ประเทศจริงยิ่งกว่าละคร คงไม่พ้นประเทศไทยกับกัมพูชานี่แหละ!!! รวมยูเครนด้วย***
ประเทศจริงยิ่งกว่าละคร คงไม่พ้นประเทศไทยกับกัมพูชานี่แหละ รวมถึงยูเครนด้วย
ประชาชนในสองประเทศนี้ คงเสพละครหลังข่าวในโทรทัศน์มากเกินค่าเฉลี่ยของประชากรชาติอื่น ๆ ทำให้ผู้คน โดยเฉพาะผู้ที่เป็น Influencer ในสื่อสังคมออนไลน์ แม้กระทั่งสื่อกระแสหลัก คิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนละคร เป็นเรื่องดราม่า เรียกน้ำตา เสียงสะอื้น คร่ำครวญ ความเห็นอกเห็นใจไปทั้งหมด จึงสร้างเรื่องต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตโดยการเติมแต่งให้มากกว่าความเป็นจริง เพื่อเรียกความนิยมหรือจำนวนผู้เข้าชม
หากจะย้อนความเป็นมาต้องถือได้ว่าต้นกำเนิด คือ ชูวิทย์ เมื่อครั้งเข้ามาเป็นผู้แทนราษฏร ในสภาฯ จนถึงปัจจุบัน เขาสมารถสร้างเรื่องเล็ก ๆให้ดูมีสีสรร ด้วยการประกอบฉากเข้าไปด้วยวัตถุ แสง สี เสียง อารมณ์ ความรู้สึก หรือ พูดประสาชาวบ้านคือ ใส่สี ตีไข่ แต่งแต้มเข้าไปในเรื่องจริง จนทำให้เรื่องบางเรื่องที่จริงเพียงส่วนหนึ่งกลายเป็นจริงทั้งหมดหรือเกินความจริงขึ้นมา
นักการเมืองหรือผู้ที่ต้องการพื้นที่ในข่าว ต่างเลียนแบบจนกระทั่ง ทำให้เรื่องไม่จริงกลายเป็นเรื่องจริงในความเชื่อของผู้เสพ เรื่องลักษณะเช่นนี้ยิ่งรุนแรงมากยิ่งขึ้นเมื่อมีการเลือกตั้งนักการเมืองเกิดขึ้น ทุกคนทั้งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ผู้สนับสนุน ผู้บริหารพรรคการเมือง จนไปถึงกองเชียร์ ต่างแต่งเติม ใส่สี เพิ่มไข่ เพิ่มรสชาติเข้าไป จนสับสนไปหมดว่าเรื่องใดคือเรื่องจริง เรื่องใดไม่จริง หรือส่วนไหนจริง ส่วนไหนแต่งเติม
ประเทศไทยจะอยู่แบบนี้ไปอีกนานเท่าไร? หรือสังคมเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ควรสนับสนุนต่อไป !!!
หากยังมีข้าว ไข่ต้ม น้ำปลากินทุกวันก็นับว่าบุญแล้ว