กะหล่ำปลี ตัวช่วยยอดฮิตของคนญี่ปุ่นที่กำลังลดน้ำหนัก
กะหล่ำปลี” ตัวช่วยยอดฮิตของคนญี่ปุ่นที่กำลังลดน้ำหนัก
กะหล่ำปลีเป็นผักที่คนญี่ปุ่นมักนึกถึงเป็นอันดับแรกเมื่อต้องการลดน้ำหนัก
มารู้กันว่าทำไมกะหล่ำปลีเป็นผักยอดนิยมในการรับประทานเพื่อลดน้ำหนัก วิธีการรับประทานกะหล่ำปลี
เพื่อการลดน้ำหนัก และเทคนิคง่ายๆ ในการหั่นกะหล่ำปลีให้เป็นฝอยสวยงามจากคนญี่ปุ่นกันค่ะ
ทำไมกะหล่ำปลีดีต่อการลดน้ำหนัก
1. มีปริมาณแคลอรีต่ำทำให้อิ่มเร็ว
กะหล่ำปลี 100 กรัม ให้พลังงานเพียง 23 กิโลแคลอรี
การรับประทานผักที่มีปริมาณแคลอรีต่ำ เช่น กะหล่ำปลี เป็นต้น
จะทำให้รู้สึกอิ่มท้องอย่างพึงใจและช่วยลดความรู้สึกเครียดจากความอยากรับประทานอาหารในระหว่างการลดน้ำหนักได้ดี
2. ช่วยบรรเทาอาการท้องผูก
กะหล่ำปลี 100 มีเส้นใยอาหาร 1.8 กรัม โดยเป็นเส้นใยอาหารชนิดไม่ละลายน้ำถึง 1.4 กรัม
เส้นใยอาหารชนิดนี้จะดูดซึมน้ำเพื่อพองตัวขึ้น ทำให้เพิ่มปริมาณอุจจาระในลำไส้ ส่งผลในการกระตุ้นการเคลื่อนตัวของลำไส้ใหญ่
และช่วยให้สามารถขับของเสียออกทางอุจจาระได้ดี เหมาะสำหรับผู้ที่รับประทานข้าวน้อยจนมีปัญหาท้องผูกในช่วงที่กำลังลดน้ำหนัก
3. ป้องกันอาการตัวบวม
โพแทสเซียมที่มีมากในกะหล่ำปลีจะช่วยขจัดเกลือส่วนเกินออกจากร่างกาย
ช่วยลดอาการหน้าและตัวบวมจากการรับประทานกับข้าวและเครื่องเคียงที่มีปริมาณเกลือสูงทดแทนข้าวในระหว่างที่ควบคุมน้ำหนัก
วิธีการรับประทานกะหล่ำปลีเพื่อช่วยให้ลดน้ำหนักได้ผลดี
1. รับประทานกะหล่ำปลีก่อนมื้ออาหาร
การรับประทานกะหล่ำปลีก่อนอาหารจะทำให้รู้สึกอิ่มเร็ว ช่วยป้องกันไม่ให้รับประทานอาหารอื่นๆ
ในปริมาณที่มากเกินไป นอกจากนี้ เส้นใยอาหารที่มีมากในกะหล่ำปลีจะช่วยป้องกันการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำตาลในเลือดอย่างรวดเร็ว
ซึ่งส่งผลในการป้องกันไม่ให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนอินซูลินออกมาในปริมาณมากจนทำให้เกิดการสะสมของไขมันในร่างกายได้ง่าย
2. รับประทานวันละประมาณ 100 กรัม
แม้ว่ากะหล่ำปลีจะดีสำหรับการลดน้ำหนัก แต่การรับประทานกะหล่ำปลีเพียงอย่างเดียว
โดยไม่รับประทานผักชนิดอื่นเลยก็อาจส่งผลเสียต่อความสมดุลของคุณค่าสารอาหารในร่างกาย
ดังนั้นจึงควรรับประทานกะหล่ำปลีวันละประมาณ 100 กรัมพร้อมกับผักและอาหารอื่นที่มีคุณค่าสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย
3. รับประทานอาหารที่มีคุณค่าสารอาหารที่สมดุลกันในแต่ละวัน
หลักสำคัญของการลดน้ำหนัก คือการรับประทานอาหารที่มีคุณค่าสารอาหารที่สมดุลกันในปริมาณที่เหมาะสม ซึ่งประกอบด้วยข้าวและอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต กับข้าว
เช่น เนื้อสัตว์ ปลา ไข่ และผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง เป็นต้น และเครื่องเคียง เช่น ผักและผลไม้
หากไม่รับประทานข้าวและกับข้าวเลยก็จะทำให้ร่างกายขาดพลังงานและสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ
ซึ่งจะทำให้ระบบเผาผลาญทำงานช้าลงและทำให้อ้วนกลับได้ง่าย ดังนั้นสิ่งสำคัญในการลดน้ำหนักให้ได้ผลดี
คือการรับประทานอาหารให้ครบถ้วนคุณค่าทางโภชนาการไปพร้อมกับการรับประทานกะหล่ำปลี
เคล็ดลับการหั่นกะหล่ำปลีให้เป็นฝอยสวยงาม
วิธีการรับประทานกะหล่ำปลีเพื่อการลดน้ำหนักทำได้โดยการรับประทานแบบดิบ นึ่ง หรือต้ม
โดยหลีกเลี่ยงการผัดด้วยน้ำมัน คนญี่ปุ่นนิยมรับประทานกะหล่ำปลีดิบหั่นฝอยเนื่องจากกะหล่ำปลีมีเส้นใยอาหารสูงจึงช่วยดูดซับเอาไขมัน
ออกจากอาหารได้ดี นอกจากนี้กะหล่ำปลียังอุดมไปด้วยวิตามิน U ซึ่งช่วยป้องกันการอักเสบของกระเพาะอาหารและทางเดินอาหารได้ดี
โดยมีเคล็ดลับการหั่นฝอยกะหล่ำปลีอย่างง่าย คือ นำใบกะหล่ำปลีมาล้างให้สะอาด วางให้สะเด็ดน้ำ
จากนั้นจึงนำมาซ้อนทับกันและม้วน ใช้ยางวงรัดแล้วใช้มีดหั่นกะหล่ำปลีให้เป็นฝอยได้อย่างง่ายดายดังรูป
กะหล่ำปลีเป็นอีกทางเลือกของอาหารที่ช่วยลดน้ำหนักได้ดี
อย่างไรก็ดี มีข้อควรระวังในการรับประทานกะหล่ำปลีเพื่อการลดน้ำหนัก คือควรเลือกซื้อกะหล่ำปลีปลอดสารพิษและล้างผักให้สะอาดก่อนนำมารับประทานค่ะ