เปิดคำสารภาพสุดหลอน มือสังหารโหด "น้องกอหญ้า"

แปลกจังนะที่คนเราโหดเหี้ยมได้ผิดมนุษย์ขนาดนี้

เปิดคำรับสารภาพ มือฆ่า "น้องกอหญ้า" สาวสอง สำนึกผิดขอใช้กรรมในคุก

ขอโทาทุกคน ถ้าย้อนเวลาได้จะไม่ทำ สุดหลอนกลิ่นผมน้องกอหญ้าตามติดจนถึงบางแสนก่อนถูกรวบตัว

ตำรวจได้นำตัวเข้าฝากจัง ก่อนแจ้ง 4 ข้อหาหนัก

25 พฤศจิกาายน 2565 ความคืบหน้าทางคดี นายยุทธพล ปิยวิทยาการหรือ "อาร์ท"

ผู้ต้องหาก่อเหตุฆ่า นายปิยะดา สรกุล หรือ"น้องกอหญ้า"สาวประเภทสอง นำศพมาทิ้งที่คลองส่งน้ำ

คลองสอง จ.ปทุมธานี ต่อมาสามารถจับกุมตัวได้ที่บางแสน จ.ชลบุรี

คุมตัวมาดำเนินคดีที่สภ.คลองหลวง ตามข่าวที่เสนอไปก่อนหน้านี้

เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนก็คุมตัวนายยุทธพล มาสอบปากคำเพิ่มเติม

โดยนายยุทธพล ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี หลังจากใช้เวลาสอบปากคำนานกว่า 2 ชั่วโมง

พนักงานสอบสวน ก็คุมตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดธัญบุรี โดยคัดค้านการประกันตัว

มือฆ่าสำนึกผิด ขอใช้กรรมในคุก ขอโทษทุกคน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะคุมตัวขึ้นรถ นักข่าวก็ได้สอบถาม นายยุทธพล

อีกครั้งว่าจนถึงตอนนี้สำนึกผิดหรือไม่ และอยากจะขอโทษครอบครัวผู้

เสียชีวิตยังไงบ้าง นายยุทธพล บอกว่า "ผมขอโทษพ่อแม่น้อง และพี่ ๆ ของน้องด้วย ผมจะไปชดใช้กรรมในคุกแล้ว "

ส่วนสาเหตุที่ทำลงไปจริงๆเลย ก็เพราะ ต้องการเงิน เนื่องจากคิดว่า

ผู้เสียชีวิตจะมีเงินเยอะ เห็นมีรถขับ แต่จริงๆน้องเขาไม่ได้มีเงินเยอะอะไร

พร้อมยืนยันว่าไม่ได้เตรียมการล่วงหน้า เริ่มวางแผนคิดๆไว้ตอนที่ได้

เจอกับผู้เสียชีวิตที่สวนลุมพินี และลงมือก่อเหตุ ในวันดังกล่าวเลย

นายยุทธพล ยังบอกอีกว่า ตอนนี้เสียใจมาก และหากย้อนเวลากลับไป

ได้ ก็จะไม่ทำ ส่วนตัวอยากขออโหสิกรรมกับผู้ตายด้วย พร้อมทั้งอยาก

บอกหรือเตือนไปถึงกลุ่มสาวอาชีพพิเศษนี้ว่า งานนี้เสี่ยงอันตรายมากเพราะมีมิจฉาชีพเยอะ

มือฆ่าสาวสอง หลอน กลิ่นผมตามติดจนถึงบางแสน

นายยุทธพล เปิดเผยอีกว่า การก่อเหตุในครั้งนี้ พ่อแม่และภรรยาของตนเองไม่ทราบ

ส่วนที่ไปเที่ยวบางแสนกับภรรยานายอาร์ท บอกว่า

ตอนนั้นเห็นเป็นรถตำรวจมาก็เลยขี่รถไปบางแสนกับภรรยาเลย

และระหว่างที่ไปเที่ยว ก็รู้สึกถึงสิ่งที่ทำลงไปตลอด เพราะ'กลิ่น'ของน้องเขาก็ตามมา

เป็นกลิ่นผมที่ทำมาจากร้านทำผม กลิ่นตามไปจนถึงบางแสน

ตร. มั่นใจ พยานหลักฐานครบถ้วน แม้ไม่ทำแผน

ด้านความความคืบหน้าทางคดี พ.ต.อ.เกรียติศักดิ์ มิตรปราสาท ผู้กำกับสภ.คลองหลวง

บอกว่า จากการสอบปากคำ นายยุทธพล ให้การรับสารภาพ และให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี

ในการนำเจ้าหน้าที่ไปรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ทั้งรถและการงมโทรศัพท์ของผู้เสียชีวิต

รวมถึงดัมเบล โซ่ และสร้อยคอของผู้เสียชีวิต จนได้พยานหลักฐานมาครบถ้วน

สำหรับ ดัมเบล และโซ่ ก็เป็นหลักฐานที่ ผู้ต้องหาให้การอ้างว่า

หลังจากที่ทำร้ายร่างกายน้องกอหญ้าแล้ว ขณะนั้น ผู้ต้องหาคิดว่า น้องกอหญ้า

ยังไม่เสียชีวิต ยังมีลักษณะกระตุกอยู่จึงต้องการถ่วงน้ำเพื่อให้เสียชีวิตจริงๆ

โดยใช้ดัมเบลและโซ่ขนาดเล็กมาล็อกคอไว้ แล้วทิ้งถ่วงน้ำ ทั้งนี้ก็ทำให้สร้อยของผู้เสียชีวิตน่าจะขาดติดมากับโซ่ด้วย

ส่วนพยานหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์ และกล้องวงจรปิด และพยานหลักฐานอื่นๆค่อนข้างจะครบถ้วนเช่นกัน

ซึ่งตั้งแต่เมื่อวานนี้ ได้ให้เจ้าหน้าที่เฝ้าดูพฤติกรรมผู้ต้องหา เพราะเกรงว่าจะมีภาวะเครียดหรือฆ่าตัวตาย

แต่ปรากฎว่าสภาพจิตใจยังปกติ ไม่มีภาวะวิตกจริต

ทั้งนี้จะไม่มีการนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เพราะพยานหลักฐานครบถ้วน

และผู้ต้องหาไม่ประสงค์ที่ไปทำแผน รวมถึงเมื่อวานนี้มีภาพความโกรธแค้นของฝั่งผู้เสียีชวิตด้วย

ประกอบกับพยานหลักฐานต่างๆค่อนข้างครบถ้วน โดยเฉพาะนิติวิทยาศาสตร์

จึงสามารถที่จะดำเนินคดีกับผู้ต้องหาได้ แม้อนาคตผู้ต้องหาจะปฏิเสธข้อกล่าวหาก็ตาม

ทั้งนี้ สรุปว่าหลังสอบปากคำ พนักงานสอบสวนได้ แจ้งข้อกล่าวหา ทั้งหมด 4 ข้อหา ดังนี้

ㆍ ฆ่าคนตายโดยเจตนาโดยวิธีการทรมานฯ

ㆍชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธ โดยใช้ยานพาหนะเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

ㆍ ปิดอำพรางซ่อนเร้นศพ

ㆍ พาอาวุธ ไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สภ.คลองหลวง ไม่มีญาติของนายอาร์ท

เดินทางมาเยี่ยมตั้งแต่เมื่อวานจนถึงช่วงที่นำตัวไปฝากขังเลยสักคน

ส่วนครอบครัว ญาติๆของผู้เสียชีวิต วันนี้ก็ไม่ได้เดินทางมาที่ สภ.คลองหลวงเหมือนเมื่อวานที่ผ่านมาแล้วเช่นกัน