รถไฟขบวนแรกของโลก ใช้พลังงานจาก “แรงโน้มถ่วง”รถไฟที่มลพิษเป็นศูนย์ชาร์จไฟฟ้า แต่ใช้ “แรงโน้มถ่วง” ในการชาร์จแทน
รถไฟขบวนแรกของโลก ใช้พลังงานจาก “แรงโน้มถ่วง”รถไฟที่มลพิษเป็นศูนย์ชาร์จไฟฟ้า แต่ใช้ “แรงโน้มถ่วง” ในการชาร์จแทน
ในภาวะโลกที่กำลังแปรทั้งอากาศวิปริตผิดธรรมชาติ ภาวะโลกร้อนน้ำแข็งขั้วโลกละลาย...มนุษย์จะทำยังไงเพื่อลดมลพิษในอากาศที่เป็นตัวต้นเหตุให้เกิดภาวะโลกร้อนขณะนี้..
👉🏾หลายๆประเทศเริ่มหันมาใช้พลังงานสะอาด อย่างพลังงานไฟฟ้ากันมากขึ้น เพื่อที่จะลดมลพิษที่ปล่อยสู่สิ่งแวดล้อม และประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับช่วยในการลดภาวะโลกร้อนและยังมีอีกพลังงานหนึ่งที่น่าสนใจและกำลังอยู่ในช่วงการทดลองเช่นแรงโน้มถ่วงของโลก ดังตัวอย่างข่าวที่ผมกำลังจะเสนอต่อไปนี้
🚆รถไฟขบวนแรกของโลก ใช้พลังงานจาก “แรงโน้มถ่วง”รถไฟที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ขบวนแรกของโลก สำหรับขนส่งแร่เหล็กจำนวนมาก ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ โดยไม่จำเป็นต้องหยุดชาร์จไฟฟ้า แต่ใช้ “แรงโน้มถ่วง” ในการชาร์จแทน
ปัจจุบันยานพาหนะอย่างรถยนต์ กำลังเริ่มหันมาใช้พลังงานสะอาด อย่างพลังงานไฟฟ้ากันมากขึ้น เพื่อที่จะลดมลพิษที่ปล่อยสู่สิ่งแวดล้อม และประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ซึ่งระบบขนส่งอื่นๆ ก็พยายามปรับตัวในการหันมาใช้พลังงานสะอาดด้วยเช่นกัน
รถไฟขบวนแรกของโลก ใช้พลังงานจาก “แรงโน้มถ่วง”
🚖ปัจจุบันยานพาหนะอย่างรถยนต์ กำลังเริ่มหันมาใช้พลังงานสะอาด อย่างพลังงานไฟฟ้ากันมากขึ้น เพื่อที่จะลดมลพิษที่ปล่อยสู่สิ่งแวดล้อม และประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ซึ่งระบบขนส่งอื่นๆ ก็พยายามปรับตัวในการหันมาใช้พลังงานสะอาดด้วยเช่นกัน
🛸ล่าสุด ฟอร์เตสคิว (Fortescue) บริษัทเหมืองแร่ของออสเตรเลีย ได้ทำการเข้าซื้อกิจการ Williams Advanced Engineering (WAE) ในอังกฤษ เพื่อร่วมกันพัฒนา “รถไฟอินฟินิตี้” (Infinity Train)
🚡ซึ่งเป็นรถไฟที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ขบวนแรกของโลก สำหรับขนส่งแร่เหล็กจำนวนมาก ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ โดยไม่จำเป็นต้องหยุดชาร์จไฟฟ้า แต่ใช้ “แรงโน้มถ่วง” ในการชาร์จแทน
🚆Infinity Train จะมีหัวรถจักรเป็นแบตเตอรี่ไฟฟ้า โดยใช้วิธีชาร์จแบตเตอรี่ ด้วยแรงโน้มถ่วงขณะรถไฟวิ่งลงเนิน ทำให้พลังงานไฟฟ้าที่เสียไปกลับคืนมา และมีพลังงานเพียงพอสำหรับใช้ในขากลับ ทำให้รถไฟขบวนนี้ไม่ต้องหยุดรถเพื่อชาร์จไฟอีกต่อไป
โดยแต่ละขบวนจะยาวประมาณ 2.8 กิโลเมตร สามารถขนแร่เหล็กได้ 34,404 ตัน มีรถขนแร่เหล็กจำนวน 244 คัน และตู้รถไฟ 54 ตู้ ซึ่งใช้ทุนในการศึกษาและพัฒนาทั้งหมด 50 ล้านดอลลาร์ มีกำหนดแล้วเสร็จในอีก 2 ปีข้างหน้านี้
🌀ถือว่าเป็นนวัตกรรมใหม่ที่น่าสนใจ ในการเลือกใช้แรงโน้มถ่วงมาเป็นพลังงานขับเคลื่อนที่ไร้มลพิษ อีกทั้งยังประหยัดต้นทุนค่าใช้จ่ายอีกด้วย
🤠สุดท้ายถ้าสามารถพัฒนานำ เอาพลังงานแรงโน้มถ่วงของโลก ซึ่งเป็นพลังงานสะอาดมลภาวะเป็นศูนย์ มาเป็นพลังงานใช้กับรถยนต์เครื่องบินและยานพาหนะอื่นๆหรือเครื่องจักรอุตสาหกรรมต่างๆแทนพลังงานน้ำมันหรือก๊าซธรรมชาติที่เป็นมลพิษ แทน
👉🏿หันมาใช้พลังงานสะอาดแรงโน้มถ่วงของโลกแทน..จะนำพาไปถึงการลดมลภาวะเป็นพิษในอากาศ ลดค่าใช้จ่ายจะทำให้โลกมีความสุขมากขึ้นกว่าเดิมภาวะอากาศแปรปรวนโลกร้อนอาจจะทุเลาหรือลดลงได้แน่นอน
♨️สาระข้อมูลเพิ่มเติม
ความโน้มถ่วง (อังกฤษ: gravity) เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติซึ่งทำให้วัตถุกายภาพทั้งหมดดึงดูดเข้าหากัน ความโน้มถ่วงทำให้วัตถุกายภาพมีน้ำหนักและทำให้วัตถุตกสู่พื้นเมื่อปล่อย แรงโน้มถ่วงเป็นหนึ่งในสี่แรงหลัก ซึ่งประกอบด้วย แรงโน้มถ่วง แรงแม่เหล็กไฟฟ้า แรงนิวเคลียร์แบบอ่อน และ แรงนิวเคลียร์แบบเข้ม ในจำนวนแรงทั้งสี่แรงหลัก แรงโน้มถ่วงมีค่าน้อยที่สุด
”รถไฟที่มลพิษเป็นศูนย์ชาร์จไฟฟ้า แต่ใช้ “แรงโน้มถ่วง”
🌀ถึงแม้ว่าแรงโน้มถ่วงจะเป็นแรงที่เราไม่สามารถรับรู้ได้มากนักเพราะความเบาบางของแรงที่กระทำต่อเรา แต่ก็เป็นแรงเดียวที่ยึดเหนี่ยวเราไว้กับพื้นโลก แรงโน้มถ่วงมีความแรงแปรผันตรงกับมวล และแปรผกผันกับระยะทางยกกำลังสอง ไม่มีการลดทอนหรือถูกดูดซับเนื่องจากมวลใด ๆ ทำให้แรงโน้มถ่วงเป็นแรงที่สำคัญมากในการยึดเหนี่ยวเอกภพไว้ด้วยกัน
อ้างอิงจาก: วิกิพีเดีย google และ YouTube