การจำแนกเพศปูและการผสมพันธุ์ (กลุ่มปูแสม ปูเปี้ยว)
สวัสดีครับนักอ่านและผู้สนใจทุกๆ ท่าน วันนี้กระผมจะมานำเสนอวิธีการเพาะพันธุ์ปูกลุ่มปูเปี้ยว ปูแสม และปูสวยงามขนาดเล็กกันนะครับ
การจำแนกเพศของพวกปูนั้นก็สำคัญ โดยการดูพ่อแม่พันธุ์ปูและข้อพึงคำนึงควรดูดังนี้
1. พ่อพันธุ์ต้องตัวใหญ่ สมบูรณ์ ก้ามไม่หัก ตาหลุดหรือขาขาด ปูตัวผู้ทุกชนิดจะมีตะปิ้งทรงสามเหลี่ยม ส่วนแม่พันธุ์ต้องมีตะปิ้งใหญ่ทรงสี่เหลี่ยม ลำตัวอ้วนท้วนสมบูรณ์ไร้ซึ่งอาการฉีกขาดของอวัยวะ
2. ปูกลุ่มปูเปี้ยว ปูแสม จะมีพฤติกรรมการเก็บไข่ไว้ดูแลที่ตะปิ้งอันเป็นแผ่นปิดของอวัยวะสืบพันธุ์ และจะปล่อยไข่เหล่านี้ลงน้ำทะเล ถึงแม้กลุ่มปูแสมบางชนิดจะอาศัยนอกน้ำกร่อยหรือน้ำเค็มได้ เช่น ปูบาติก หรือ ปูแวมไพร์ ก็ควรเตรียมภาชนะใส่น้ำทะเลที่ปราศจากเชื้อโรคและคลอรีนให้ปูใช้ในการสลัดไข่
3. ไม่ควรมีปูตัวผู้มากกว่าปูตัวเมีย เพราะตัวผู้นั้นก้าวร้าวและจะมีแรงขับมากกว่าตัวเมีย อาจจะทะเลาะกันจนถึงขั้นฆ่ากันได้ และเมื่อเสร็จจากการปล่อยไข่ลงไปในภาชนะน้ำทะเลแล้ว ควรแยกพ่อแม่พันธุ์ออกจากบ่อเพาะเลี้ยง
สำหรับขั้นตอนการเตรียมถังหรือบ่อผสมพันธุ์มีดังนี้
1. ถังขนาด 100 ลิตร (10 แกลลอน/ ใช้ตู้กระจกจะเห็นถึงสภาพข้างในได้) ปูตัวเมีย 3 ตัว กับปูตัวผู้ 1 ตัว ต้องมีพื้นทรายหรือเลนโคลนลาดลงไปในอ่างน้ำตื้น อาจจะมีพวกวัตถุอย่างก้อนหินให้ปูปีนป่ายได้ ปิดฝาระวังไม่ให้ปูหนีออกจากถังเพาะ
2. น้ำทะเลข้างในควรมีค่าความเค็ม 0.010 ppt (ซื้อเครื่องวัดความเค็มได้ที่ร้านขายอุปกรณ์ปลาสวยงามของปลาทะเล)
3. เมื่อปล่อยลงไป ใช้เวลาประมาณ 8-24 ชั่วโมง ปูตัวผู้จะเล้าโลมก่อนขึ้นคร่อมเพื่อผสมพันธุ์ตัวเมีย และจะสลับไปทำเช่นนั้นเรื่อยๆ
4. แยกปูตัวผู้ออกเมื่อมันผสมกับปูตัวเมียทั้งหมดจนครบแล้ว จากนั้นใช้เวลาสามวันที่ปูตัวเมียจะเริ่มดันไข่ออกมาห่อนอกตะปิ้ง
5. ไข่ของปูกลุ่มนี้จะมีสีแดงเป็นเม็ดเล็กๆ นับแสนฟอง ใช้เวลาสามวันจนกว่าไข่จะพร้อมฟัก แม่ปูจึงจะเดินลงไปที่แหล่งน้ำและสลัดไข่จนหมด ให้รอประมาณ 8-24 ชั่วโมงจนไข่หมด นำแม่ปูมาตรวจสอบก่อนจะย้ายออกให้แน่ใจว่าได้สลัดไข่ไปหมดแล้ว
6. ตัวอ่อนควรมีอ็อกซิเจน อาจจะให้เครื่องกรองน้ำหรือหัวเป่าอากาศทำให้เกิดอากาศที่ดีและขจัดของเสียในบ่อเพาะฟัก ทำการดูดน้ำที่มีไข่ด้วยสายยางลักน้ำไปไว้ในบ่ออนุบาล
ลูกปูในระยะนี้จะมีสภาพเป็นแพลงก์ตอนที่ล่องลอย เรียกว่า โซเอีย (Zoea) ซึ่งกรองกินอาหารในน้ำ มีระยะเวลาประมาณ 10-12 วันก็จะเข้าสู่ระยะ เมกาล็อปปา (Megaloppa) การอนุบาลมีดังนี้
1. สัปดาห์แรกให้ทำการให้อาหารด้วยโรติเฟอร์เพื่อกระตุ้นการกินอาหาร จากนั้นจึงให้อาหารด้วยอาทีเมียร์ระยะแรกฟัก (ไรน้ำเค็ม) หรือสาหร่ายสีเขียวกลุ่มสไปรูลิน่าชนิดผงละลายน้ำ คอยให้ระบบเป่าอากาศควบคุมไว้ไม่ให้เกิดการขาดอ็อกซิเจน
2. รักษาค่าความเค็มตลอดระยะประมาณ 0.010 ppt ให้คงที่
ระยะเมกาล็อปปา (Megaloppa) จะมีขาและเริ่มมีรูปร่างเปลี่ยนไปจนเริ่มคล้ายปูมากขึ้น ระยะนี้จะกินเศษตะกอนอินทรีย์วัตถุที่ใหญ่ขึ้นมาได้
1. ให้อาหารโปรตีนสูงด้วยปลาบด ผงหัวอาหารหรือไรน้ำเค็ม ควรมีกิ่งไม้ หิน หรืออวนในถังอนุบาลให้ปูเกาะพักพิง ใช้เวลาประมาณ 10 วันก็จะลอกคราบไปเป็นลูกปู
2. รักษาค่าความเค็มตลอดระยะประมาณ 0.010 ppt ให้คงที่ และยังไม่ลืมรักษาความสะอาดของน้ำและเติมอ็อกซิเจนเป่าลมไปตลอด
3. แยกลูกปูที่ฟักออกมาพร้อมจำหน่ายได้ ให้เลือกตัวที่แข็งแรงและสมบูรณ์ ระยะนี้จะเรียกว่า ระยะลูกปู (Young Crab) ทั้งนี้ ปูแต่ละชนิดมีระยะลูกปูและสีสันต่างกัน ใช้เวลาในการเลี้ยง 4-5 เดือนก็จะได้ปูขนาดพ่อแม่พันธุ์
จะเห็นได้ว่า การเพาะปูนั้น ไม่ง่ายแต่ก็ไม่ยากถ้าเตรียมตัว สำหรับผู้ที่สนใจก็สามารถนำมาใช้เป็นวิธีในการประกอบอาชีพได้เช่นกัน สำหรับวันนี้ ผมขอลาไปก่อน สวัสดี
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
ซาอุฯ สั่ง "มันอัดเม็ดไทย" เพิ่ม 30,000 ตัน! เกษตรกรเฮลั่น
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ
สภาทนายความ แจงเหตุลบชื่อ ‘ทนายคนดัง’ ออกจากทะเบียนทนาย
เปิดการบ้านภาษาไทย เรียงอักษรให้เป็นคำ แบบนี้ยากไปไหม
"ประธานสหภาพฯ" บริษัทไดกิ้น เปิดใจหลังสั่งปิดงาน! ชี้ ยังต้องได้โบนัส
ซาอุฯ สั่ง "มันอัดเม็ดไทย" เพิ่ม 30,000 ตัน! เกษตรกรเฮลั่น
นี่คือสิ่งมีชีวิตที่สูงที่สุดและใหญ่ที่สุดในโลก Redwood และ Sequoia
เฮลิคอปเตอร์ไร้คนขับของจีน ทดสอบบินและยิงกระสุนจริงครั้งแรกแล้ว
‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ







