หัวรถจักรไฟฟ้าคันแรกของไทย
เชื่อว่าต้องมีใครหลายๆ คนที่เคยผ่านหน้าผ่านตาเจ้าหัวรถจักรสีเขียวอันนี้ข่าวสารบ้างหละ
โดยเจ้าหัวรถจักรไฟฟ้าอันนี้ เกิดขึ้นมาได้เนื่องจากนโยบายของภาครัฐผลักดันนโยบาย EV on Train
บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ร่วมกับ CRRC Dalian ผู้ผลิตรถไฟรายใหญ่จากประเทศจีน ได้รับโอกาสจากกระทรวงคมนาคม โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง พร้อมร่วมมือกับภาควิชาการ เริ่มทดสอบระบบสับเปลี่ยนขบวน (Shunting) ณ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ โดยหัวรถจักรไฟฟ้า (EV) หรือ “MINE Locomotive” แบตเตอรี่ขนาด 4.1 MWh สามารถวิ่งได้ระยะกว่า 300 กิโลเมตร ผสานเทคโนโลยีการอัดประจุ Ultra-Fast Charge ของ EA Anywhere ใช้เวลาชาร์จเพียง 1 ชั่วโมง และประหยัดต้นทุนพลังงานได้กว่า 40% เมื่อเปรียบเทียบกับหัวรถจักรดีเซล แถมยังสามารถพัฒนาขยายไปทั่วประเทศได้รวดเร็ว และลงทุนต่ำกว่าระบบไฟฟ้าเหนือหัวกว่าครึ่ง https://www.posttoday.com/business/689520" target="_blank" rel="nofollow">https_xi5v9xix_://www.posttoday.com/business/689520
เมื่อลองหาข้อมูลเพิ่มเติมก็พบว่า
(แนบลิ้งค์) https://www.youtube.com/watch?v=PX78hehzsUM&t=131s" target="_blank" rel="nofollow">https_xi5v9xix_://www.youtube.com/watch?v=PX78hehzsUM&t=131s
เจ้ารถจักรไฟฟ้าหัวเขียวอันนี้ได้มีการมาทดสอบวิ่งระบบรางไปแล้ว 1 ครั้ง เมื่อช่วงประมาณปลายเดือนธันวาคม 65 ที่ผ่านมา ที่สถานีวิหารแดง ปลายทางชุมทองคลองสิบเก้า วิ่งไปและกลับ โดยหัวรถจักรขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% มีแบตเตอรี่จ่ายไฟไปยังมอเตอร์เพื่อหมุนเพลาล้อ ที่มีความแตกต่าง
จากหัวรถจักรอุลตร้าแมนที่เป็นหัวรถจักรดีเซลไฟฟ้า ที่มีเครื่องยนต์ดีเซลทำหน้าที่ผลิตไฟฟ้า และจ่ายไฟฟ้าไปหมุนเพลาล้อให้ขับเคลื่อน
พอได้เห็นหน้าตาของหัวรถจักรในประเทศไทยเปลี่ยนไป ดูมีความทันสมัยมากขึ้น ก็เกิดนึกสงสัยขึ้นมาว่า แล้วเจ้าหัวรถจักรที่ใช้วิ่งกันในประเทศไทยปัจจุบันนี้ เป็นรุ่นอะไร และเกิดขึ้นในปี พ.ศ.ใดบ้าง แน่นอนคนที่ไม่เคยศึกษาเรื่องรถไฟในประเทศไทยก็ต้องพึ่งพาวิกิพีเดียเป็นธรรมดา แล้วก็ไม่เคยทำให้เราผิดหวัง ทำให้รู้ว่าหัวรถจักรในประเทศไทยมีทั้งหมด 2 ประเภท ได้แก่ รถจักรดีเซลไฟฟ้า ซึ่งเป็นกำลังหลักในการลากจูงรถโดยสารและรถสินค้า และรถจักรดีเซลไฮดรอลิก เป็นรถจักรพิเศษ หัวรถจักรก็มีหลายรุ่น
อยากให้ทุกท่านได้ลองคลิกลิงค์เข้าไปดูรายละเอียดก่อนได้เลยนะ
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%A5%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2" target="_blank" rel="nofollow">https_xi5v9xix_://th.wikipedia.org/wiki/รถจักรดีเซลในประเทศไทย
โดยเริ่มแรกเลยก็เป็นหัวรถจักรรุ่น Davenport (DA500) ที่ได้ประจำการตั้งแต่ปี 2495 ก็มีที่น่าทึ่งคือยังถูกระบุว่าได้มีการใช้งานอยู่ด้วยแต่น้อยแล้ว
จากนั้นก็ได้มีหัวรถจักรรุ่นอื่นๆ มาอีก อายุอานามก็ไม่ใช่น้อยๆ เลย บางรุ่นประจำการเมื่อปี 2507 นู้นแหนะ มีการใช้งานอยู่บ้าง ตัดบัญชีไปบ้างตามสภาพการใช้งาน
แต่สิ่งที่ จขกท. น่าสนใจคือ ส่วนใหญ่แล้วหัวรถจักรเราได้รับการทาสีใหม่เมื่อปี 2553 จึงทำให้เราได้เห็นหัวรถจักรสีเหลืองๆ สดใสวิ่งผ่านหน้าเราไป
เมื่อมาถึงปัจจุบันการที่เราเห็นหัวรถจักรสีแดงขาว และ เจ้าสีเขียว “MINE Locomotive” จึงนับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดี ที่การเดินทางประเภทรางของเราจะได้รับการพัฒนาแล้ว ยิ่งเป็นประเภทหัวรถจักรที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% ยิ่งดีเข้าไปใหญ่ เพราะมันจะช่วยแก้ปัญหาฝุ่นควัน บริเวณชานชาลา ขณะที่รถไฟเคลื่อนออกจากสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ โดยนำหัวรถจักรพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่รถต้นแบบคันแรก MINE Locomotive มาใช้เพื่อลดมลพิษทางอากาศ ไม่ก่อให้เกิดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้มากเลยทีเดียว
ขอให้โปรเจกต์นี้ประสบความสำเร็จนะ อยากนั่งรถไฟที่วิ่งด้วยหัวรถจักรไฟฟ้า แล้วววววววว