ประสบการณ์การออมเงิน
ประกันมีหลายแบบครับ ต้องถามก่อนว่ามีจุดประสงค์การทำเพื่ออะไร ถ้าตอบว่า..
1)เพื่อการออมอย่างเดียว
1.1) เป็นคนรับความเสี่ยงเรื่องการลงทุนไม่ได้ ก็แนะนำเป็นแบบสะสมทรัพย์ธรรมดา
- ข้อดีคือ มีทุนประกันชีวิตไว้ให้คนข้างหลังกรณีจากไปก่อนวัยอันควร ถ้าอยู่ครบสัญญาก็รับเงินคืนไป +ดอกเบี้ยนิดหน่อยตามแบบที่ทำ, ถ้ามีเรื่องต้องใช้เงินก็สามารถกู้กรมธรรม์ตัวเองได้, ใช้ในการวางแผนการเงินได้, ลดหย่อนภาษีได้, เป็นมรดกได้
- ข้อเสีย อัตราตอบแทนน้อยแต่การันตีผลตอบแทน
1.2) ถ้ารับความเสี่ยงการลงทุนได้ แนะนำเป็นแบบยูนิตลิ้งค์(ประกันควบการลงทุน)
- ข้อดีคือ ลดหย่อนภาษีได้, ได้ทุนประกันชีวิตวงเงินสูงกว่าแบบสะสมทรัพย์ ในขณะที่จ่ายเบี้ยเท่ากัน, ถ้าเป็นทุพพลภาพก็ได้เงินตามทุนประกันชีวิตและประกันยังมีผลคุ้มครองต่อไป, มีโอกาสได้ผลตอบแทนสูงกว่าตามกองทุนที่เลือก, เป็นมรดกได้, สามารถออกแบบได้เองว่าอยากจ่ายสั้นหรือจ่ายยาว, หยุดจ่ายแล้วประกันจะไม่ขาดทันที จะคุ้มครองต่อไปจนกว่ามูลค่ากรมธรรม์จะหมด, เหมาะสำหรับทำคู่กับประกันสุขภาพระยะยาวที่จ่ายแค่ช่วงระยะเวลาหนึ่ง แต่มีผลคุ้มครองไปหลายปีหลังจากหยุดจ่าย, มีโอกาสลุ้นได้เงินคืนตอนครบสัญญาแล้วได้มากกว่าเงินที่จ่ายมา
- ข้อเสียคือ ลูกค้ามีหน้าที่จ่ายเบี้ยประกัน
ผมยกตัวอย่างคร่าวๆไว้เท่านี้ครับ
จากปสก ออมเงินกับเอไอเอมา 30ปี (ตั้งแต่เริ่มทำงาน)
เพราะทำงานบริษัท ไม่มีหัวการค้าหรือลงทุนทำอย่างอื่น ก็เลยคิดว่าตัวเองเหมาะที่จะทำแบบสะสมทรัพย์ดีที่สุดและก็ทำประกันมาเรื่อยๆ เกือบทุกแบบ
มีหลายฉบับที่ครบกำหนดแล้ว ก็ซื้อต่อ
ตั้งแต่ แบบ 21ปีมีคืนทุก3ปี
แบบ20ปี
แบบ30ปี
แบบสะสมจนอายุ60
แบบ15/25 2ฉบับบ
แบบ7/15 2ฉบับ
แบบ5/10 4ฉบับ
แบบเอ็กเซเลนท์20ปี
แบบตลอดชีพ เพื่อซื้อสุขภาพ
ข้อดีคือ
- ฝึกวินัยตัวเองเก็บเงิน เก็บก่อนใช้ (มีคุ้มครองชีวิตให้ด้วย)
- เงินที่เราเก็บไว้ในบัญชี เป็นเงินสำรองฉุกเฉินที่เรามีสำรองไว้ เลยไม่เรียกว่าเงินเก็บค่ะ เก็บเงินในประกันคือเรียกว่า ฝึกเก็บจริงจัง
- เก็บเงินเองจะสู้เงินเฟ้อไม่ได้
ข้อเสีย
- ถอนยาก (ถ้าถอนง่ายเราก็จะไม่มีวินัยเก็บเงิน )
- มีระยะเวลากำหนดชัดเจนว่าฝากเงินกี่ปี แล้วมีเงินคืนเท่าไร ครบกำหนดรอไปอีกกี่ปี บางคนอาจจะคิดว่านานไป