นักวิทยาศาสตร์จากอังกฤษและโมร็อกโกได้พบหลักฐานที่ชี้ว่า "สัตว์ประหลาดเนสซีแห่งทะเลสาบ ล็อกเนสส์" อาจเคยมีตัวตนอยู่จริงบนโลก
นักวิทยาศาสตร์จากอังกฤษและโมร็อกโกได้พบหลักฐานที่ชี้ว่า "สัตว์ประหลาดเนสซีแห่งทะเลสาบ ล็อกเนสส์" อาจเคยมีตัวตนอยู่จริงบนโลก
🦦สัตว์ประหลาดจากตำนานสัตว์ประหลาดเนสซี่แห่งทะเลสาบ ล็อกเนสส์ เป็นข่าวดังขึ้นมาชั่วข้ามคืนเมื่อทีมนักวิทยาศาสตร์จากอังกฤษและโมร็อกโกได้พบหลักฐานที่อาจบ่งชี้ว่า "สัตว์ประหลาดแห่งล็อกเนสส์" อาจเคยมีตัวตนอยู่จริงบนโลก หลังจากค้นพบฟอสซิลที่บ่งชี้ว่า "พลีซิโอซอร์" (plesiosaur) ซึ่งเป็นกลุ่มสัตว์เลื้อยคลานดึกดำบรรพ์ขนาดใหญ่มหึมาดำผุดดำว่ายหัวผุบๆโผล่ๆ เป็นที่ประจักษ์กับสายตาหลายๆคนที่เคยพบเห็นอาจจะเคยมีชีวิตอยู่จริงหรือเคยมีตัวตนจริงก็ได้ใครจะไปรู้
🦦บางทีตำนานความเชื่ออาจจะกลายเป็นเรื่องจริงก็ได้สัตว์ประหลาดแห่งล็อกเนสส์” อาจมีอยู่จริง
👉🏿เรื่องราวเกี่ยวกับเนสซีมีทั้งผู้ที่เชื่อและผู้ที่ไม่เชื่อ โดยผู้ที่เชื่อนั้นเชื่อว่า เนสซีอาจเป็นไดโนเสาร์ที่ยังหลงเหลืออยู่ โดยสภาพทางภูมิศาสตร์ของทะเลสาบล็อกเนสส์ในยุคโบราณนั้นเคยเป็นทะเลมาก่อน ไดโนเสาร์ในสมัยนั้นอาจเข้ามาอยู่อาศัยจนสภาพของพื้นที่เปลี่ยนไป กลายเป็นพื้นที่ปิดและปราศจากสิ่งรบกวน สัตว์ที่อาศัยอยู่ในนี้จึงยังหลงเหลืออยู่และมีสภาพไม่เปลี่ยนแปลงจากครั้งแรกที่เข้ามาอาศัย
🦦"พลีซิโอซอร์" (ขวา) อาจเคยอาศัยอยู่ในน้ำจืดมาก่อน
ตำนานของ "เนสซี" (Nessie) สัตว์ประหลาดคอยาวที่อาศัยอยู่ในทะเลสาบลึกที่เรียกว่า "ล็อกเนสส์" (Loch Ness) หรือทะเลสาบเนสส์ ในสกอตแลนด์ เป็นเรื่องราวที่ผู้คนเล่าขานสืบต่อกันมายาวนาน
ทุกวันนี้คนส่วนใหญ่เชื่อว่านี่เป็นเพียงตำนานลึกลับที่บอกเล่าสู่กันฟังเพื่อความบันเทิง โดยที่ไม่มีมูลความจริงใด ๆ
แต่ล่าสุด ทีมนักวิทยาศาสตร์จากอังกฤษและโมร็อกโกได้พบหลักฐานที่อาจบ่งชี้ว่า "สัตว์ประหลาดแห่งล็อกเนสส์" อาจเคยมีตัวตนอยู่จริงบนโลก หลังจากค้นพบฟอสซิลที่บ่งชี้ว่า "พลีซิโอซอร์" (plesiosaur) ซึ่งเป็นกลุ่มสัตว์เลื้อยคลานดึกดำบรรพ์ขนาดใหญ่ที่อาศัยอยู่ในทะเล อาจเคยอาศัยอยู่ในน้ำจืดมาก่อน
💁หลายคนเชื่อว่าสัตว์ประหลาดแห่งล็อกเนสส์ คือพลีซิโอซอร์ ซึ่งเป็นสัตว์เลื้อยคลานยักษ์ที่มีหัวขนาดเล็ก ลำคอยาว และมีครีบ 4 ข้าง ซึ่งสูญพันธุ์ไปจากโลกเมื่อราว 65.5 ล้านปีก่อน
แต่หนึ่งในเหตุผลที่ใช้หักล้างความเชื่อดังกล่าวคือการที่พลีซิโอซอร์ดำรงชีวิตในน้ำเค็มเท่านั้น จึงไม่สามารถอาศัยอยู่ในล็อกเนสส์ ซึ่งเป็นทะเลสาบน้ำจืดได้
อย่างไรก็ตาม ความเป็นไปได้ของตำนานสัตว์ประหลาดเนสซีกลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง เมื่อทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยบาธ, มหาวิทยาลัยพอร์ตสมัธ และมหาวิทยาลัยฮัสซันที่ 2 ในโมร็อกโกได้ค้นพบฟอสซิลของพลีซิโอซอร์ในบริเวณที่เคยเป็นแม่น้ำเมื่อ 100 ล้านปีก่อน ซึ่งปัจจุบันอยู่ในทะเลทรายซาฮาราในเขตประเทศโมร็อกโก
👉🏿นอกจากนี้พวกเขายังพบฟอสซิลฟันที่สึกกร่อนอย่างหนักซึ่งบ่งชี้ว่า พลีซิโอซอร์อาจล่าปลาดึกดำบรรพ์ที่มีเกล็ดแข็งเหมือนชุดเกราะและมักพบอยู่ในแหล่งน้ำจืดเป็นอาหาร
ฟอสซิลฟันของพลีซิโอซอร์ที่พบบริเวณก้นแม่น้ำโบราณในโมร็อกโก
พลีซิโอซอร์ ถูกค้นพบครั้งแรกโดยนักล่าฟอสซิลชาวอังกฤษที่ชื่อ แมรี แอนนิง ในปี 1823
การค้นพบครั้งนั้นได้สร้างแรงบันดาลใจให้เกิดตำนานสัตว์ประหลาดเนสซี ทว่าสิ่งที่แตกต่างกันคือเรื่องที่เชื่อกันว่า พลีซิโอซอร์มีถิ่นที่อยู่อาศัยในทะเลเท่านั้น
การค้นพบครั้งนี้บ่งชี้ว่าพลีซิโอซอร์บางชนิดอาจอาศัยอยู่ในแหล่งน้ำจืด หรือแม้แต่บนบก
🙍ดร.นิค ลองริช นักบรรพชีวินวิทยาหนึ่งในทีมวิจัยกล่าวว่า "เราไม่ทราบจริง ๆ ว่าทำไมพลีซิโอซอร์จึงอาศัยอยู่ในน้ำจืด"
ขณะที่มหาวิทยาลัยบาธแถลงว่า การค้นพบครั้งล่าสุดนี้แสดงให้เห็นว่า ตำนานสัตว์ประหลาดแห่งล็อกเนสส์มีความเป็นไปได้ขึ้นมาอีกขั้นหนึ่ง อย่างไรก็ตามยังคงไม่มีหลักฐานยืนยันได้อย่างแน่ชัดว่าสัตว์ลึกลับในตำนานชนิดนี้มีอยู่จริง
👉🏿สาระข้อมูลเพิ่มเติม
โดยชื่อ "เนสซี" (เกลิก: Niseag) เป็นชื่อเรียกเล่น ๆ ของสิ่งมีชีวิตลึกลับนี้ โดยเป็นชื่อที่ดัดแปลงมาจากคำว่าล็อกเนสส์ ในช่วงทศวรรษที่ 1940 สมาสกับชื่อที่เป็นที่นิยมของหญิงสาวในท้องถิ่น คือ "แอ็กเนส" (Agnes) ในวันที่ 4 สิงหาคม ค.ศ. 1932 ข่าวในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นรายงานเรื่องการแต่งงานของ น.ส. เนสซี คลาร์ก
👉🏿ลักษณะ
เชื่อว่าเนสซีมีรูปร่างคล้ายเพลสิโอซอรัส หรือ อีลาสโมซอรัส สัตว์เลื้อยคลานที่อาศัยในทะเลยุคเดียวกับไดโนเสาร์ มีผู้อ้างว่าเคยพบเห็นถึงปัจจุบันกว่านับไม่ถ้วน และมีรูปถ่ายทั้งภาพนิ่งและภาพยนตร์มากมาย โดยหลักฐานแรกสุดที่มีบันทึกถึงเนสซี คือ บันทึกของอดัมแนน
ระบุว่า ในวันที่ 22 สิงหาคม ค.ศ. 565 นักบุญโคลัมบา ขณะเดินทางมาสู่ที่ราบสูงสกอตแลนด์เพื่อดึงพวกนอกรีตเข้าสู่ศาสนา ท่านได้ทำพิธีไล่ปีศาจแม่น้ำที่อาศัยอยู่ในแม่น้ำเนสส์ที่เรียกว่า "พิกติส" ซึ่งได้ฆ่าคนไปแล้วหนึ่งคน โดยการส่งตัวแทนลงไปว่ายในน้ำเพื่อล่อปีศาจ แต่ทว่าไม่ได้มีการบรรยายถึงลักษณะของปีศาจตนนี้
👉🏿มีแต่เพียงบันทึกไว้ว่าน้ำปั่นป่วนเท่านั้นเอง ขณะที่ความเชื่อเรื่องปีศาจหรือสัตว์ประหลาดขนาดใหญ่ในน้ำ ของซีกโลกทางเหนือแบบนี้ก็มีในพื้นที่อื่น เช่น สแกนดิเนเวีย หรือไวกิ้ง
อ้างอิงจาก: วิกิพีเดีย google และ YouTube
รู้จัก M777 ปืนใหญ่สนามตัวโหด เบา คล่อง ยิงแม่นระดับนำวิถี ตัวเปลี่ยนเกมสงครามยุคใหม่
"ทัพฟ้าไทย" ยืดอกรับ ส่งฝูงบินถล่มคลังแสงพระตะบอง ลั่น "เราไม่ได้เริ่มก่อน" แต่ต้องทำเพื่อปกป้องประชาชน
จรวดจีนฟัดจรวดจีน เปิดคลังอาวุธลับสมรภูมิสระแก้ว เมื่อไทย-เขมรต่างงัดไม้เด็ด "สายเลือดมังกร" มาดวลกัน
วิเคราะห์สถิติหวยปีใหม่ 2 มกราคม: เจาะลึกเลขเด่นรับโชควันศุกร์ 2569
📜 ภาพเก่าประวัติศาสตร์ “พระตะบอง” จากแผ่นดินสยาม สู่ความทรงจำ
ชาวเน็ตฮือฮา! คุณป้าขายข้าวปั้น แท้จริงแล้วเมื่อ 11 ปีก่อน คือ นางเอก A\/ ระดับตำนาน
APC M113 รถเกราะ 60 ปี ลุยสมรภูมิช่องอานม้า เสริม "เกราะไม้" กันจรวดสุดแกร่ง
ทัพภาค 2 จัดหนัก งัดจรวดไทย DTI-1G รับใช้ชาติ ถล่ม BM-21 เขมรให้กระจาย
10 ประเด็นร้อนฉ่าที่คนไทยให้ความสนใจสูงสุดในปี 2568
เตือนแล้วนะ! 3 ผลไม้ที่ "เซลล์มะเร็ง" โปรดปราน หมอยังไม่กล้าแตะ แต่หลายคนกินทุกวันโดยไม่รู้ตัว
คุกกี้เสี่ยงทาย... ทายนิสัยความขี้อ้อนของคนเกิดทั้ง 7 วัน
"กล้วยหอม" จากผลไม้พื้นบ้านสู่สินค้าเปลี่ยนโลก
หมอปลาย พรายกระซิบ รีเทิร์นแบบฮาๆ! ทำนายพลาดทัวร์ลงหนัก ขอโทษยกมือไหว้ วอนชาวเน็ตให้โอกาสแก้ตัว ไม่งั้นเลิกดูดวงไปจับผีเต็มตัวซะเลย!
ไทยยันคำเดิม “เขมรต้องหยุดยิงก่อน” เสธ.ทบ. ลั่นกู้คืนพื้นที่ได้ 90% แล้ว เหลืออีกนิดเดียวยึดคืนได้ทุกพื้นที่
พุทธศิลป์แนวใหม่หรือวัตถุนิยม? กระแสวิจารณ์ "หัวใจพระพุทธเจ้า" ทรงอนาโตมี
📜 ภาพเก่าประวัติศาสตร์ “พระตะบอง” จากแผ่นดินสยาม สู่ความทรงจำ









