เคล็ดลับความสำเร็จสไตล์ เจ้าสัวธนินท์ VS แจ็ค หม่า
เรามาดูเคล็ดลับแนวคิดของทั้ง 2 คนเก่ง "เจ้าสัวธนินท์" และ "แจ็ค หม่า" ว่าที่ผ่านมาเขาใช้แนวคิดอะไร เพื่อให้ประสบความสำเร็จ
การให้โอกาสคน ถือเป็นเรื่องสำคัญในการบริหารคน องค์กรที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพของพนักงานไม่ว่าจะเป็น ส่งไปศึกษาดูงาน อบรม หรือสนับสนุนค่าเรียนที่เกี่ยวข้องกับงาน ก็จะทำให้พนักงานรู้สึกว่าองค์กรมองเห็นคุณค่าและมอบโอกาสให้พวกเขาได้เติบโตไปพร้อมกัน
เช่นเดียวกับแนวคิดของเจ้าสัวธนินท์ ที่ให้คนรุ่นใหม่ขึ้นมาเป็นผู้บริหาร เป็นเจ้าของกิจการ และเป็นสตาร์ทอัพมากขึ้น สิ่งเหล่านี้ เจ้าสัวธนินท์บอกว่า ล้วนมาจากโอกาสที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของโลกทั้งสิ้น เพียงแต่ใครจะมองออกและเมื่อเห็นแล้ว มีความพร้อมมากน้อยแค่ไหนหากโอกาสมาถึง
นอกจากโอกาสได้ลงมือทำแล้ว คนจะประสบความสำเร็จได้ ต้องเรียนรู้ตลอดเวลา และอย่าคิดว่า ตัวเองเก่ง
เจ้าสัวธนินท์ กล่าวว่า “ทุกวันนี้ผมยังเรียนรู้ตลอดเวลา ชอบไปคุยกับคนเก่ง ๆ ไม่ว่าเขาจะอายุน้อย หรืออายุมาก ผมจะไปคารวะเป็นอาจารย์หมด เพราะอย่างที่บอกทุกวันนี้โลกเปลี่ยนเร็วมาก เราต้องตามให้ทัน และถ้าวันไหนเรามองว่า เราเก่งแล้ว ประสบความสำเร็จแล้ว วันนั้นจะเป็นวันที่เราถอยหลัง”
เช่นเดียวกับ แจ็ค หม่า ที่เคยบรรยายในงาน World Economic Forum 2018 ว่า จงเรียนรู้จากความผิดพลาด ไม่ใช่ความสำเร็จ
"พวกคุณจำไว้ให้ดีว่าถ้าต้องการจะประสบความสำเร็จ จงเรียนรู้จากบทเรียนความผิดพลาดของผู้อื่น ไม่ใช่เรื่องราวความสำเร็จ เรื่องราวความสำเร็จที่เขาทำได้ อย่าไปฟัง เพราะว่ามันมีเหตุผลที่มาหลายประการ"
หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า ตระกูลเจียรวนนท์รู้จักมักคุ้นกับแจ็ค หม่ามานานกว่า 20 ปีแล้ว เมื่อปลายปี 62 เจ้าสัวธนินท์เคยเล่าว่า รู้จักและคุ้นเคยกับแจ็ค หม่า มานานแล้ว ตั้งแต่แจ็ค หม่า กำลังทำอาลีบาบา และชวนให้ลงทุนด้วย แต่ตอนนั้นเจ้าสัวปฏิเสธการลงทุนในอาลีบาบาด้วยเหตุผลว่ายังไม่เข้าใจโมเดลธุรกิจ
จากธุรกิจที่เจ้าสัวธนินท์มองว่าเป็นเพียงภาพและเรื่องเล่า ไม่กี่ปีต่อมา อาลีบาบาของแจ็ค หม่า ก็เติบใหญ่อย่างรวดเร็ว และแจ็ค หม่า ก็กลายเป็นนักธุรกิจระดับโลกไปแล้ว
ต่อมาก็ได้เกิดการร่วมมือทางธุรกิจระหว่างเจ้าสัวธนินท์กับ แจ็ค หม่า ขึ้นแล้ว โดย Ant Financial บริษัทลูกของอาลีบาบาเข้ามาถือหุ้นใน Ascend Money ของซีพี