เริ่มออมวันละ 20 ใครๆ ก็ทำได้
ทุกคนอยากมีเงินเก็บเยอะ ๆ ใช่ไหมครับ เพื่อที่จะได้ใช้จ่ายได้อย่างคล่องตัว เกิดความมั่งคั่งทางการเงิน แต่จนแล้วจนเล่า เป้าหมายที่ตั้งไว้นั้นยังไม่ถึงฝันสักที พอเริ่มเก็บได้สักหน่อยก็มีเรื่องที่จะต้องใช้จ่าย บางทีความอยากก้เป็นตัวกระตุ้นให้หยิงเงินเก็บมาใช้ แต่ถ้าวันนี้เราเริ่มสตาร์ทจะการออมเล็ก ๆ เชื่อได้เลยว่า อนาคตจะกลายเป็นเงินก้อนใหญ่อย่างแน่นอน แล้วออมอย่างไรล่ะ วันนี้จะบอกรายละเอียดให้ฟังครับ
การออมถ้าเราทำทุกวันสม่ำเสมอ มันจะทำให้เราเกิดความเคยชิน วันนี้เรามาเริ่มจากจุดเล็ก ๆ กันก่อนละกัน ล้วงกระเป๋าของคุณดูหน่อยครับว่าตอนนี้ในบรรดาแบงค์ที่คุณมีอยู่ มีแบงค์อะไรบ้าง แน่นอนว่าหนึ่งในนั้นต้องมีแบงค์ 20 อยู่ด้วยใช่ไหม ถ้าเราเก็บเงินวันละ 20 ทุกวัน ใน 1 เดือน จะเก็บเงินได้ถึง 600 บาท และใน 1 ปี จะเก็บเงินได้ถึง 7,300 บาททีเดียว
เมื่อเราเก็บเงินได้ส่วนหนึ่ง การเก็บเงินไว้กับกับตัวก็ไม่ได้เพิ่มมูลค่าอะไร หาเรานำเงินก้อนดังกล่าวมาต่อยอดให้งอกเงยขึ้น ก็จะเป็นหนทางในการเพิ่มมูลค่าได้อีก แนวทางที่จะเพิ่มมูลค่าให้กับการออม สามารถทำได้หลายวิธี ยกตัวอย่างเช่น
วิธีที่ 1 ฝากเงินในบัญชีออมทรัพย์
เงินฝากออมทรัพย์เป็นเงินฝากประเภทจ่ายคืนเมื่อทวงถาม สามารถเบิกได้โดยไม่จำกัดจำนวนครั้งและจำนวนเงินทุกสาขาของธนาคารทั่วประเทศ แต่หากฝากหรือถอนข้ามเขตอาจมีค่าธรรมเนียมเพิ่ม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละธนาคาร แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าบัญชีประเภทอื่น ๆ แต่ก็ดีกว่าเก็บไว้ที่ตัวเอง สภาพคล่องของบัญชีสูง
วิธีที่ 2 ฝากเงินในบัญชีฝากประจำ
การฝากประจำกับออมทรัพย์ต่างกันอย่างไร ประการแรกเงินฝากประจำเป็นบัญชีที่ได้รับดอกเบี้ยสูงกว่าบัญชีออมทรัพย์ ซึ่งปัจจุบันส่วนใหญ่จะมาพร้อมแคมเปญพิเศษ ไม่ต้องเสียภาษีเงินหัก ณ ที่จ่ายเงินได้บุคคลธรรมดาจากดอกเบี้ยรับ เหมาะสำหรับผู้ที่มีเงินเหลือจากการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันและยังไม่มีความจำเป็นต้องใช้ โดยมีเงื่อนไขสำคัญคือมีการกำหนดระยะเวลาฝากประจำที่ 3, 6, 12, 24 และ 36 เดือน หรือมากกว่า และเมื่อฝากแล้วห้ามถอนก่อนกำหนด มิฉะนั้นธนาคารจะไม่คิดดอกเบี้ยให้ตามอัตราที่กำหนดให้ อย่างไรก็ตาม ใครที่กำลังมองหาว่าการฝากเงินแบบใดได้ดอกเบี้ยมากที่สุดการฝากประจำก็เป็นคำตอบที่ใช่สำหรับผู้รักการออม
วิธีที่ 3 ฝากเงินกองทุนรวม/ตราสารหนี้
กองทุนรวมตราสารหนี้ คือ กองทุนรวมที่เน้นการลงทุนในตราสารหนี้ ซึ่งตราสารหนี้จะแสดงความเป็นเจ้าหนี้ให้แก่ ผู้ถือตราสาร ตัวอย่างตราสารหนี้ เช่น พันธบัตรรัฐบาล และหุ้นกู้ โดยที่หากตราสารหนี้ออกโดยรัฐบาล เราจะเรียกว่า พันธบัตรรัฐบาล ในขณะที่ออกโดยเอกชน เราจะเรียกว่าหุ้นกู้ โดยการนำเงินออมมาฝากผ่านกองทุนจะเป็นฝากในระยะยาว ส่วนมากจะเริ่มต้นที่ 1 ปีขึ้นไป แต่อัตราดอกเบี้ยก็จะมากกว่าบัญชีออมทรัพย์แน่นอน
วิธีที่ 4 ฝากเงินบัญชีไม่ประจำดอกเบี้ยสูง
บัญชีออมทรัพย์แบบพิเศษ ซึ่งเป็นบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ที่มีเงื่อนไขพิเศษ อัตราดอกเบี้ยจะสูงกว่าบัญชีออมทรัพย์ธรรมดา และไม่ต้องเสียภาษีเงินหัก ณ ที่จ่ายเงินได้บุคคลธรรมดาจากดอกเบี้ยรับ โดยมีเงื่อนไขสำคัญคือต้องเปิดบัญชีไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท การฝากเงินแต่ละครั้งต้องไม่ต่ำกว่า 100,000 บาท และมีข้อจำกัดในการเบิกถอนในแต่ละเดือน เช่น สามารถเบิกถอนได้ไม่เกินเดือนละ 3 ครั้ง เป็นต้น
วิธีที่ 5 ฝากเงินประกันสะสมทรัพย์
ประกันสะสมทรัพย์เป็นประกันชีวิตรูปแบบเงินออม ดังนั้นข้อดีของมันจะเหมือนกับการเก็บออมเงิน คือ
-
สร้างวินัยในการออมเงิน เพราะจะต้องส่งค่าเบี้ยประกันอย่างสม่ำเสมอตามสัญญา
-
เป็นการวางแผนการเงินในอนาคตรูปแบบหนึ่ง และยังสามารถส่งต่อเป็นมรดกให้กับทายาทได้อีกด้วย (ได้ทั้งการออมเงินและยังได้รับความคุ้มครอง)
-
สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ตามเงื่อนไข
-
ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์มีให้เลือกหลากหลายแบบ สามารถเลือกให้เข้ากับไลฟ์สไตล์และความสามารถในการส่งค่าเบี้ยประกันของคุณได้
ดังนั้นแม้ว่าคุณจะเริ่มออมเงินเพียงแค่วันละ 20 บาท แต่เงินก้อนนั้นเมื่อรวบรวบอย่างสม่ำเสมอ ก็สามารถต่อยอดเงินให้เติบโตเป็นก้อนใหญ่ได้หลายช่องทาง ตอนนี้ในกระเป๋าคุณมีแบงค์ 20 คุณหยิบออกมา แล้วเริ่มออมพร้อมกันเถอะ
อ้างอิงจาก: https://www.prudential.co.th/
https://www.krungsri.com/th/krungsri-the-coach