นิยายรัก เรื่องเสน่หาสายใยรัก โดย...กนกรส
นิยายเรื่อง เสน่หาสายใยรัก (นามปากกา กนกรส) แนวนิยายรัก
วางจำหน่าย ในรูปแบบนิยายออนไลน์ (ebook)
แพลตฟอร์มที่วางจำหน่าย : Meb ธัญวลัย นายอินทร์ Ookbee
สามารถ เข้าอ่านเนื้อหา ฉบับเต็มได้ตาม แพลตฟอร์มนิยายชั้นนำทั่วไป อาทิเช่น...
( Dek-d , readAwrite , ธัญวลัย , Hongsamut , fictionlog )
------------------------------
คำโปรย...
ฝ่ามือน้อยหยุดชะงักกึก เมื่อได้ยินคำเรียกขานลูกในท้องของเธอในทางหมิ่นแค้น คำพูดของคนเป็นพ่อใช้เรียกขานลูกของตัวเองเป็นเพียงสิ่งต้อยต่ำเช่นนี้เลยหรือ ดวงตาเคยหวานจึงตวัดขึ้นมองไปทางคนใจดำอย่างไม่พอใจ เขาไม่รับผิดชอบตัวเธอ เธอทนได้ แต่ไม่ใช่มาเรียกสิ่งมีค่านี้ว่าเป็นเด็กหัวขน..
“ถ้าหากนายจะกรุณาเราสองคนแม่ลูกจริงๆ ฉันขอแค่เรื่องเดียวเท่านั้น และหวังว่านายจะให้เราสองคนแม่ลูกได้สบาย”
“เธอจะขออะไร?...”
“ขอให้นายออกไปจากชีวิตของเราสองคนแม่ลูกซะที หรือหายสาปสูญไปได้เลยยิ่งดี และฉันจะถือเป็นความกรุณาอย่างที่สุดแล้วถ้าหากนายไม่เสนอหน้าไปยุ่งเกี่ยววุ่นวายกับเราสองคนแม่ลูกอีก ไม่ต้องกลัวลูกของฉันจะไม่ได้ลืมตามาดูโลกโหดร้ายใบนี้หรอกนะ ถึงเขาจะเกิดมาเพราะความไม่ตั้งใจจากผู้ชายเลวๆคนหนึ่ง แต่เขาคือสิ่งที่มีค่าที่สุดสำหรับฉัน...ลาก่อน”
นาทยสุรีเอ่ยลาเสียงนิ่ง เมื่อเธอตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดวงตาหวานไม่แม้แต่จะชายตาแลคนข้างกายให้ต้องเจ็บปวดหัวใจไปมากกว่าที่เป็น เมื่อรถยนต์แล่นมาจนติดไฟแดงตรงสี่แยก ร่างงามระหงจึงตัดสินใจเปิดประตูรถออก แล้วก้าวขาเดินเชิดใบหน้างดงามขึ้นสูง สิ้นสุดกันเสียทีกับขุมนรกอเวจี ขุมนรกที่ตัวเธอเองยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ ผู้ชายคนนั้นจับตัวเธอไปเพื่ออะไร...
*สามารถเข้าโหลดอีบุ๊กเรื่อง เสน่หาสายใยรัก ฉบับเต็มได้ที่ meb ตามลิงค์ด้านล่างได้เลยจ้า*
เปิดเรื่อง
(งานเลี้ยง)
บรรยากาศภายในงานเลี้ยงต้อนรับบุตรชายคนโตของตระกูล เที่ยงบูรณกำจร เต็มไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตา ทั้งคนในวงการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจหนึ่งเดียวที่นำพาชื่อเสียงมากมายมาสู่เจ้าของ ไม่มีใครในแวดวงนี้จะไม่รู้จักชื่อของ...เจ้าสัวนาท เที่ยงบูรณกำจร เจ้าสัวผู้มั่งคั่งติดอันดับต้นๆ ของเมืองไทยก็ว่าได้...
บรรดาแขกเหรื่อในงานส่วนใหญ่ จึงหนีไม่พ้นเหล่าบรรดาสายอาชีพเดียวกันแทบทั้งนั้น ซึ่งมีทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ ต่างตบเท้าเดินเข้ามาร่วมแสดงความยินดีกันอย่างเนืองแน่น หรือแม้แต่คนนอกวงการในหลากหลายสายอาชีพ ล้วนต่างเข้ามาร่วมแสดงความยินดีกันอย่างล้นหลามเต็มพื้นที่บริเวณคฤหาสน์ แม้บางคนอาจจะมีเจตนาอื่นแอบแฝงมากกว่าการมาร่วมแสดงความยินดีนี้ก็ตาม...
“คุณนิ่มคะ...จานใบนี้จะให้ป้ายกออกไปตอนนี้เลย หรือจะให้รอท่านเจ้าสัวลงจากเวทีเสียก่อนดีคะ อีกประเดี๋ยวก็คงจะเสร็จสิ้นพิธีการบนเวทีกันแล้ว ป้าให้แม่สายบัวคอยออกไปด่อมๆ มองๆ สังเกตการณ์อยู่ ว่าแต่อาหารของคุณนิ่มเถอะ ยังไงก็ช่วยเร่งมือให้เร็วกว่านี้อีกสักหน่อยเถอะค่ะ อย่าตั้งแง่กับพวกท่านๆ นักเลย ป้าบอกตามตรงป้าไม่อยากเห็นคุณนิ่มต้องโดนคุณท่านดุในวันสำคัญของคุณนนท์วันนี้เลย เลิกดื้อเลิกงอแงแล้วทำตัวน่ารักกับพวกคุณๆ นะคะคนดีของนม...”
สาวใช้เก่าแก่ซึ่งมีศักดิ์เป็นแม่นมของคุณนิ่ม เอ่ยถามนายสาวด้วยใบหน้าติดเป็นกังวลใจ ก็จะไม่ให้นางเป็นกังวลได้อย่างไรไหว ในเมื่องานเลี้ยงนั้นเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ตอนเย็นจนบัดนี้ล่วงเลยมาจนเกือบดึกดื่น หากแต่คุณนิ่มของนางกลับยืนใบหน้ามันเยิ้มอยู่ในห้องครัวนี้อยู่เลย อีกประเดี๋ยวเถอะคุณผู้หญิงคงได้เข้ามาเอ็ดให้อีกจนได้ กี่ครั้งกี่หนก็ไม่เข็ดไม่จำสักทีคุณนิ่มนะคุณนิ่ม...
แม่นมแจ่มได้แต่ส่ายหน้าเอือมระอานิสัยดื้อเงียบของคุณหนูคนเล็ก ไอ้นิสัยดื้อเงียบนี้คงได้มาจากคุณนายรองนั่นแหละจะได้มาจากใครล่ะ ก็แม่ลูกกันนี่นา...
“คุณนิ่มคะ! คุณนิ่มของป้า...” นมแจ่มต้องเอ่ยเรียกซ้ำถึงสองหน กว่าคุณหนูของนางจะหันมา
“เฮ้อ! นิ่มไม่อยากออกไปข้างนอกเลยนี่คะ นิ่มเบื่อจะตายอยู่แล้วนมจ๋า! ...”
หญิงสาวผู้มีใบหน้าเรียวสวยงดงามดั่งดวงจันทร์กระจ่าง วางทัพพีขนแกงลงพร้อมถอนหายใจออกมาดังเฮือกใหญ่ พิงร่างงามกับโต๊ะหินอ่อน ก่อนจะหันใบหน้านวลใสส่งสายตาเบื่อหน่ายไปยังแม่นมของตัวเองอย่างไม่ปิดบัง
“โธ่! คนดีของนม...ไม่เอาสิคะ อย่าดื้อกับคุณพ่อคุณน้านักเลยนะ ขึ้นไปอาบน้ำแล้วก็แต่งตัวสวยๆ ลงมาช่วยท่านเจ้าสัวรับแขกได้แล้วล่ะค่ะ...เชื่อนมนะคะคนดี” นมแจ่มต้องเดินเข้าไปลูบหลังลูบไหล่ปลอบใจนายสาว เลี้ยงกันมาแต่อ้อนแต่ออก ทำไมนางจะไม่รู้ถึงความรู้สึกของนายสาวตอนนี้เป็นเช่นไร ถึงภายนอกนาทยสุรีจะเป็นสาวอ่อนหวานนุ่มนิ่มไม่พูดไม่เถียง เออออไปตามน้ำตลอด แต่ถ้าหากดื้อขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ไม่คิดจะฟังเสียงใครเหมือนกัน...
“นมจ๋าไม่เข้าใจนิ่มหรอก ว่านิ่มเบื่อ แล้วก็เบื่อๆ นิ่มเซ็งกับการต้องถูกจับไปวางตรงนั้นที ตรงนู้นที และนิ่มก็ไม่ชอบคนพวกนั้นด้วยค่ะ คนพวกนั้นไม่ได้ต้องการนิ่มจริงๆ เสียหน่อย ที่เข้าหานิ่มก็เพราะเงินกับอิทธิพลของคุณพ่อแทบทั้งนั้น ทำไมนิ่มจะดูไม่ออกคนไหนจริงใจหรือเสแสร้งกับเรา”
คุณนิ่มของป้าแจ่มสาธยายความรู้สึกในใจใบหน้างอหงิก ถึงภายนอกหญิงสาวงดงามผู้นี้จะดูอ่อนน้อมกิริยางดงามสมดั่งรูปร่างอรชรของตัวเอง แต่เรื่องนิสัยดื้อเงียบ ก็ต้องยอมยกให้เธอเลยเช่นกัน...
“ก็คิดเสียว่าวันนี้เป็นวันดีของคุณนนท์เธอสิคะ คุณนิ่มเป็นน้องสาวแท้ๆ ก็ต้องออกไปทำหน้าที่ของตัวเอง จะมาหมกตัวอยู่แต่ในห้องครัวไม่ต่างจากคนใช้มันถูกต้องนักหรือไง...เชื่อนมนะคะ ออกไปช่วยคุณนนท์เธอรับแขกเถอะค่ะ ไปค่ะนมจะเดินขึ้นไปส่งที่ห้อง จะได้ช่วยคุณนิ่มแต่งตัวสวยๆ ด้วยอย่างไรคะ...”
“นิ่มไม่...” นาทยสุรีกำลังจะเอ่ยค้านแต่ก็ต้องหุบปากลง เมื่อเห็นแววตาเว้าวอนของคนที่เลี้ยงดูเธอมาตั้งแต่มารดาแท้ๆ ได้ตายจากไป หญิงสาวจึงจำใจพยักหน้ายอมตกลงแต่โดยดี
“สิคะ...” นมแจ่มฉวยข้อมือน้อยให้เดินตามออกไปจากห้องครัวพร้อมกัน เมื่อร่างอรชรยังคงอิดออด ไม่ขยับเดินไปไหน ถึงจะยอมพยักหน้า แต่ก็ใช่จะยอมเดินออกไปจากห้องครัวนี้ง่ายๆ เสียเมื่อไหร่...
“ก็ได้ค่ะ นิ่มยอมนมแจ่มจ๋าก็ได้...อ้อ...ไม่ใช่สินะ ต้องบอกว่านิ่มยอมคุณน้าก็ได้มันถึงจะถูก... เฮ้อ! นิ่มรักคุณน้ามากๆ แต่นิ่มก็ไม่ชอบถูกบังคับจิตใจให้ต้องทำตามไปเสียทุกเรื่อง แม้แต่เรื่องคู่ครองนิ่มก็ไม่มีสิทธิ์เลือกด้วยตัวของนิ่มเองเลยหรือคะนมแจ่มจ๋า...” คนบอกว่ายอมทำหน้ามู่ทู่ประชดคำเสียงหวาน
นมแจ่มเห็นแล้วก็อดส่ายหน้ากับคำประชดประชันของนายสาวตัวน้อยไม่ได้ แต่ต่อให้หญิงสาวทำตัวดื้อสักแค่ไหน สุดท้ายก็ต้องยอมใจอ่อนลงให้คนในครอบครัวนี้อยู่ดีนั่นแหละ โดยเฉพาะกับคุณน้ามารดาเลี้ยง นาทยสุรีทั้งรักทั้งเกรงใจ ไม่เคยมีสักครั้งที่จะขัดใจกัน...
“ยอมได้ก็ยอมๆ ท่านไปเถอะค่ะ อย่าทำให้คุณผู้หญิงท่านหนักใจอีกเลย อาการของท่านยิ่งไม่ค่อยจะสู้ดีอยู่ด้วยตอนนี้ อะไรที่คุณนิ่มทำให้ท่านสบายใจได้ก็ทำนะคะ ถือเสียว่าทำให้คนแก่เขามีความสุขก็แล้วกัน”
“นิ่มถึงได้ยอมคุณน้ามาตลอด ถึงจะชอบหรือไม่ชอบนมก็เห็นนี่คะ นิ่มเคยขัดใจท่านได้สักครั้งแบบจริงๆ จังๆ บ้างไหม” นมแจ่มยิ้มรับเห็นด้วย ถึงจะปฏิเสธในตอนแรกหากสุดท้ายคุณหนูของนางก็ต้องยอมคุณผู้หญิงอยู่ดี
“ก่อนป้าจะเข้ามา ป้าได้ยินเสียงของคุณผู้หญิงเธอกำลังเรียกหาคุณนิ่มด้วยล่ะค่ะ แต่ป้าก็บอกกับท่านไปแล้วล่ะ อีกเดี๋ยวคุณนิ่มก็จะตามออกไปที่งาน คุณผู้หญิงท่านจะได้สบายใจขึ้นอย่างไรล่ะคะ...”
“ตายจริง! อย่างนั้นเราต้องรีบกันแล้วล่ะ นิ่มไม่อยากเห็นคุณน้าโมโห”
นาทยสุรีมีสีหน้าเลิกลั่ก เริ่มเป็นกังวลใจมากขึ้น เมื่อนึกถึงอาการของผู้เป็นแม่เลี้ยง เธอเองก็ไม่ได้อยากจะทำตัวดื้อด้านอะไรนักหนาหรอกนะ บ่อยครั้งต้องฝืนใจทำเพื่อท่าน แต่บ่อยๆ เข้าเธอเองก็รู้สึกเบื่อหน่ายขึ้นมาเหมือนกันนี่นา...
“ก็ใช่น่ะสิคะคนดี...นมแจ่มเตือนคุณนิ่มแล้วก็ไม่ฟังกัน...ประเดี๋ยวเถอะ ทั้งคุณนิ่มกับป้าคงได้โดนคุณผู้หญิงเอ็ดเอาจนได้ กี่ครั้งแล้วทำไมถึงไม่จำเสียทีหึ...คนดีของแจ่ม คุณผู้หญิงท่านหวังดี เธออยากจะเห็นคุณนิ่มมีคนมาคอยดูแลต่อจากท่าน...ดูสิคะ โตเป็นสาวแล้วก็สวยหมดจดขนาดนี้ ไม่มีแม่คนไหนอยากให้ลูกสาวที่ตัวเองรักได้ในสิ่งที่ไม่ดีหรอกนะคะ เชื่อนมบ้างสิคนดี...”
เมื่อเดินออกมาจากห้องครัวพร้อมๆ กันนมแจ่มเลยถือโอกาสอบรมสั่งสอนหญิงสาวไปในตัว การจัดงานเลี้ยงทุกๆ ครั้งของตระกูลนี้ นมแจ่มหรือทุกคนต่างทราบกันดี จุดประสงค์แอบแฝงนั้นคืออะไร...
“คุณน้าเรียกหานิ่มนานหรือยังคะ”
“ก็สักพักได้แล้วล่ะค่ะ ก่อนป้าจะเดินเข้าไป...”
“นิ่มขอโทษค่ะ... นิ่มเองก็ไม่อยากให้คุณน้าโมโหเลยสักนิด กลัวความดันของท่านจะขึ้นมาอีก...” หญิงสาวรำพึงรำพันขึ้นมาเสียงอ่อย เธอรู้สึกหนักใจไม่อยากเป็นตัวต้นเหตุทำให้อาการป่วยของผู้มีพระคุณต้องทรุดหนักลงไปมากกว่านี้ อะไรยอมได้เธอมักยอมให้ท่านเสมอมา พอสิ้นบุญมารดาที่แท้จริง เธอก็มีเพียงคุณน้าละไม คอยให้การอบรมเลี้ยงดูกันมาอย่างไม่เคยขาด แม้แต่ความรักคุณน้าท่านให้ความรักต่อไม่ต่างจากลูกสาวแท้ๆ ก็ว่าได้...
“คุณผู้หญิงท่านคงไม่เห็นคุณนิ่มออกไปด้านนอกงานสักที เลยเรียกหา คุณนิ่มไปอาบน้ำเถอะค่ะ เดี๋ยวนมจะเตรียมชุดเอาไว้รอ จะได้รีบออกไปด้านนอกงานพร้อมกัน ป้าเองก็จะออกไปดูพวกเด็กๆ มันจัดอาหารเอาไว้คอยเสิร์ฟบรรดาแขกในงานด้วยเหมือนกันค่ะ...” เมื่อเปิดประตูห้องเข้าไปด้านใน นมแจ่มแตะแขนให้หญิงสาวเดินเลยเข้าห้องน้ำ ส่วนตัวนางกำลังจะแยกไปเตรียมชุดเอาไว้รอ แต่ก็ถูกมือบางรวบร่างอวบเข้าไปหอมไปกอดเสียก่อน
“ขอบคุณนะคะนมแจ่มจ๋า...นิ่มโชคดีที่สุดเลยที่มีนมแจ่มจ๋าคอยอยู่เคียงข้างตลอดมา...” ร่างงามก้มลงหอมแก้มแม่นมของตัวเองฟอดใหญ่ กอดรัดร่างอวบเอาไว้ด้วยความรักเต็มหัวใจ
“นิ่มรักนมแจ่มจ๋านะคะ...” ร่างน้อยออดอ้อนเสียงอ่อนหวาน จนนมแจ่มอดยิ้มออกมาไม่ได้
“นมก็รักคุณนิ่มเหมือนกันค่ะ และก็ดีใจมากๆ ที่มีโอกาสได้เลี้ยงเด็กผู้หญิงตัวน้อยๆ อย่างคุณนิ่มจนโตเป็นสาวสะพรั่งสวยสง่าไม่เป็นสองรองใครเขาแบบนี้...” คนถูกชมเป็นสาวสะพรั่งยิ้มเขิน
“นิ่มไปอาบน้ำก่อนดีกว่าค่ะ จะได้ไม่ถูกคุณน้าขึ้นมาดุอีก” แม่นมพยักหน้ายิ้มอ่อน เมื่อร่างน้อยผละแยกออกไปเข้าห้องน้ำ นมแจ่มจึงเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า มองดูชุดราตรีสีฟ้าอ่อน ชุดที่คุณหญิงละไมสั่งตัดขึ้นมาใหม่พิเศษสำหรับเพื่องานเลี้ยงต้อนรับบุตรชายเพียงคนเดียวโดยเฉพาะ...
นมแจ่มหยิบชุดงามขึ้นมาเตรียมรอ ก่อนจะคิดอะไรเพลินๆ ...
คุณหนูของนางไม่ชอบการเข้าสังคม ไม่ว่าจะงานเลี้ยงภายใน หรือภายนอก มักจะเก็บตัวอยู่แต่ในห้องครัว ไม่ค่อยออกไปพบเจอกับใครง่ายๆ ถ้าไม่ถูกบังคับจริงๆ ก็จะหาข้ออ้างอยู่เสมอ คุณหนูของนางไม่ชอบความวุ่นวาย ตัวนางเองก็เข้าใจ และโดยเฉพาะในสถานที่เกิดเสียงดังอึกทึก คุณหนูนิ่มจะหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้โดยสิ้นเชิง...
และเมื่อนาทยสุรีถูกแม่นมจับแต่งตัวจนเสร็จเรียบร้อยดีแล้ว จึงพากันเดินออกไปยังด้านนอกคฤหาสน์เพื่อเข้าร่วมงานเลี้ยงด้วยกัน เธอไม่ได้ยินดียินร้ายกับงานเลี้ยงแต่ก็ไม่อาจปฏิเสธจะไม่เข้าร่วมงานได้ จุดประสงค์ของงานนี้ไม่ใช่เพียงแค่เลี้ยงต้อนรับพี่อานนท์ของเธอ แต่เป็นการโชว์ตัวให้บรรดาหนุ่มๆ ฐานะมั่งคั่งในงานได้เก็บเธอไปพิจารณาเป็นคู่ครองเสียมากกว่า...
“คุณพ่อจัดงานนี้ให้พี่นนท์นะคะ ไม่ใช่จัดให้นิ่มเสียหน่อย คุณน้าจะให้นิ่มออกไปคุยกับใคร นิ่มไม่รู้จักใครสักคนเดียว นิ่มก็เลยเบื่อๆ นะคะนมแจ่มจ๋า...”
พอเดินออกมาจากห้องพักส่วนตัวได้สักระยะ นาทยสุรีจึงเปรยขึ้นเสียงเหนื่อยใจ ทำไมเธอจะไม่รู้ถึงจุดประสงค์อันแท้จริงของงานเลี้ยงในวันนี้ มันไม่ได้ถูกจัดขึ้นเพื่อเลี้ยงต้อนรับพี่นนท์เพียงอย่างเดียวเสียหน่อย แต่จุดประสงค์สำคัญมันอยู่ที่ตัวเธอเองต่างหากล่ะ...
“คุณพ่อกับคุณน้าคงเบื่อนิ่มแล้ว ถึงได้อยากกำจัดนิ่มออกไปจากบ้านหลังนี้เร็วๆ ใช่ไหมคะนมแจ่มจ๋า ...” หญิงสาวเอ่ยถามแม่นมคนสนิทเสียงเศร้า ใบหน้าสวยก็หมองหม่นลงตาม เธอแอบคิดด้วยความน้อยใจ เพียงเธอเกิดมาเป็นลูกผู้หญิง ไม่ใช่ผู้ชายอย่างพี่นนท์ คุณพ่อกับคุณน้าถึงได้อยากให้เธอแต่งงานออกเรือนไปให้พ้นหูพ้นตาเสียทีใช่ไหม พวกท่านคงไม่อยากเลี้ยงดูเธออีกต่อไปแล้ว...
“ตายแล้ว! ทำไมคุณนิ่มถึงได้คิดแบบนั้นล่ะคะ ไม่เอาค่ะคนดี ไม่มีพ่อแม่คนไหนไม่รักลูกของตัวเองหรอกนะคะ การที่ท่านเจ้าสัวกับคุณผู้หญิงท่านคิดอยากให้คุณนิ่มมีคนรัก ก็เพราะพวกท่านหวังดีกับคุณนิ่มต่างหากล่ะ ใช่อยากจะไล่ให้คุณนิ่มไปไหนเสียหน่อย...” แม่บ้านเก่าแก่ดันร่างอรชรออกห่างด้วยความรู้สึกตกใจมิใช่น้อย กับความคิดของเจ้านายตัวน้อย
“แต่นิ่มได้ยินคุณพ่อกับคุณน้าคุยกัน พวกท่านอยากให้นิ่มแต่งงานไปกับใครสักคนที่มาในงานเลี้ยงวันนี้...แต่นิ่มไม่ทันได้ยินชื่อของเขาหรอกนะคะว่าเขาเป็นใคร...” หญิงสาวเอ่ยเสียเศร้า ก็เธอไม่อยากแต่งงานกับใครถ้าคนนั้นไม่ใช่คนที่เธอกำลังรอคอยเขาอยู่ ถึงแม้การรอคอยนั้นอาจจะไม่มีวันมาถึงเลยก็ตาม แต่ผู้ชายเพียงคนเดียวที่สามารถอยู่กับเธอทั้งยามหลับฝันและยามตื่น อยู่ในโลกแห่งความจริงและความฝันได้มีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้น นั่นก็คือ...
พี่เสือ! ...
“พวกท่านทั้งสอง ก็แค่อยากให้คุณนิ่มลองเปิดใจมองใครสักคนดูบ้าง ไม่ใช่วันๆ เล่นหมกตัวเองอยู่แต่ในบ้านปิดกั้นตัวเองจนไม่ยอมสนใจมองใครเลยสักคน พวกท่านแค่อยากเห็นคุณนิ่มมีความสุขกับใครสักคนที่คุณนิ่มรักแล้วเขาก็รักคุณนิ่มเท่าๆ กับพวกท่านรักด้วยน่ะค่ะ” นมแจ่มแย้งขึ้นด้วยความเข้าใจ ถึงแม้จะได้ขึ้นชื่อว่าเป็นแม่เลี้ยง แต่ก็ไม่ได้ทำตัวร้ายกาจเหมือนอย่างในละครทีวีที่มีให้ดูกันอยู่เกลื่อนกลาดทั่วไปเสียหน่อย แต่ท่านทั้งรักและเอ็นดูลูกเลี้ยงคนนี้ไม่ต่างจากความรักของแม่แท้ๆ ที่มีต่อบุตรลูกสาวแท้ๆ ของตัวท่านเองเลยด้วยซ้ำไป...
“หนูนิ่ม! ทำไมถึงออกมาช้านักหึ...” บทสนทนามีอันต้องยุติลงเท่านั้น เมื่อบุคคลที่ทั้งสองกำลังกล่าวถึง เดินหน้าบูดบึ้งตรงดิ่งเข้ามาเสียก่อน...
“คุณน้า!”
“ว่าแล้วนิ้มต้องอยู่ในนี้...ทำไมถึงได้ออกไปช้านักล่ะลูก งานเลี้ยงเขาเริ่มมาตั้งนานแล้วไม่ใช่หรือไงเรา...แทนที่หนูนิ่มจะออกไปช่วยพี่นนท์เขารับรองแขกเหรื่อ แต่นี่อะไร มาขลุกตัวอยู่แต่ในครัว น้าถามหน่อยเถอะ มันเหมาะสมแล้วหรือไง...กลับสิ่งที่หนูนิ่มกำลังทำอยู่...”
เสียงทรงอำนาจกล่าวตักเตือนใบหน้าเรียบนิ่ง ถึงแม้นาทยสุรีจะเป็นหญิงสาวที่ได้ขึ้นชื่อว่ามีกิริยาวาจาเรียบร้อยอ่อนหวาน ว่านอนสอนง่ายอยู่ก็จริง แต่ถ้าหากว่าเจ้าตัวเกิดไม่ชอบใจกับเรื่องอะไรก็แล้วแต่ หญิงสาวจะทำตัวดื้อเงียบ ไม่สนใจ ไม่รับรู้ ไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้ต่อสิ่งนั้นๆ อีกเลย จนบางครั้ง ทั้งตัวนางเองหรือกับสามี ถึงกับเอามือกุมขมับส่ายหน้าเหนื่อยใจกับความดื้อเงียบนี้ของบุตรสาวอยู่บ่อยครั้ง
“แต่นิ่มไม่อยากออกไป นิ่มไม่ชอบเสียงดังนี่คะ คุณน้าก็ทราบดีอยู่แล้ว...” นาทยสุรีใบหน้าสลดลงอย่างเห็นได้ชัด เมื่อนึกไปถึงเหตุการณ์ในวันนั้น
มันเป็นเพราะอุบัติเหตุรถชนครั้งเมื่อเธอยังเป็นเด็กอายุได้เพียงสองขวบ ทำให้หญิงสาวถึงกับขวัญผวาทุกครั้ง เมื่อได้ยินเสียงดังอึกทึก และเป็นเพราะอุบัติเหตุครั้งนั้นอีกเช่นกัน ทำให้หญิงสาวต้องพบกับความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ เมื่อมารดาของเธอ เสียชีวิตคาที่ในวันเกิดเหตุ...
“น้ารู้...แต่วันนี้เป็นวันสำคัญของตานนท์เขา นิ่มน่าจะออกไปแสดงความยินดีกับพี่เขาสักหน่อย พี่เขาน้อยใจแล้วรู้ไหม ถามหาแต่หนูนิ่มกับน้าไม่ขาดปาก...ที่ไม่ได้เห็นหน้าน้องสาวสุดที่รักของตัวเองในงานเลี้ยงวันนี้เสียที นี่ก็เร่งให้น้าเข้ามาตามนิ่มออกไปด้านนอก บอกว่ามีเพื่อนจะแนะนำให้รู้จักกันเอาไว้น่ะ...”
คุณหญิงละไมเดินเข้ามาใกล้ร่างน้อย ก่อนจะโอบไหล่บุตรสาว พากันเดินออกไปด้านนอก นางเองยังรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ในวันนั้นไม่หายเช่นกัน กลับการจากไปของเพื่อนรักอย่างกะทันหัน ถึงจะมีสามีคนเดียวกัน แต่ก็เป็นความยินยอมของตัวนางเองด้วย นางแค่ต้องการให้สามีมีใครอีกสักคน เพราะตัวนางเองเมื่อคลอดบุตรชายออกมาแล้ว ก็ไม่สามารถให้ความสุขกับสามีได้อย่างเต็มที่นัก ด้วยเรื่องของสุขภาพร่างกายที่อ่อนแอลงหลังจากการคลอดบุตรชายนั่นเอง...
“นิ่มขอโทษค่ะคุณน้าขา นิ่มทำตัวไม่น่ารักวันนี้...” นาทยสุรียกมือขึ้นกราบขอโทษ
“นิ่มจะไม่ทำตัวดื้อกับทุกคนอีกแล้วล่ะค่ะ” คุณหญิงละไมส่ายหน้าระบายยิ้มอบอุ่น
“จ้ะลูกแม่...” คุณหญิงละไมลูบศีรษะสวยด้วยความรักและเอ็นดู
“นี่ถ้าพี่นนท์เขามาได้ยิน นิ่มบอกจะไม่ดื้ออีก พี่เขาคงดีใจสุดๆ แน่เลยนะน้าว่า...” คุณหญิงละไมพูดยิ้มๆ เพราะนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกเช่นกัน ที่นางได้ยินคำพูดอ่อยๆ ของลูกเลี้ยงสาว ว่าจะไม่ดื้อ...แต่พอมีงานเลี้ยงทีไรก็ต้องคอยวิ่งไล่กันอย่างนี้ตลอด
เข้าอ่านเนื้อหาฉบับเต็มได้ที่ (readAwrite) - https://www.readawrite.com/a/ef72d53990bc4805684c9b61fa64a102
แฟนเพจ: กนกรส https://www.facebook.com/กนกรส-1742298989361370/