รีวิวป้ายยา ไซเลยต์วิตช์ ความลับของแม่มดแห่งความเงียบ เล่ม 2 (นิยายแปล)
#รีวิวป้ายยา มาแล้วค่ะ ทำไมเราต้องลงตอนดึกๆตลอดเลยนะ 555
รอบนี้ไม่ใช่ นิยาย ยูริ (รึเปล่า?) แต่นุ้งโมนิก้าน่ารักมากมาย เอาใจเราไปเลย


ซึ่งเราจะ รีวิว เล่ม 2 ไปเลย แต่ก็จะพยายามขา- แค่กๆ แนะนำเล่ม 1 แบบคร่าวๆด้วยค่ะ จะไม่ละเอียดมากเพราะจำไม่ค่อยได้แล้ว 55
.
เรื่อง : ไซเลยต์วิตช์ ความลับของแม่มดแห่งความเงียบ เล่ม 2
ผู้เขียน : มัตสึริ อิโซระ
ผู้วาด : นันนะ ฟุจิมิ
แปล : ภุทร สุวรรณภูมิ
ถือลิขสิทธิ์โดย : Phoenix Next
ราคา : 335 บาท
รีวิวเล่ม 1 คร่าวๆ : ก่อนอื่นเลยต้องเกริ่นว่า น่าร๊ากกกกกกกกก นุ้งโมนิก้า น่ารักฝุดๆ

เป็นอ้ายต้าวตัวเล็ก พูดจาไม่เก่ง งึมๆงำๆ ขี้กลัว ขี้ตื่นตกใจ แต่ว่าจริงๆแล้วเป็นคนเก่งมากมาย จนสามัญสำนึกหลุดกรอบไปพอควร เป็นต้าวกระรอกน้อยสุดน่ารัก
.
เอาล่ะ การสรรเสริญน้องเก็บเอาไว้ก่อน ค่อยอีกทีตอนรีวิวแบบละเอียด ในส่วนของเรื่องแน่นอนอยู่แล้วว่าแค่อ่านชื่อกับหน้าปกก็คือแนว แฟนตาซี ยุโรป โรงเรียนเวทมนตร์ เซ็ตติ้งที่พอพูดถึงก็ร้อง อ๋อ ได้เลย นอกเหนือจากนั้นเราก็ค่อนข้างชอบเซ็ตติ้งเกี่ยวกับเวทมนตร์ของเรื่องนี้นะคะ ถ้าให้อธิบายง่ายๆการใช้เวทมนตร์ของเรื่องนี้คือการเขียนสมการต่างๆให้เกิดผลลัพธ์เป็นเวทมนตร์ ซึ่งก็ไม่ได้เขียนให้เข้าถึงยากแต่อย่างใดค่ะ แค่ช่วยเสริมคารืแลคเตอร์ของน้องโมนิก้าที่เป็นคนฉลาดเท่านั้นเอง
.
แต่ความพิเศษของเรื่องนี้หลักๆเลย จะอยู่ที่การวางตัวละคร เซ็ตติ้งสถานการณ์ ปริศนาและการแก้ไข ออกจะปนๆสืบสวนเข้ามาด้วยในระดับหนึ่งเลย ซึ่งในตัวปริศนาเราว่าคนเขียนวางมาไว้ได้ดีมากๆ แล้วก็เขียนแนบเนียนไปกับเนื้อหาที่อ่านเพลินๆสบายๆปนขำ(ไม่นิด) ที่ทำให้ไม่รู้สึกน่าเบื่ออะไรมากนัก
.
รู้สึกว่าเป็นนิยายน้ำดีเรื่องนึงเลยค่ะ
เรื่องย่อเล่ม 2 : ภารกิจคุ้มกันชายลำดับที่สองของ 'แม่มดแห่งความเงียบ' โมนิก้ากำลังไปได้สวย แต่ยังไม่ทันไรวิกฤติที่เกือบทำให้ตัวตนที่แท้จริงเปิดเผยก็ถาโถมเข้าใส่ไม่หยุด!?
ไหนจะอาจารย์เก่าย้ายมาประจำที่โรงเรียน
แถมโมนิก้าก็ดันต้องเข้ารับการตรวจวัดปริมาณพลังเวทด้วย
แค่ต้องใช้ชีวิตในโรงเรียนก็ถือเป็นเรื่องยากลำบาก สำหรับแม่มดที่แข็งแกร่งที่สุดแล้ว
ยังเคราะห์ซ้ำกรรมซัด มีภัยร้ายคืบคลานเข้ามาหาเจ้าชายลำดับสองอีก!
.
ภารกิจลับสุดยอดของแม่มดผู้ใช้อวัจนมนตรา บททดสอบจิตใจบทที่สองเปิดม่านขึ้นแล้ว!
.
รีวิวละเอียด : รอบนี้ วางความน่ารักของน้องโมนิก้าไว้ก่อน แล้วเริ่มด้วยการเล่าเรื่องดีกว่าค่ะ เดี๋ยวจะเห็นเราหวีดน้องจนเบื่อกันซะก่อน 555
.
การเล่าเรื่อง หลังจากอ่าน 2 เล่มมาเรามองเห็นแพทเทิร์นการเล่าเรื่องของนักเขียนท่านนี้ค่ะ คือ เปิดเรื่องมาด้วยการเกริ่นปริศนา ประมาณว่านี่ๆดูนี่ซะ มันมีปริศนาซัมติงอยู่นะ หรือก็คือให้เรารู้ตั้งแต่เปิดเล่มมาเลยว่า อ๋อ มันจะต้องมีเรื่องอะไรสักอย่างเกิดขึ้นแน่ๆ แล้วก็บอกใบ้กรายๆถึงตัวเรื่องที่ว่าด้วยว่าจะประมาณไหน ซึ่งไม่ได้ชัดเจนขนาดนั้นหรแกค่ะ อยู่ที่คนจะวิเคราะห์กับคิดตามอีกที แต่ที่แน่ๆ คือทุกคนจะรู้ว่าเกิดเรื่องขึ้นแน่นอน
.
และหลังจากนั้น ก็จะดำเนินเรื่องต่อด้วยการโฟกัสไปที่ตัวนางเอง หรือก็คือน้องโมนิก้านั่นเอง
ซึ่งจะเป็นการเล่าเกี่ยวกับประเด็นความสัมพันธ์ของน้องกับตัวละครอื่นๆ และพัฒนาการของตัวแม่มดขี้อายอย่างน้องเอง ซึ่งก็เต็มไปด้วยเรื่องราวที่ทั้งชวนอมยิ้มแล้วก็ขำก๊าก(เราเส้นตื้น 55) มุกตลกของเรื่องนี้เรียกได้ว่าเล่นได้อย่างเป็นธรรมชาติมากค่ะ ไม่ได้ฝืน ไม่ได้ยัดอะไร แล้วทำให้ขำแบบเพลินๆไปกับตัวเรื่องได้
และในระหว่างที่นำเสนอเรื่องพวกนี้ ก็จะบอกใบ้ปริศนาตอนต้นไปเรื่อยๆ หรือถ้าพูดให้ถูก ต้องบอกว่าในฉากหลังเบื้องหลังปริศนา ก็กำลังเคลื่อนไหวไปพร้อมๆกับเนื้อเรื่อง ราวกับว่าเวลากำลังไหลผ่านอยู่จริงๆ
.
แต่ว่านั่นก็กลายเป็นจุดบอดของเรื่องนี้ค่ะ เพราะว่าระหว่างการเดินเรื่องนั้นเน้นย้ำไปที่ตัวโมนิก้า ดังนั้นเรื่องคำใบ้ก็จะเจือจางลง จนบางทีก็อาจทำให้ลืมไปแล้วว่าตอนต้นมันเกริ่นปริศนาดังกล่าวเอาไว้ หรือถ้าใครยังจำได้อาจจะเผลอขมวดคิ้วคิดไปว่าคนเขียนลืมเหรอ?
.
แน่นอนว่าไม่ได้ลืมหรอกค่ะ จากที่เห็นแล้วคงเขียนเนียนเกินไปจนสังเกตยากมากกว่า อย่างน้อยๆเราก็สังเกตไม่เห็น 555 แล้วทีนี้ ไปช่วงท้ายประมาณ 80% ของเรื่อง ปริศนาที่ว่าค่อยเห็นได้ชัดเจน และเข้าสู่ช่วงสุดท้ายที่ต้องจัดการและแก้ไขปัญหา หรือก็คือเอาคำบอกใบ้ทั้งเล่มมาเฉลยนั่นเอง ซึ่งถามว่าเวลาเท่านั้นไม่เร็วไปเหรอ?
.
ตามตรงก็เร็วพอควรแต่ก็ยังพอตามทันอยู่ค่ะ ไม่ได้รวบรัดเกินจนน่าเกลียดอะไร แถมยังสื่อคาร์ของตัวโมนิก้าที่วางไว้ว่าทั้งเก่งทั้งฉลาด เป็นยอดอัจริยะได้ดีอีกด้วย เพราะความสามารถเจ้าตัวจัดการปัญหาได้ไม่ยากเย็นปานนั้น คิดว่าอยู่ในช่วงกำลังดีให้คนที่ไม่ชอบการอธิบายอะไรยืดยาวไม่ทันเบื่อ แล้วก็จบเรื่องก่อนจะเกริ่นสำหรับเล่มถัดไป...เฮ้อ อยากอ่านต่อแล้วค่ะ

.
การใช้ภาษา การบรรยาย เรื่องนี้จะเล่าผ่านมุมมองบุลคลที่ 3 ค่ะ ซึ่งส่วนตัวเคยลองวิเคราะห์กับเพื่อนเล่นๆมา เป็นมุมมองที่เขียนให้พอดียากพอตัวเลย อย่างน้อยเราก็ไม่ค่อยได้อ่านเรื่องที่บรรยายมุมนี้แล้วเล่าได้ครบทุกมุมทุกส่วนเท่าไหร่ เรื่องนี้เองก็เป็นหนึ่งในนั้นค่ะ
.
เรื่องนี้จะเน้นเล่าบรรยายสีหน้าท่าทางตัวละครเป็นหลัก จนแม้จะไม่ต้องเล่าความคิดแบบมุมมองบุลคลที่ 1 ก็สามารถเข้าใจและรู้จักตัวละครได้เป็นอย่างดี แต่นั่นแหละค่ะอย่างที่เกริ่นไว้ว่าหาความพอดียาก...เรื่องนี้ บรรยายเกี่ยวกับสถานที่ค่อนข้างน้อยค่ะ ผสมเข้ากับการเปลี่ยนฉากที่เร็วและเดินเรื่องต่อกันเรื่อยๆ ทำให้บางทีอาจงงหรือตามไม่ทันได้บ้างว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน? จนแอบคิดอยู่เลยว่าถ้าแบบนี้สู่เขียนมุมที่ 1 ไปเลยอาจจะเขียนได้สุดมากกว่าก็ได้
.
แต่ถ้าไม่ได้ใส่ใจเรื่องการบรรยายมากขนาดนั้น คิดว่าไม่ได้มีปัญหาอะไรเป็นพิเศษค่ะ เรียกว่าโดยรวมอยู่ในเกณค่อนข้างดีเลยสำหรับการบรรยาย แม้ว่าสถานที่จะดูกระชับเกินไปบ้าง แต่ถ้าตั้งสมาธิ หรืออ่านทวนอีกสักนิดก็พอตามได้อยู่ หรือต่อให้ตามไม่ทันก็ไม่ได้มีปัญหามากขนาดนั้น(ฮา) และอย่างที่บอก จะเรื่องการบรรยายสีหน้าเอย ท่าทางเอย รวมไปถึงการให้ข้อมูลสถานการณ์ต่างๆเรามองว่าจัดสรรค์ได้ดีเลย อ่านง่าย ไม่เบื่อ แล้วก็ทำความเข้าใจง่ายด้วย
.
ถ้ามีนักเขียนมาอ่านรีวิว แล้วชอบเขียนมุมมองบุลคลที่ 3 เรื่องนี้ก็ใช้เป็นเรฟได้เลยค่ะ ยิ่งสำหนับนักเขียนที่ชอบการพรรณาสิ่งต่างๆรอบตัวอยู่แล้ว ดูเรื่องการนำเสนอตัวละคร และบอกเล่าข้อมูลของเรื่องเพิ่ม คิดว่าน่าจะมีประโยชน์ในการนำไปปรับใช้ในชิ้นงานมากเลยค่ะ
.
ประเด็นหลักของเรื่องนี้ คิดว่าอยู่ที่เรื่องความสัมพันธ์ของผู้คนค่ะ เพราะแต่เดิมแล้วน้องโมนิก้าเป็นพวกขี้กลัว ขี้อาย และไม่เชื่อใจคนอื่น มักจะด้อยค่าตัวเองเสมอ แต่ว่าพอได้มาทำภารกิจในโรงเนียนก็พบเจอกับคนมากมายที่สามารถเรียกว่า 'เพื่อน' ได้ ดังนั้นธีมหลักของเรื่องจึงดำเนินไปพร้อมๆกับพัฒนาการของตัวละครหลักค่ะ
.
ส่วนประเด็นรอง คือสถานการณ์บ้านเมืองภายในเรื่อง ซึ่งแน่นอน ภารกิจของน้องคือคุ้มกันเจ้าชายที่โดนหมายหัว ดังนั้น ประเด็นรองก็คือการเมืองนั่นเองค่ะ ถึงแม้ว่าตัวเรื่องจะไม่ได้เล่าเรื่องนั้นแบบถึงพริกถึงขิงเพราะส่วนตัวโมนิก้าเองก็เป็นพวกหลังเขา...หลังเขาจริงๆ ไม่ใช่คำเปรียบเปรย(ฮา) แต่ว่ายังไงๆเราที่เป็นคนอ่านก็จะรับรู้ได้เลยค่ะ ว่าประเด็นนี้มันใหญ่นะ แล้วต้องสำคัญมากในอนาคตแน่
.
มาที่สุดท้ายแล้วค่ะ ตัวละครรรรร น้องโมนิก้าาา
เห็นเราเพ้อถึงความน่ารักของน้องตอนต้นแล้วก็คงไม่ต้องสงสัยว่าเราจะเขียนในรูปแบบไหน 555 แต่ว่า นอกจากเรื่องที่ว่าน่ารักแล้วตัวโมนิก้าเองก็เป็นอัจฉริยะ ที่คลั่งตัวเลขและสมการเป็นขีวิตจิตใจ "ตัวเลขไม่มีทางทรยศเราเด็ดขาด" นี่คือคติของน้อง จึงได้ทุ่มเทให้กับการเขียน แก้ และวิจัยตัวเลข ภ้าให้พูด น้องคงดูเหมือนนักคณิตศาสตร์มากกว่านักเวท 555
.
และถ้าปูมาว่าตัวละครเก่งเจ๋งเทพขนาดนั้น หลายๆท่านอาจจะกังวลในเรื่องความสมเหตุสมผล ว่าจะดูยัดเยียดให้ฉลาดแบบผิวเผินหรือเปล่า แต่ต้องบอกเลยว่าไม่ค่ะ ตัวโมนิก้าเก่งก็จริงแต่ด้อยค่าตัวเองหนักมาก ดังนั้นเรื่องที่เล่าโดยโฟกัสที่น้อยจะได้เห็นความกังวล ไม่สบายใจ และกลัวตลอดเวลา แทบไม่มีการกล่าวเลยว่าเก่งเลิศมาจากไหน
.
แต่ว่า ทั้งกิริยา ความนึกคิด และการตัดสินใจนั้น บ่งบอกเสมอว่าน้อง 'เก่ง' จริงๆโดยไม่ต้องพยายามโม้ นั่นยิ่งทำให้คาร์แลคเตอร์น้องดูน่าเชื่อถือ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญสำหรับตัวละครแนวอัจริยะเลย
เอาละ...อวยน้องโมนิก้ามาตั้งนาน คงได้เวลาพูดถึงตัวละครอื่นบ้าง 555 ตัวละครอื่นในเรื่องเราอาจจะพูดถึงไม่มากค่ะ เพราะมันมีเยอะ มากกกกกก จนถ้าเป็นคนจำตัวละครยากคงจำได้ไม่หมดแน่ ถึงท้ายเล่มจะมีหน้าแนะนำตัวละครก็เถอะ แต่ก็คงไม่ค่อยได้อ่านบ่อยหรอก...มั้ง?
.
แต่นอกเหนือจากนั้น ทุกตัวละครมีคาร์แลคเตอร์ประจำตัวที่เด่นชัด จดจำง่าย และน่าค้นหาเสมอค่ะ มองเห็นได้ถึงความใส่ใจของผู้เขียนในการถักทอตัวละครเหล่านั้นออกมาอย่างตั้งใจ ไม่ใช่การหยิบสูตรสำเร็จเดิมๆมาใช้ให้กลายเป็นตัวละครราบเรียบแต่อย่างใด ดังนั้นแม้เรื่องนี้จะมีตัวละครเยอะ แต่ทุกๆตัวก็มีสเน่ห์ของตัวเองทั้งสิ้นค่ะ
.
แต่นั่นก็กลายเป็นข้อเสียเช่นกัน...เพราะพอตัวละครเยอะ ก็ต้องกระจายบท พอกระจายบท ตัวละครที่เราชอบก็จะบทน้อยตามๆกันไป เศร้าค่ะ ยิ่งเป็นพวกชอบตัวละครง่ายอยู่ อยากให้มีบทกันเยอะกว่านี้จัง
.
อ้า แล้วก็ เรื่องนี้ไม่ได้เน้นความรักมากมายอะไร แต่ถ้าดูที่คนเขียนปูเยอะสุดคงเป็นเจ้าชาย ซึ่งคือเป้าหมายในการคุ้มครองนั่นแหละ และถ้าเป็นแบบนั้นจริงเราก็คงเชียร์คู่นี้เหมือนกัน(ฮา) ถึงกระนั้นตัวละครอื่นๆก็ยังมีโมเม้นให้ชวนจิ้น ชวนอมยิ้มอยู่บ้างพอกรุบกริบ และใช่ค่ะ มีสาวๆน่ารักๆที่เป็นเพื่อนของน้องด้วย พอเห็นสาวๆอยู่ด้วยกันนี่มันชวนให้กระชุ่มกระช่วยใจดีจริงๆค่ะ

พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
แบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
สภาทนายความ แจงเหตุลบชื่อ ‘ทนายคนดัง’ ออกจากทะเบียนทนาย
"ธรรมนัส" สวนดราม่าจัดซีเกมส์ ย้ำไทยพร้อม 100% แต่ขอทำแบบ "พึ่งตัวเองล้วนๆ"
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
ซาอุฯ สั่ง "มันอัดเม็ดไทย" เพิ่ม 30,000 ตัน! เกษตรกรเฮลั่น
นี่คือสิ่งมีชีวิตที่สูงที่สุดและใหญ่ที่สุดในโลก Redwood และ Sequoia
เฮลิคอปเตอร์ไร้คนขับของจีน ทดสอบบินและยิงกระสุนจริงครั้งแรกแล้ว
‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ
ความเชื่อเรื่องชื่อเสียง ยิ่งเสียงกระดิ่งดังขนาดไหน มากมายเท่าไหร่ เชื่อจะมีชื่อเสียงโด่งดังเสมอเหมือน
“ตำรา 5 ถัง” สูตรน้ำหมักโบราณที่คนรุ่นใหม่ยังไม่รู้—ปลูกอะไรก็งาม ใบเขียวเข้ม โตไว ไร้แมลง
ฮุน เซน ถูก “ทรัมป์” หลอกล้วงตับ – เปิดทางสหรัฐฯ แทรกแซงกฎหมาย-จัดหนักสแกมเมอร์
ความสุขของเด็กๆ คนชมก็มีความสุขปลื้มใจในความสามารถของเจ้าหนูฟันน้ำนมทั้งหลาย


