"แม่ซื้อ” เป็นแม่ในความเชื่อของคนสมัยก่อน ที่เชื่อว่าเด็กทุกคนเกิดมาต้องมีแม่ซื้อประจำวันเกิดคอยดูแล
"แม่ซื้อ” เป็นแม่ในความเชื่อของคนสมัยก่อน ที่เชื่อว่าเด็กทุกคนเกิดมาต้องมีแม่ซื้อประจำวันเกิดคอยดูแล เพื่อพิทักษ์รักษาไม่ให้เด็กเจ็บไข้ได้ป่วย เป็นความเชื่อที่มีอยู่ทุกภาค พจนานุกรมฯ กล่าวถึงแม่ซื้อว่า เป็นเทวดาหรือผี ที่เชื่อกันว่า เป็นผู้ดูแลรักษาทารก บางทีก็เรียกกันว่า "แม่วี” บางแห่งก็ว่า แม่ซื้อ คือ ผีที่ชอบมาคอยหยอกล้อเด็ก ทำให้เด็กรู้สึกกลัว หลอน ร้องไห้โยเยบ่อยๆ โดยไม่ทราบสาเหตุ แต่ปัจจุบันหากเด็กร้องไห้ไม่หยุด หรือมีลักษณะดังกล่าว แพทย์อาจสันนิษฐานว่า เป็นโรคโคลิค (Colic) ซึ่งเป็นกับเด็กๆ โดยอาจเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย เช่น แก๊สในท้องมากไป ป้อนนมมากหรือน้อยเกินไป ฮอร์โมนในร่างกายปรับเปลี่ยนเลยปวดท้อง หรือมีการระคายเคืองของระบบประสาท เป็นต้น
ในสารานุกรมวัฒนธรรมไทยได้มีการกล่าวถึงแม่ซื้อ โดยมีรายละเอียดแตกต่างกันไปบ้างตามพื้นที่ ซึ่งคนปัจจุบันคงแทบไม่ทราบกันแล้ว จึงขอนำมาเล่าสู่กันฟัง ดังนี้
ภาคกลาง เชื่อว่า "แม่ซื้อ”เป็นภูตประจำทารก มีอยู่ ๗ ตน มีชื่อเรียกต่างๆ กัน คือ แม่ซื้อวันอาทิตย์ชื่อ "วิจิตรมาวรรณ” มีหัวเป็นสิงห์ มีผิวกายสีแดง แม่ซื้อวันจันทร์ชื่อ "วรรณนงคราญ” มีหัวเป็นม้า มีผิวสีขาวนวล วันอังคารชื่อ "ยักษบริสุทธิ์ มีหัวเป็นมหิงสา (ควาย) ผิวกายสีชมพู วันพุธชื่อ ”สามลทัศ” มีหัวเป็นช้าง ผิวกายสีเขียว วันพฤหัสบดี มีชื่อว่า "กาโลทุกข์” มีหัวเป็นกวาง มีผิวกายสีเหลืองอ่อน วันศุกร์มีชื่อว่า "ยักษ์นงเยาว์” มีหัวเป็นโค ผิวกายสีฟ้าอ่อน วันเสาร์ชื่อว่า "เอกาไลย์” มีหัวเป็นเสือ ผิวกายสีดำ ทุกตนทรงอาภรณ์(เสื้อผ้า)สีทอง กล่าวกันว่าแม่ซื้อทั้งเจ็ดตนนี้ แต่ละตนจะสำแดงเดชให้ทารกได้รับความเจ็บป่วยต่างๆกันไป เช่น ทำให้ปวดท้อง อาเจียน ร้องไม่หยุดหรือบางครั้งก็มีอาการหวาดผวา ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันมิให้แม่ซื้อมารบกวนทารก คนสมัยโบราณจึงคิดหาวิธีการไม่ให้แม่ซื้อสำแดงเดชให้โทษแก่ทารก ด้วยการทำพิธีที่เรียกว่า "พิธีบำบัดพิษแม่ซื้อ” โดยผู้ทำพิธีจะทำบัตรขึ้นมาใบหนึ่ง ในบัตรจะใส่ของกินต่างๆ เช่น ข้าว น้ำ กุ้งพล่า ปลา ฯลฯ และตุ๊กตาดินรูปผู้หญิงนั่งพับเพียบประคองเด็กอยู่ในตัก เมื่อเจ้าพิธีกล่าวคำในพิธีจบก็จะหักหัวตุ๊กตาให้หลุดออก เสมือนให้แม่ซื้อเอาไปเล่นแทนได้ ทารกก็จะไม่เจ็บป่วยจากการรบกวนของแม่ซื้ออีก
ส่วนในภาคเหนือ "แม่ซื้อ” จะหมายถึงเทวดาที่คุ้มครองเด็กแรกเกิดหรือเป็นเทวดาประจำตัวทารก ซึ่งก็จะมี ๗ นาง แต่ละนางก็จะมีชื่อเรียกและการแต่งกายคล้ายกับทางภาคกลางที่กล่าวข้างต้น
สำหรับภาคใต้ "แม่ซื้อ” เป็นสิ่งเร้นลับที่อยู่ในความเชื่อของชาวบ้าน ไม่มีตัวตน จะมีฐานะเป็นเทวดาหรือภูตผีก็ไม่ปรากฏชัด ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงของทารกตั้งแต่แรกเกิดจนอายุ ๑๒ ขวบ มีด้วยกัน ๔ ตนเป็นผู้หญิงชื่อ ผุด ผัด พัดและผล แต่นายพุ่ม คงอิศโร หมอขวัญจ.สงขลา ได้กล่าวว่าแม่ซื้อมีทั้งชายและหญิง ส่วนบททำแม่ซื้อของนายปาน เพชรสุวรรณ จ.นครศรีธรรมราชบอกว่า "แม่ซื้อ” เดิมเป็นเทพธิดา พระอิศวรมีบัญชาให้ "อันตรธานหายกลายเป็นแม่ซื้อ ลงมารักษาทารก” ตามความเชื่อ แม้ว่าแม่ซื้อจะถือว่าเป็นพี่เลี้ยงทารกก็จริง แต่บางครั้งก็ให้โทษได้เช่นกัน มีการแปลงเพศพันธุ์เป็นสิ่งต่างๆหลอกหลอนให้ทารกตกใจ หรือเจ็บป่วยได้ ดังนั้น เพื่อให้ทารกหายเป็นปกติ จึงมีการจัดพิธี "ทำแม่ซื้อ” หรือ "เสียแม่ซื้อ” ขึ้น บางครอบครัวแม้ทารกจะไม่มีอาการผิดปกติใดๆ ก็ยังทำพิธีดังกล่าวอยู่ดี ทั้งนี้ ด้วยเชื่อว่าจะเป็นสิริมงคลแก่เด็ก สำหรับพิธี”ทำแม่ซื้อ” หรือ "เสียแม่ซื้อ”นั้นหมายถึงพิธีกรรมที่จัดขึ้นเพื่อให้เด็กทารกหายจากอาการสะดุ้งผวา หรือการเจ็บไข้ได้ป่วย และได้รับการดูแลรักษาด้วยดีจากแม่ซื้อ การทำพิธีมักจะทำในวันเกิดของเด็ก หากเป็นวันข้างขึ้นก็ให้ใช้วันคี่ ข้างแรมให้ใช้วันคู่
ทางด้านภาคอีสาน เป็นความเชื่อในสังคมเขมร-ส่วย ว่าทุกคนที่ปฏิสนธิในครรภ์มารดานั้น มีแม่ผู้สร้างทารกและเลี้ยงดูในครรภ์ ที่เรียกว่า มนายเดิม หรือ มนายสะโนน (มนายเดิม เป็นภาษาเขมร "มนาย” แปลว่า แม่ ส่วน”เดิม” แปลว่า ต้นหรือเก่าก่อน รวมแล้วหมายถึง แม่คนเก่าก่อน ส่วนคำว่าสะโนน แปลว่า ผู้ปั้น) แม่ที่ว่านี้เป็นผีพรายที่มีหน้าที่ปั้นและสร้างเด็กทารกในครรภ์ และเฝ้าเลี้ยงดูจนกระทั่งคลอดออกมา แล้วยังตามมาอภิบาลด้วยความรักและหวงแหน หรือมาหยอกล้อเล่นด้วย ชาวบ้านเชื่อว่าทารกเกิดใหม่ที่มักนอนยิ้มกับอากาศอยู่คนเดียว คือ มีผีพรายมาหยอกเล่นกับเด็ก แม่ผีพรายนี้เมื่อเห็นเด็กทารกมีแม่ใหม่ก็หวงแหน อยากได้ลูกกลับไปอยู่เมืองผีกับตน จึงทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยต่างๆ นานา เช่น นอนสะดุ้ง ร้องไห้ผิดปกติ บางรายหน้าเขียวไม่มีสาเหตุ ฯลฯ จึงมักมีพิธีแบ่งลูกผีลูกคน ซึ่งเป็นพิธีรับขวัญเด็กอ่อนอย่างหนึ่ง คล้ายภาคกลางที่ทำพิธีแม่ซื้อ พิธีการคือนำเด็กทารกมาใส่กระด้งร่อน แล้วกล่าวว่า "สามวันลูกผี สี่วันลูกคน ลูกของใคร ใครเอาไปเน้อ” ฝ่ายพ่อแม่ก็จะรับว่าเป็นลูกตน คนทำพิธีก็จะส่งลูกให้ แม่มนายเดิมก็จะรู้ว่าทารกนั้นเป็นลูกคนแล้ว ก็จะไม่มารบกวนอีก
เรื่องเกี่ยวกับ "แม่ซื้อ” นี้ ยังมีหลักฐานปรากฏเป็นจารึกและภาพจิตรกรรมฝาผนัง ณ ศาลาหน้าพระมหาเจดีย์ด้านทิศใต้ของวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) ที่เรียกกันว่า "ศาลาแม่ซื้อ” ที่กล่าวถึง แม่ซื้อประจำวันเกิด โรคแม่ซื้อประจำตัวเด็กที่เกิด พิธีกรรม และยารักษาโรคแม่ซื้อทั้ง ๗ วัน โดยแม่ซื้อแต่ละนางก็จะมีนาม รูปลักษณ์ และที่สถิตแตกต่างกัน ซึ่งสมัยก่อนนิยมเขียนภาพแม่ซื้อลงในแผ่นผ้าขาว ลักษณะคล้ายยันต์เพื่อแขวนไว้ที่เปลเด็ก โดยเขียนด้วยยางมะเดื่อ แล้วระบายสีแม่ซื้อตามสีอาภรณ์และสีกายของแม่ซื้อประจำวันนั้นๆ ส่วนด้านหลังผ้าขาวนี้ จะลงภาพท้าวเวสสุวัณ ทั้งหน้ายักษ์และหน้ามนุษย์ไว้ด้วย เพราะเชื่อว่าจะช่วยป้องกันอันตรายต่างๆที่จะเกิดกับเด็กได้ เนื่องจากพระองค์เป็นอธิบดีแห่งอสูร หรือเจ้าแห่งภูตผีปีศาจทั้งหลาย
ปัจจุบันด้วยวิทยาการ ความก้าวหน้าทั้งการแพทย์และการสาธารณสุข ทำให้เราเข้าถึงข้อมูลความรู้เรื่องโรคต่างๆได้ง่ายขึ้น รวมทั้งสามารถพาเด็กไปหาหมอเมื่อเจ็บป่วยได้สะดวกสบายขึ้น ดังนั้น ความเชื่อและพิธีกรรมเกี่ยวกับ "แม่ซื้อ” จึงแทบจะสูญหายไปหมด หรือหากยังมีอยู่ ก็น่าจะเป็นการกระทำเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่เด็กมากกว่าจะเป็นความเชื่อในเรื่องการรักษาหรือป้องกัน อย่างไรก็ดี สิ่งเหล่านี้ก็ได้สะท้อนให้เห็นถึงภูมิปัญญา และความชาญฉลาดของบรรพชนในอดีตที่พยายามคิดค้นหาวิธีการต่างๆ เพื่อปกป้องลูกหลานของตนให้ดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างปกติสุข หลีกเลี่ยงจากโรคภัยไข้เจ็บ และยังช่วยเสริมสร้างขวัญกำลังใจแก่พ่อแม่ ทำให้เกิดความเชื่อมั่นในการเลี้ยงลูกให้อยู่รอดปลอดภัยด้วย
น.ส.ทัศชล เทพกำปนาท ที่ปรึกษากรมส่งเสริมวัฒนธรรม