่างเป็นระเบียบ

ด้วยคืนนี้จะมีงานเลี้ยงเล็กๆ ก่อนงานวิวาห์จริงในวันรุ่งขึ้น บรรดาแขกเหรื่อในงานล้วนแล้วแต่เป็นคนสนิทคุ้นเคยของทางฝั่งเจ้าสาวเสียเป็นส่วนใหญ่ จึงมีบ้างบางคนที่รติชาเคยเห็นหน้าคาดตามาก่อน ดังนั้นแขกในงานหลายคนยามเห็นเธอเข้าจึงส่งยิ้มทักทายมาให้อย่างคนคุ้นเคยและไม่ถือเนื้อถือตัว ในฐานะแขกของเจ้านายที่มีต่อเด็กรับใช้ภายในบ้าน...

“คุณติชาผมขอน้ำเย็นๆ สักแก้วนะครับ วันนี้อากาศร้อนเป็นบ้าเลย”

“ได้ค่ะ...คุณเจษรอสักครู่นะคะ”

รติชารับคำแล้วเดินตรงมายังโต๊ะสำหรับวางเครื่องดื่ม จัดการรินน้ำเย็นจากเหยือกแก้วพร้อมนำมาเสิร์ฟให้ผู้ร้องขอด้วยใบหน้าละมุน มุมปากของเธอมีรอยยิ้มน้อยๆ ประดับไว้อย่างน่ามอง พลอยทำให้ใบหน้าสวยเก๋ของรติชาดูอ่อนหวานอย่างไร้ที่ติ ไหนจะผิวแก้มเนียนใสไร้ริ้วรอยนั่นอีก มองเผินๆ เขานึกว่าเด็กประถม พาทำเอาหัวใจคนมองเต้นระส่ำขึ้นมาอีกจนได้...

เจษยิ้มกว้างขวางให้กับสาวตรงหน้า รู้สึกผิวหน้าเขาชักร้อนวูบวาบอย่างไรชอบกล…

เขาเป็นหนุ่มนักเรียนนอก มีธุรกิจส่วนตัวที่มั่นคง และยังเป็นเพื่อนสนิทกับลูกชายคนโตของคุณกวินกับคุณกาญจนา สนิทมากจนสามารถเข้าออกบ้านหลังนี้ได้บ่อยๆ พอๆ กับเข้าออกบ้านของตัวเองด้วยซ้ำ อาจด้วยเพราะธุรกิจส่วนตัวหลายบริษัทของเขา มีกรเวศเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนสำคัญ

ส่วนอีกเหตุผลหนึ่ง มันเกี่ยวพันกับเหตุผลทางใจ อันที่จริงคงเป็นเพียงแค่เขาคนเดียวกระมังที่รู้เหตุผลของข้อนี้ เพราะว่าอีกฝ่ายหนึ่งเขาไม่รู้เรื่องอะไรด้วยหรอก...

“ขอบคุณครับ”

เจษรับแก้วน้ำมาดื่มรวดเดียวจนหมดเกลี้ยง สายตาเขาเอาแต่จับจ้องอยู่บนใบหน้าอ่อนหวานอย่างเคยชิน พลอยทำให้สีหน้าเจษนั้นดูสดชื่นขึ้นมาทันตา ชายหนุ่มอมยิ้ม อารมณ์หงุดหงิดจากอากาศสุดแสนจะร้อนอบอ้าว ผนวกกับต้องขับรถชนิดเร่งด่วนข้ามจังหวัดมาให้ทันเวลางานเลี้ยง กลับมลายหายสิ้นในชั่วพริบตาเดียว

เพียงแค่เขาได้มองใบหน้าหวานๆ ของหญิงสาวคนนี้เท่านั้นเอง...

ชายหนุ่มยอมรับความรู้สึกพิเศษที่มีต่อรติชา หากเขาก็ไม่คิดเร่งรีบจนทำให้หญิงสาวรู้สึกอึดอัดใจ ค่อยๆ แฝงตัวเองเป็นมดแดงทำรังอยู่ใกล้ผลมะม่วงไปเรื่อยๆ แค่นี้เขาก็มีความสุขไปอีกแบบแล้วละ...

“คุณเจษต้องการอะไรเพิ่มอีกหรือเปล่าคะ ติชาจะไปช่วยหยิบมาให้”

เสียงหวานเอ่ยถาม มือบอบบางยังคงขยับหยิบนั่นจับนี่ตลอดเวลา ไม่เพียงแค่สวย แถมยังขยันอีกต่างหาก เจษนึกชมผู้หญิงตรงหน้าอยู่ในใจ ก่อนจะส่ายหน้า

“ไม่แล้วครับ...เชิญคุณติชาทำงานต่อเถอะครับ ผมไม่รบกวนแล้วละ เดี๋ยวผมขอนั่งพักให้หายร้อนสักครู่ แล้วจะเข้าไปคุยกับเจ้าเวศข้างในบ้านเสียหน่อย” เจษบอกก่อนจะขอตัวเดินเลี่ยงมายืนหลบแดดตรงมุมหนึ่งของซุ่มงาน

“เชิญตามสบายนะคะ...” รติชายิ้มแล้วเดินมาตรวจความเรียบร้อยของถาดขนมหวาน เมื่อมีคนงานในบ้านกวักมือเรียกหา

หนุ่มนักธุรกิจไฟแรงยังมิวายแอบทอดสายตาชื่นชมไปยังสาวเจ้าเป็นระยะๆ เขารู้ดีว่าเจ้าหล่อนเป็นเพียงลูกสาวอดีตหัวหน้าแม่บ้าน...มารดาของรติชาเป็นเพียงคนงานในบ้านพัชรวราสินธุ์ ก่อนจะมาเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ เขารู้ประวัติของหญิงสาวคร่าวๆ ด้วยคำบอกเล่าของไอ้เพื่อนตัวดี...

ส่วนหนึ่งเขาแอบชื่นชมนิสัยใจคอของรติชาเป็นการส่วนตัว...ตรงที่เจ้าหล่อนรักการเรียน และรักความเจริญก้าวหน้า แถมยังเป็นคนกตัญญูรู้คุณ นำประโยชน์จากความรู้ที่ได้ร่ำเรียนมาช่วยงานคุณป้ากาญจนาอย่างขยันขันแข็ง...

นั่นอาจเป็นเพราะว่าเจ้านายของบ้านหลังนี้ ท่านทั้งสองต่างมีน้ำจิตน้ำใจอันกว้างขวาง ไม่คิดกีดกั้นอนาคตของเด็กในบ้าน แถมยังส่งเสียให้ร่ำเรียนจนจบถึงใบปริญญาตรี โดยไม่เคยเรียกร้องสิ่งใดตอบแทน น้ำใจของคุณลุงกวินกับคุณป้ากาญจนา เขาเองก็เคยได้รับอยู่เสมอ ถ้าจะพูดไปคนในบ้านหลังนี้ทุกคนล้วนจิตใจดีงามกันทั้งนั้น...

รติชาก้มหน้าก้มตาทำงานต่อจนกระทั่งเรียวแขนเล็กนั้นมีคนมาสะกิดเรียก...

“พี่ติชายุ่งอยู่หรือเปล่าคะ”

คนถูกถามเปิดปากยิ้มกว้างตอนเห็นหน้าคนสะกิดเรียก...นั้นเป็นใคร

พวงแก้มที่แดงจัดกว่าปกติจากกระไอแดดยิ่งทำให้รติชาสวยเด่นขึ้นมาอีกเป็นกอง คนทักเห็นแล้วยังอดนึกอิจฉาในใจไม่ได้อยู่เลย เธอเป็นเพื่อนสนิทกับเจ้าสาวของงาน มีชื่อว่าส้ม เป็นสาวน้อยร่างอวบที่มีนิสัยน่ารักและไม่เคยถือตัวในฐานะเพื่อนของเจ้านาย

“ไม่ยุ่งเท่าไรแล้วล่ะค่ะ...คุณส้มต้องการอะไรหรือคะ”

“ส้มเอาไอ้นี่มาให้ค่ะ...พี่ติชามีเวลาแล้วค่อยเปิดอ่านก็ได้ ยังพอมีเวลา”

สิ่งที่ยื่นส่งมาให้เป็นแผ่นกระดาษพับจนเหลือแผ่นเล็กจิ๋ว คนนำมาให้เสร็จ รีบหันหลังเดินอ้าวหายตัวไปเลย รติชาขมวดคิ้วก้มมองสิ่งที่อยู่ในมือ คงเป็นเรื่องที่คุณส้มไม่ต้องการให้ใครรู้ แล้วรีบจัดการยัดเจ้าแผ่นกระดาษจิ๋วไว้ในกระเป๋ากางเกง ก่อนจะก้มหน้าทำงานต่ออย่างไม่มีสิ่งใดผิดปกติ...

---------------------------------

รติชาทำงานอยู่ในบ้านพัชรวราสินธุ์มาตั้งแต่เธอจำความได้ เพราะรติชาเป็นลูกสาวคนเดียวของหัวหน้าแม่บ้านกับอดีตนายทหารยศน้อยคนหนึ่ง ซึ่งตอนนี้ทั้งบิดาและมารดาของรติชาได้เสียชีวิตลงด้วยอุบัติเหตุไปเสียนานหลายปีแล้ว...

หน้าที่หลักของรติชาภายในบ้านพัชรวราสินธุ์ นอกเหนือจากการเป็นผู้ช่วยของคุณกาญจนานายหญิงของบ้าน รติชายังต้องคอยเป็นมือเป็นเท้า คอยดูแลและช่วยจัดการเรื่องต่างๆ ให้กับแก้วเจ้าจอมอีกด้วย...

แก้วเจ้าจอม...เป็นบุตรสาวคนสุดท้องของคุณกวินกับคุณกาญจนา เธอยังมีพี่ชายอีกคนมีชื่อว่า กรเวศ พัชรวาสินธุ์...

กรเวศเป็นหนุ่มนักธุรกิจเนื้อหอม เขาเป็นหนุ่มไฟแรง มีวิสัยทัศน์กว้างไกล แถมยังประสบความสำเร็จมาแล้วมากมาย ทั้งที่เขาอายุยังน้อยแท้ๆ ผลของความสำเร็จทั้งหลายที่ตามมา จึงไม่ใช่เฉพาะความมั่นคงเท่านั้น ทว่ากรเวศยังกลายเป็นหนุ่มฮอต ในกลุ่มบรรดาสาวๆ อีกด้วย...

ทว่าหลายเดือนมานี้กรเวศก็ทำให้หญิงสาวทั้งหลายต่างพากันอกหักกันเป็นทิวแถว เพราะชายหนุ่มกำลังมีข่าวโด่งดังอยู่กับดาราสาวดีกรีระดับนางงามโลก เจ้าหล่อนมีชื่อว่า รุ่งฟ้า

ซึ่งเป็นข่าวดังที่ทำเอารติชาเกิดอารมณ์ดิ่งวูบไปชั่วขณะ...

จะบอกว่าเล่นเอาภายในโพรงอกเธอมันเบาโหวงอยู่พักหนึ่งเลยก็ว่าได้...

เวลาหยิบจับหรือทำอะไรมันรู้สึกไร้ความสุขแปลกๆ แต่เป็นเพราะรติชารู้ตัวเองดีเสมอว่าเป็นใคร และอยู่ในฐานะอะไรของบ้านพัชรวราสินธุ์ มิหนำซ้ำยังเป็นเพียงแค่คนแอบรักเขาข้างเดียว ไหนเลยจะมีสิทธิ์ในตัวชายหนุ่ม...

ดังนั้นเรื่องราวระหว่างเธอกับกรเวศ ยังไงซะมันก็ไม่มีทางเป็นไปได้อยู่วันยังค่ำ เจ็บเพราะรู้สึกอกหัก เพราะแอบรักเขาข้างเดียว ยังดีกว่าต้องมานั่งกินน้ำใต้ศอกของคนอื่นในวันข้างหน้าเป็นไหนๆ ...

หญิงสาวจึงทำใจยอมรับและตัดใจจากหนุ่มในฝันได้ในเพียงแค่ระยะเวลาอันรวดเร็ว ถือเป็นเรื่องที่ลงมือทำง่ายกว่าการดันทุรังจะพาตัวเองเข้าไปพัวพันกับผู้ชายที่อยู่สูงเทียมฟ้า

รติชาถอนหายใจทิ้ง ตอนคิดได้ว่าตัวเองปลงตกกับเรื่องหัวใจได้ง่าย ยังโชคดีเท่าไร เธอไม่เผลอหลวมตัวยอมตกเป็นของเล่นสำหรับกรเวศ...มันมีอยู่หลายครั้งยามอยู่ตามลำพังกับเขา กรเวศมักชอบทำกิริยารุ่มร่ามใส่เธออย่างน่ารังเกียจ...รติชาก็ไม่เคยปริปากบอกใครให้รับรู้ อาจเป็นเพราะรติชาแอบรักเขาเลยไม่ต้องการทำให้เขาเสียชื่อ หรือกลายเป็นคนไม่ดีในสายตาของใคร สุดท้ายสิ่งที่ตนเองอมพะนำ เก็บเอาไว้ในใจ จึงย้อนกลับมาทำร้ายตัวเองแท้ๆ ...

คุณแก้วเจ้าจอมเพิ่งเรียนจบและกำลังจะแต่งงานออกเรือนไปกับเจ้าบ่าวที่มีชื่อว่า เทวินทร์ สินธปกรณ์ พ่อเลี้ยงหนุ่มแห่งปางไม้คนดังจากเชียงราย เหตุที่ทั้งคู่ต้องแต่งงานกันนั้นเกิดขึ้นจากสัญญาระหว่างคนสองตระกูล รติชาไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้มากนัก แต่สิ่งหนึ่งที่รติชารับรู้มาโดยตลอด...

นั่นคือแก้วเจ้าจอมทุกข์ใจกับงานวิวาห์ของตัวเองครั้งนี้พอสมควร ถึงขั้นกินไม่ได้นอนไม่หลับหลังจากทราบถึงกำหนดวันงานมงคลที่แน่นอน...

‘แต่แก้วไม่อยากแต่งงานกับคุณวินทร์นี่นา...ดูเขาเป็นผู้ชายที่น่ากลัวมากเลยนะคะพี่ติชา ไม่รู้ว่าการเป็นพ่อเลี้ยงปางไม้ ต้องคอยทำหน้าตา ดุๆ ใส่กันตลอดเวลาด้วย’

แก้วเจ้าจอมแสดงสีหน้าสยดสยองประกอบ รติชาเห็นถึงกับส่ายหน้า มุมปากยังคงยิ้มอ่อนให้กับสาวสวยประจำบ้านพัชรวราสินธุ์

‘คุณแก้วอคติกับเขามากกว่าค่ะ ถึงได้บอกว่าคุณวินทร์เธอดูน่ากลัว’

รติชาไม่เคยเห็นหน้าของว่าที่เจ้าบ่าวของแก้วเจ้าจอมจึงไม่อาจเออออตามคำบอกเล่าที่ได้ยิน

‘แก้วไม่ได้พูดเกินจริงเลยนะคะพี่ติชา คุณวินทร์เขาดูท่าทางน่ากลัวจริงๆ คิ้วก็ชอบขมวดตลอดเวลาด้วย แก้วรู้สึกอึดอัด เหมือนคนหายใจไม่ทั่วท้องทุกทีเวลาอยู่กับเขาตามลำพัง’

‘คนเราสมัยนี้ดูแค่เพียงภายนอกอย่างเดียวไม่ได้หรอกนะคะ ท่าทางเขาอาจจะดูน่ากลัว แต่ไม่แน่ว่าจิตใจข้างในอาจจะดีแสนดีก็ได้’

แก้วเจ้าจอมถอนหายใจหนัก เขยิบเข้ามานั่งใกล้พี่เลี้ยงสาวคนงามแล้วเบาเสียงที่พูดประโยคถัดมาให้ได้ยินเพียงสองคน...

‘แต่พี่ติชาก็ทราบดีนี่คะว่าตอนนี้แก้วมีคนที่คุยๆ ด้วยอยู่แล้ว’

‘ทราบค่ะ...แต่คุณแก้วก็ปฏิเสธเรื่องนี้ไม่ได้เหมือนกัน’

‘แก้วถึงได้มานั่งกลุ้มใจอยู่นี่ไงคะ พี่ติชาพอจะมีวิธีดีๆ แนะนำแก้วบ้างไหม”

‘วิธีที่ดีที่สุดคือการเปิดใจยอมรับค่ะ’ แก้วเจ้าจอมส่ายหัว

‘แก้วมีความสุขเวลาแก้วได้พูดคุยกับอังเดรค่ะ แล้วอีกอย่างแก้วไม่คิดว่าผู้ชายอย่างพ่อเลี้ยงเทวินทร์จะทำให้แก้วมีความสุขได้ เพราะเขาไม่ใช่ผู้ชายที่แก้วอยากจะฝากชีวิตด้วยแต่แรก’

รติชาทอดสายตาเห็นใจมองเจ้าของใบหน้าชื่นบานยามเอ่ยถึงชื่อคนรัก ในชั่วพริบตาถัดมาก็เปลี่ยนเป็นเศร้าหมองยามเอ่ยถึงชื่อของอีกคนหนึ่งขึ้นมาแทน...

เห็นได้ชัดว่าแก้วเจ้าจอมปักใจรักในตัวของแฟนหนุ่มมากกว่าคู่หมั้นคู่หมาย...ที่กำลังจะกลายมาเป็นคู่ชีวิตในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า อย่างไรทุกอย่างก็ยังคงดำเนินการต่อไปตามทิศทางของมัน แก้วเจ้าจอมไม่มีทางหลีกหนีวิวาห์คลุมถุงชนครั้งนี้ไปไหนได้ ยกเว้นเสียแต่ว่า ความคิดเห็นของสองคนจะตรงกัน...

 

---------------------------------------

 

รติชาขลุกตัวเองอยู่ตรงซุ้มอาหารจนกระทั่งทุกอย่างเรียบร้อย และเพราะทำงานจนเพลินนี้เอง ทำให้หญิงสาวลืมเรื่องแผ่นกระดาษในกระเป๋ากางเกงเสียสนิท คนส่งสารพอส่งเสร็จก็มีธุระด่วนต้องเร่งออกมาจัดการข้างนอกเลยไม่ได้ติดตามผล ส่วนเจ้าของแผ่นกระดาษใบจิ๋วก็เอาแต่นอนหมดอาลัยตายอยากอยู่ภายในห้องส่วนตัว คิดเอาไว้ว่าพอถึงเวลา รติชาต้องคอยช่วยเหลือเธอได้อย่างแน่นอน...

ตอนนี้บรรดาแขกเหรื่อคนสนิทของทางฝั่งเจ้าสาว ต่างทยอยเข้ามาในงานเลี้ยงเรื่อยๆ หญิงสาวกวักมือเรียกพนักงานหญิงคนหนึ่ง ซึ่งทางโรงแรมเป็นผู้จัดส่งมาให้คอยดูแลเรื่องอาหารโดยเฉพาะ ซักถามถึงรายละเอียดเพิ่มเติม จนแน่ใจจะไม่เกิดข้อผิดพลาด

รติชาจึงขอตัวเดินมาตรวจความเรียบร้อยยังโต๊ะนั่ง โดยหญิงสาวกลับไม่รู้ตัวเลยสักนิด ตรงระเบียงตึกชั้นสองของตัวบ้าน มีเจ้าของใบหน้าคมคายทว่ากลับมีดวงตาดุดันภายใต้คิ้วหนาเข้มดูโดดเด่นมากสุดบนใบหน้าคมคายนั้น...เขากำลังจับจ้องอยู่ที่ตนเองเป็นระยะ ...

เขาคนนั้นคือพ่อเลี้ยงเทวินทร์ สินธปกรณ์ เจ้าของปางไม้อันโด่งดังจากเชียงรายและยังเป็นถึงว่าที่เจ้าบ่าวคนสำคัญของงานเลี้ยงเล็กๆ คืนนี้ด้วย

ชายหนุ่มเดินทางมาถึงที่พักซึ่งเป็นบ้านของตัวเจ้าสาว ผู้หญิงที่เขาจะต้องแต่งงานด้วยเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน...แต่งเพราะหน้าที่ไม่ใช่เพราะความรัก มันเป็นสิ่งที่เทวินทร์ต้องตอบแทนต่อผู้มีพระคุณเป็นครั้งสุดท้าย ถึงจะต้องฝืนใจตัวเองก็เถอะนะ...

เทวินทร์เม้มริมฝีปากเข้าแล้วก็คลายออกแล้วก็เม้มกลับเข้าไปใหม่ เขาทำกิริยานี้ซ้ำอีกหลายครั้ง มือทั้งสองข้างกำแน่นอยู่ตรงขอบระเบียง ตอนเห็นมีชายหนุ่มมากหน้าหลายตาคอยหมั่นแวะเวียนเข้ามาทักทายผู้หญิงตรงซุ่มงานเลี้ยงนั่น...บ่อยจนใจเขาชักร้องระอุ...

“เสน่ห์แรงเสียจริงนะแม่คุณ” .

พ่อเลี้ยงแห่งปางไม้ทุบมือลงบนราวระเบียง แน่นอนว่ามันเกิดจากความไม่พอใจจนใกล้จะแตะคำว่าหงุดหงิดเข้าไปทุกที...

 

-------------------------------

สามารถเข้าอ่านเนื้อหาฉบับเต็มได้ที่(readAwrite) ตามลิงค์ด้านล่างนี้เลยนะคะ -  https://www.readawrite.com/a/1c1348c4092753913eb62f3cabb66bc4

แฟนเพจ: กนกรส  https://www.facebook.com/กนกรส-1742298989361370/
อ่านต่อได้ที่ https://board.postjung.com/1477755

เนื้อหาโดย: nok19800
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
nok19800's profile


โพสท์โดย: nok19800
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯพืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่าชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทยแคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการีแบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้เพื่อนสนิทเปิดใจหลังเกิดเหตุ! เผย 'ณัฐวุฒิ ปงลังกา' หลับไม่ตื่น-ไม่ขอตอบปมทะเลาะในวงเหล้า ขณะผลชันสูตรชี้ชัดพบ "ไซยาไนด์"ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน"ฮุนเซน" เงินหมด ทหาร BHQ คู่ใจทรยศ แอบซบอก "สมรังสี"ปิดฉาก! มหากาฬฯ โบนัสพนักงาน “ไดกิ้น” คือ Get out
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ปิดฉาก! มหากาฬฯ โบนัสพนักงาน “ไดกิ้น” คือ Get outชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีดเพื่อนสนิทเปิดใจหลังเกิดเหตุ! เผย 'ณัฐวุฒิ ปงลังกา' หลับไม่ตื่น-ไม่ขอตอบปมทะเลาะในวงเหล้า ขณะผลชันสูตรชี้ชัดพบ "ไซยาไนด์"“ศุภจี” เฮ! ARASCO ซาอุฯ สั่งซื้อมันสำปะหลังอัดเม็ดเพิ่ม 3 หมื่นตัน ปีหน้าลุ้นพุ่งแตะ 1 แสนตันหาดใหญ่จมน้ำ รถลูกค้า ‘วิริยะประกันภัย’ ขอเคลมพุ่ง 3,800 คัน
กระทู้อื่นๆในบอร์ด นิยาย เรื่องเล่า
ฝึกภาษาอังกฤษวันละ 1 ชั่วโมงร้านหยกเขียวสุกี้ (แม็คโครโลตัสบ้านไผ่)🌑 5 'รหัสลับ' ที่ต้องรู้ก่อนทำงานใน 'ออฟฟิศเก่า' หลัง 4 โมงเย็น! — เปิดโปง 'ตำนานซุ้มประตูที่ 7' และ 'กฎการมองไม่เห็น' ที่คนในวงการไม่กล้าพูดถึง! 👻⚠️ 7 ปรากฏการณ์! การสิ้นสุดของ 'งานประจำแบบเดิม' และ 'การสร้างรายได้ 4.0' ที่นักบริหารต้องรับมือในปีหน้า! 💸
ตั้งกระทู้ใหม่