รถไฟเหาะยูธานาเซีย รถไฟเหาะเพื่อการทำการุณฆาต ที่ยังคงเป็นแค่คอนเซปต์เท่านั้น

        ในหลายประเทศการทำการุณฆาต หรือการเลือกให้ตัวเองจากไปอย่างสงบ เป็นเรื่องถูกกฎหมาย คนส่วนใหญ่ที่เลือกจบชีวิตตัวเองโดยการทำการุณฆาตส่วนใหญ่มาจาก ความเจ็บปวดทรมานจากโรคที่รักษาอยู่ หรือสาเหตุอื่นๆ ปัจจุบันการทำการุณฆาตมีไม่กี่วิธีที่ใช้กัน เเละอีกหนึ่งวิธีที่ยังคงเป็นเเค่เเพลนเท่านั้น นั่นคือรถไฟเหาะยูธานาเซีย ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น วันนี้มีคำตอบค่ะ

        รถไฟเหาะยูธานาเซีย (Euthanasia Coaster) เป็นรถไฟเหาะตีลังกาซึ่งออกแบบมา เพื่อทำการุณฆาตโดยเฉพาะ มันถูกออกแบบและทำเป็นแบบจำลองขนาดในปี พ.ศ. 2553 โดย จูลีโจนาส เออร์โบนาส ซึ่งเป็นศิลปินชาวลิทัวเนีย และเขาเคยทำงานที่สวนสนุกแห่งหนึ่งด้วย

        หลักการทำงานก็คือ รถไฟจะใช้เวลาในการเดินทางทั้งหมดเพียง 3 นาทีเท่านั้น โดยจะค่อยๆ ไต่ระดับปีนขึ้นที่ความสูงแรกประมาณ 500 เมตร ใช้เวลา 2 นาที ช่วงนี้จะเป็นช่วงเวลาอันดีที่ผู้นั่งจะได้หวนนึกย้อนถึงชีวิตที่ผ่านมาของตัวเอง จากนั้นรถไฟจะดิ่งลงด้วยความเร็ว 354 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และตีลังกาต่อ 360 องศา อีก 7 รอบ ซึ่งส่งผลให้เกิดแรง g บนร่างของผู้นั่งถึง 10 g นานถึง 60 วินาที

        ซึ่งแรง G หรือ Gravity force คือ การเปลี่ยนแปลงความเร็วที่มีทิศทางต่อหน่วยเวลา มีหน่วยเป็น เมตร/วินาทีกำลัง² โดย 1g มีค่าเท่ากับ 9.8 เมตร/วินาทีกำลัง² เป็นค่าคงที่โดยกำหนดจากแรงโน้มถ่วงของโลก ค่า g ยิ่งสูงขึ้นมากเท่าใด ยิ่งทำให้ความเร่งที่กระทำต่อร่างกายสูงตามไปเป็นเท่าตัว

        เช่น ถ้าเรามีน้ำหนัก 70 กิโลกรัมที่ 1g เมื่อถูกเหวี่ยงด้วยแรง 4g และถูกกดติดกับเก้าอี้ ณ ขณะนั้นเราจะรู้สึกเสมือนกับว่าหนัก 280 กิโลกรัม ถ้าเราขึ้นรถไฟเหาะ ซึ่งมีแรงเหวี่ยงที่อัตราเร่งสูงสุดที่ 10 g อัตราเร่งขนาดนั้นจะส่งน้ำหนักของคุณไปถึง 700 กิโลกรัม

        แต่ไม่ต้องกังวลไปว่าจะต้องรับน้ำหนักมหาศาลขนาดนั้นเลยได้จริงเหรอ เพราะยิ่งมีค่า g สูงเท่าไหร่และนานมากเท่าใด ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสให้เกิดอาการ Gravity induced loss of consciousness หรือ G-LOC ได้เร็ว ซึ่งมันคืออาการหมดสติจากการเผชิญแรงจีบวกที่มีค่าสูงเกินกว่าที่ร่างกายจะรับได้นั่นเอง

        ไม่ต้องถึง 10 g หรอกค่ะ พบตั้งแต่ 5g ขึ้นไปเราก็แทบจะหมดสติแล้ว เพราะความเร่งที่สูงมากจากหัวสู่เท้า ส่งผลให้เลือดถูกดันลงสู่ขาของเรา เราจะรู้สึกเหมือนโดนบีบให้ตัวสั้นลง หน้าตาและผิวมันหย่อนตามแรง ลองไปดูนาซ่าทดสอบแรงจีนักบินอวกาศตามคลิปด้านล่างนี้เลยค่ะ  

        และที่สำคัญเมื่อเลือดถูกดันลงสู่ขาของเรา เลือดก็ไม่สามารถไหลเวียนไปเลี้ยงสมองได้ ทำให้เราสูญเสียความสามารถในการมองเห็นทั้งหมด และหมดสติที่สุด ยิ่งเจอค่า g สูงๆนานๆ ยิ่งอันตราย

        แต่ก็มีวิศวกรคนหนึ่งของ NASA ท่านนึงบอกว่า กรณีการุยฆาตวิธีนี้อาจไม่ได้ผลกับที่ขาสั้นหรือคนขาด้วนเนื่องจากไม่มีพื้นที่ขามากพอ ที่จะดึงเลือดจากร่างกายส่วนบนทั้งหมดไปไว้ได้ ทำให้ยังมีเลือดพอที่จะไปเลี้ยงสมองได้ตลอด 3 นาทีนี้

        อย่างไรก็ตาม ประเด็นเรื่องการการุณยฆาตวิธีนี้ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ และได้รับเสียงค้านมากมาย  ยังไม่มีใครสร้างและไม่มีใครอนุญาติให้สร้าง เพราะคนที่ไม่เห็นด้วยมองว่า มันเป็นการจากลาที่เต็มไปด้วยอาการวิงเวียน และความหวาดกลัวมากกว่าความสงบ