สงกรานต์งานสนุก งานแห่งความสุข อย่าให้เกิดอันตรายแก่ชีวิต และติดคุกได้
วันสงกรานต์ เป็นวันขึ้นปีใหม่ของไทยมาตั้งแต่สมัยโบราณ จนมาถึง พ.ศ.2483 จึงได้เปลี่ยนวันขึ้นปีใหม่เป็นวันที่ 1 มกราคม เพื่อให้ตรงกันกับสากล แต่ในความรู้สึกของคนไทยยังคงถือว่า วันสงกรานต์คือวันขึ้นปีใหม่ของไทย จึงมีการจัดงานเฉลิมฉลอง สาดน้ำ รดน้ำดำหัว สรงน้ำพระ การเฉลิมฉลอง การดื่มสุรา เกิดความคึกคนอง จนเป็นเหตุให้ขับรถโดยประมาท
ทุกปีที่ผ่านมา ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ (7 วันอันตราย) มักจะมีเหตุที่ไม่พึงประสงค์เกิดขึ้น คืออุบัติเหตุทางรถ ทำให้บาดเจ็บ และสูญเสียชีวิตจำนวนมาก
สถิติช่วงเทศกาลสงกรานต์ ข้อมูลจาก กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย พบว่า
ปี 2560 เกิดอุบัติเหตุ 3,690 ครั้ง เสียชีวิต 390 คน บาดเจ็บ 3,808 คน
ปี 2561 เกิดอุบัติเหตุ 3,897 ครั้ง เสียชีวิต 418 คน บาดเจ็บ 3,897 คน
ปี 2562 เกิดอุบัติเหตุ 3,338 ครั้ง เสียชีวิต 386 คน บาดเจ็บ 3,442 คน
ปี 2565 เกิดอุบัติเหตุ 1,917 ครั้ง เสียชีวิต 278 คน บาดเจ็บ 1,869 คน
สาเหตุที่เกิดอุบัติเหตุหลัก ๆ คือ เมาแล้วขับ ขับรถโดยประมาทคึกคนอง ทำให้เทศกาลสงกรานต์ เกิดอันตรายถึงชีวิต ผู้เดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ ต้องระมัดระวังเพิ่มอีกสองสามเท่าของช่วงเวลาอื่น
อาจติดคุก หรือนอนคุก ถ้าเล่นสงกรานต์ อย่างนี้
1.ล้วง คลำ คลึง ผิดฐานอนาจาร จำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท
2.สาดน้ำคนไม่เล่น ทำให้มือถือเขาพัง เอกสารเสียหาย จำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท
3.สาดน้ำผู้อื่นโดยไม่ยินยอม จำคุก 1 ปี ปรับไม่เกิน 10,000 บาท
4. สาดน้ำผสมน้ำแข็ง หัวแตก บาดเจ็บ ผิดฐานประมาท จำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับ ไม่เกิน 10,000 บาท
5.เปิดเพลงเสียงดัง รบกวนผู้อื่น จำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 2,000 บาท
อย่าให้การเฉลิมฉลองสงกรานต์ เลยเถิดจนต้องติดคุก เสียค่าปรับเลยครับ เรามาเล่นสงกรานต์ แบบพอดีพองาม เพื่ออนุรักษ์วัฒนธรรม ให้คงอยู่ตลอดไป