ร่องรอยปริศนาขนาดยักษ์บนทะเลทรายแห่งประเทศเปรู
ในบรรดาแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของโลก นอกจากความสวยงามอันเป็นหนึ่งแล้ว สิ่งหนึ่งที่สำคัญ และเป็นปัจจัยที่จะดึงดุดผู้คนจากทั่วโลกได้ ก็คือความยิ่งใหญ่ หรือความอลังการเกินระดับปกติทั่วๆไป เช่นเดียวกับเรื่องราว ของสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังที่เราจะแนะนำกันในวันนี้
ที่นี่คือ เส้นนัซกา (líneas de Nazca) เป็นกลุ่มภาพลายเส้นที่ทะเลทรายนัซกาทางตอนใต้ของประเทศเปรู มีการคำนวณว่าน่าจะสร้างขึ้นในช่วง 500 ปีก่อนคริสต์ศักราช ถึง ค.ศ. 500 โดยผู้คนที่ทำรอยบาก หรือรอยบากตื้น ๆ บนพื้นทะเลทราย เอาก้อนกรวดออก และปล่อยดินสีต่าง ๆ ออกมา มีการวาดเส้นนัซกาถึงสองระยะหลัก คือ ระยะปารากัซ ใน 400 ถึง 200 ปีก่อนคริสต์ศักราช และระยะนัซกาใน 200 ปีก่อนคริสต์ศักราช ถึง ค.ศ. 500 จนกระทั่ง ค.ศ. 2020 มีการค้นพบภาพลายเส้นใหม่ มากถึงประมาณ 80 ถึง 100 รูปด้วยการใช้โดรน และนักโบราณคดีเชื่อว่าอาจพบได้มากกว่านี้
เส้นส่วนใหญ่มักเป็นเส้นตรงผ่านภูมิประเทศ แต่ก็มีการออกแบบเป็นรูปสัตว์และพืชด้วย เส้นนัซกาบางส่วนสามารถมองเห็นรูปร่างได้ดีจากข้างบน ที่ระดับความสูงประมาณ 500 เมตร แม้ว่จะมองเห็นได้จากเชิงเขาโดยรอบและบริเวณที่สูงอื่น ๆ ก็ตาม รูปร่างเหล่านี้มักสร้างจากเส้นที่ยาวต่อเนื่อง โดยรูปที่ใหญ่ที่สุดมีเส้นที่ยาวประมาณ 370 เมตร (400 หลา) เนื่องจากเป็นที่ตั้งที่โดดเดี่ยว และสภาพภูมิอากาศบนที่ราบสูงที่แห้งแล้ง ไร้ลม และคงที่ ทำให้เส้นส่วนใหญ่ได้รับการรักษาตามธรรมชาติ การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศที่พบได้ยากมากอาจเปลี่ยนแปลงรูปร่างทั่วไปชั่วคราว
รูปร่างมีความแตกต่างไปตามความซับซ้อน โดยมีเส้นแบบง่ายกับรูปร่างและรูปทรงเรขาคณิตกว่าร้อยภาพ และรูปแบบอิงตามสัตว์มากกว่า 70 ภาพ เช่น นกฮัมมิงเบิร์ด แมงมุม ปลา แร้งคอนดอร์ นกยาง ลิง กิ้งก่า สุนัข แมว และมนุษย์ ส่วนรูปร่างอื่น ๆ เช่น ต้นไม้ และดอกไม้ นักวิชาการตีความจุดประสงค์ ของการออกแบบแตกต่างกัน แต่โดยทั่วไป พวกเขาให้ความหมายในทางศาสนา เส้นนัซกาได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลก เมื่อปี 1994
ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าทึ่งจริงๆ