เทคนิคและเคล็ดลับในการแก้ปัญหากลิ่นปาก และ ลมหายใจของเรา ให้ถูกทาง..ทำให้มั่นใจในการสนทนา
🙄เทคนิคและเคล็ดลับในการแก้ปัญหากลิ่นปาก และ ลมหายใจของเรา ให้ถูกทาง จึงทำให้มั่นใจในการสนทนา
⚛️บางทีคนเราเมื่อมีกลิ่นปากหรือปากเหม็นจะทำให้เราไม่มีความมั่นใจในตัวเองและหมดอารมณ์ที่จะพูดคุยกับใครๆได้เหมือนกันเพราะปากเหม็น
น่าจะเคยเป็นกันบ้างที่เวลาจะพูดกับใคร เรามักจะไม่มั่นใจในกลิ่นปากและลมหายใจของเรา จึงทำให้ไม่มั่นใจในการสนทนาเท่าควร ปัญหาของกลิ่นปาก บางครั้งเจ้าของกลิ่นก็ไม่รู้ตัว และคนข้าง ๆ ก็ไม่กล้าบอก แถมยังเป็นตัวทำลายบุคลิกภาพเสียยับเยิน บางคนรู้สาเหตุแต่ยังแก้ไม่ถูกทางทำให้กลิ่นปากกลายเป็นปัญหากวนใจที่แก้ไม่ได้เสียที
😁สาเหตุของกลิ่นปาก ส่วนใหญ่เกิดจากเศษอาหารที่ตกค้างอยู่ตามซอกฟัน บริเวณที่ทำความสะอาดได้ยาก หรือในรูฟันผุ เคยได้ยินหรือเปล่าว่า กลิ่นปากอาจเกิดจากโรคระบบทางเดินอาหาร โรคระบบทางเดินหายใจ โรคเบาหวาน หรือเกิดจากอาหารบางชนิด ที่ทำให้เกิดกลิ่นปากได้ ทั้งหมดนี้จริงหรือไม่จริงอย่างไร มาดูคำตอบกัน
🙄กลิ่นปากเกิดขึ้นได้อย่างไร
สาเหตุที่พบได้มากที่สุด 80-90% ของผู้ป่วยที่มีปัญหาเรื่องลมหายใจมีกลิ่นเหม็นหรือกลิ่นปาก คือมาจากช่องปากนั่นเอง ส่วนใหญ่เกิดจากเศษอาหารที่ตกค้างอยู่ตามซอกฟัน บริเวณที่ทำความสะอาดได้ยาก หรือในรูฟันผุ ซึ่งจะมีเศษอาหารเน่าอยู่ รวมทั้งแผ่นคราบฟันและหินปูนที่อยู่รอบ ๆ ฟัน ซึ่งเป็นที่เก็บกักและสะสมเชื้อโรคต่างๆ และก็มีบางส่วนที่เกิดจากโรคในช่องปาก เช่น ภาวะเหงือกอักเสบ เป็นหนอง จากโรคปริทนต์ หรือมีฟันโยก
💁น้ำลายก็มีส่วนอย่างมากที่ทำให้เกิดกลิ่นปาก เนื่องจากน้ำลายเปรียบเสมือนน้ำยาบ้วนปากที่ธรรมชาติสร้างขึ้น ช่วยชะล้างสิ่งสกปรกภายในช่องปาก เมื่อมีน้ำลายหลั่งออกมากทำให้ช่องปากสะอาดมากกว่าน้ำลายที่หลั่งออกมาน้อย และช่วยลดการบูดเน่าของอาหารที่ทำให้เกิดกลิ่น
🙍ดังนั้น ภายหลังตื่นนอนใหม่ ๆ จะพบว่า กลิ่นปากจะแรง เพราะในขณะที่นอนหลับน้ำลายจะถูกขับออกมาน้อย ทำให้น้ำลายมีการหมุนเวียนน้อย เศษอาหารที่ตกค้างสะสมอยู่จึงมีการบูด เกิดเป็นกลิ่นปากค่อนข้างแรง เมื่อได้แปรงฟันแล้วน้ำลายมีการไหลเวียนมากขึ้น กลิ่นปากจึงบรรเทาลง
👱ผู้ป่วยที่มีปัญหาปากแห้ง เนื่องจากมีการหลั่งน้ำลายน้อย จะมีปัญหากลิ่นปาก และสาเหตุที่ทำให้การหลั่งน้ำลายน้อย อาจมีหลายสาเหตุ เช่น ทานยาบางชนิด อยู่ในภาวะอดอาหาร การดื่มน้ำไม่เพียงพอ อากาศร้อน ตลอดจนภาวะทางจิตใจ ความเครียด อาชีพที่ใช้เสียงมาก ๆ เช่น ครู ทนายความ เป็นต้น
🦉กลิ่นเหม็นจากช่องปากบางครั้งเกิดขึ้นได้จากโคนลิ้นด้านในสุด เนื่องจากมีน้ำเมือกในช่องจมูกไหลลงคอ ซึ่งในภาวะเช่นนี้ไม่จำเป็นว่าจะเกิดจากการเจ็บป่วยหรือเป็นโรค แต่มักมีสาเหตุมาจากอาการภูมิแพ้ น้ำเมือกที่ไหลลงคอในระยะแรก ๆ จะไม่ทำให้เกิดกลิ่นปาก แต่สัก 2-3 วัน แบคทีเรียที่อยู่บริเวณนี้จะย่อยน้ำเมือกและทำให้เกิดกลิ่น เวลาพูดจะทำให้ได้กลิ่นเหม็นเนื่องจากมีลมผ่านลิ้นที่เคลื่อนไหวในขณะพูด l
💁นอกจากนี้ อาหารและเครื่องดื่มบางชนิดเมื่อรับประทานไปแล้วจะมีกลิ่นขับออกมาทางลมหายใจ เช่น หัวหอม กระเทียม ทุเรียน ผู้ที่ดื่มสุรา หรือสูบบุหรี่เป็นประจำ หรือท้องผูกหลาย ๆ วัน ก็ทำให้เกิดกลิ่นปากได้ รวมทั้งผู้ป่วยโรคทางร่างกายบางอย่าง เช่น ต่อมทอนซิลอักเสบ ไซนัสอักเสบเรื้อรัง วัณโรค โรคปอด และโรคระบบทางเดินอาหาร โดยเฉพาะโรคเบาหวาน จะมีกลิ่นลมหายใจเหม็นจากสารคีโตน ซึ่งพบเฉพาะในคนที่คุมระดับน้ำตาลได้ไม่ดี
👉🏿5 เทคนิคไม่มีกลิ่นปาก
ผู้ที่ทราบสาเหตุของกลิ่นปากควรจะรักษาตามสาเหตุ ส่วนผู้ที่ไม่พบสาเหตุ หรือไม่ทราบสาเหตุที่แน่นอน ก็สามารถบรรเทาได้โดยวิธีต่าง ๆ ดังนี้
1. ดูแลสุขภาพในช่องปากให้เป็น อย่างดี
2.ทำความสะอาดโคนลิ้นด้วยแปรงทำความสะอาดลิ้น
3. รับประทานอาหารที่มีใยอาหารเยอะ
4. รับประทานน้ำอย่างเพียงพอ
5.บ้วนปากและกลั้วปากด้วยน้ำยาทำความ
สะอาดเวลาที่จะทำการบ้วนปากด้วยน้ำยาทำความสะอาดที่ดีที่สุด คือ ช่วงเวลาก่อนนอน เนื่องจากจะทำให้น้ำยาทำความสะอาดตกค้างในปากได้นานและออกฤทธิ์ได้นาน ทำให้ลดกลิ่นปากหลังตื่นนอนได้เป็นอย่างดี
👉🏿เคล็ดลับป้องกันปัญหากลิ่นปาก
การป้องกันปัญหากลิ่นปากทำได้ง่าย ๆ โดยการทำความสะอาดช่องปากอยากทั่วถึง วันละอย่างน้อย 2 ครั้ง โดยการแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟัน ร่วมกับยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ เพื่อขจัดเศษอาหารและกำจัดเชื้อโรคออกให้หมดนอกจากนี้ควรเลี่ยงอาหารที่ก่อให้เกิดกลิ่นปากรุนแรง รวมถึงการสูบบุหรี่ ก็เป็นสิ่งที่ควรเลี่ยงเพื่อป้องกันการเกิดปัญหา
กลิ่นปากเรื้อรังซึ่งหากเป็นปัญหากลิ่นปากเรื้อรังก็ควรปรึกษาทันตแพทย์ เพื่อรับการตรวจอย่างละเอียด
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ไม่มั่นใจเรื่องกลิ่นปาก ลองกลับไปหาสาเหตุที่แท้จริงและทำตาม
คำแนะนำดูหากยังไม่สามารถแก้ปัญหากลิ่นปากได้แนะนำให้พบทันตแพทย์โดยเร็วเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง และรับการรักษาที่ถูกต้อง เพื่อบุคลิกภาพที่ดีและความมั่นใจของคุณจะได้กลับมา
☑️สาระข้อมูลเพิ่มเติม กานพลูใช้ผสมในยาอมบ้วนปากดับกลิ่นปาก
ในตำรายาไทย ใช้ดอกตูมแห้งแก้ปวดฟัน โดยใช้ดอกแช่เหล้าเอาสำลีชุบอุดรูฟัน และใช้ขนาด 5 – 8 ดอก ชงน้ำเดือด ดื่มเฉพาะส่วนน้ำหรือใช้เคี้ยวแก้ท้องเสีย ขับลม แก้ท้องอืดเฟ้อ นอกจากนี้ใช้ผสมในยาอมบ้วนปากดับกลิ่นปาก
พบว่าในน้ำมันหอมรเหยที่กลั่นจากดอกมีสารยูเจนอล ซึ่งมีฤทธิ์เป็นยาชาเฉพาะที่ จึงใช้แก้ปวดฟัน และมีฤทธิ์ลดการบีบตัวของลำไส้ ทำให้เกิดอาการปวดท้องลดลง ช่วยขับน้ำดี ลดอาการจุกเสียดที่เกิดจากการย่อยไม่สมบูรณ์ และสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียหลายชนิดเช่น เชื้อโรคไทฟอยด์ บิดชนิดไม่มีตัว เชื้อหนองเป็นต้น นอกจากนี้ยังกระตุ้นให้มีการหลั่งเมือก และลดการเป็นกรดในกระเพาะอาหารด้วย
👉🏿ก่อนจบบทความนี้หวังว่า คงจะมีประโยชน์และสาระสำคัญๆที่จะสามารถนำไปใช้ได้นะครับ
อ้างอิงจาก: วิกิพีเดีย google และ YouTube