กินขอบ VS ไม่กินขอบ เปิดประวัติพิซซ่า
กินขอบ VS ไม่กินขอบ เปิดประวัติพิซซ่า
.
ในวันหยุดสุดพิเศษอีกหนึ่งเมนูเด็ดที่ถ้าคิดอะไรไม่ออกก็คงกดสั่งมากินแก้เซ็ง นั่นก็คือ พิซซ่า แต่จะว่าไปแล้วสั่งมากินทีไร ก็ปวดหัวอยู่เหมือนกันเพราะเวลาเลือกหน้าพิซซ่ามักจะขัดแย้งกันตลอด สุดท้ายเลยจบลงด้วยการเป่ายิ้งฉุบ หรือไม่ก็ให้ผู้อาวุโสกว่าเลือกเมนู
.
แต่ปัญหาของอาหารจานด่วนที่มีประวัติยาวนานอย่างพิซซ่านี้ ไม่ได้จบลงแค่การเลือกหน้าพิซซ่าหน่ะสิ เพราะก็มีปัญหาในการเลือกแป้งอีก บางคนชอบบางกรอบ บางคนก็ชอบหนานนุ่ม และบางคนก็ไม่ชอบกินขอบ
.
แต่ก็มีคนที่ชอบกินขอบพิซซาอยู่เหมือนกัน เห็นได้จากหลายๆ ร้านเริ่มมีการโปรโมทสินค้าแบบใหม่ คือขายแต่ขอบของพิซซา เอาใจคนชอบกินขอบไปเลย
.
จะว่าไป เรามาย้อนไปสมัยกรุงโรมกันเสียหน่อย ในสมัยนั้นได้มีผู้ค้นพบหลักฐานบันทึกว่า .. “มีแป้งแผ่นกลมๆบางๆปรุงด้วยน้ำมะกอก สมุนไพร น้ำผึ้ง วางบนหินร้อน สักพักก็สุก” สมัยนั้นเรียกกันว่า Placenta ต่อมาในปี ค.ศ.79 นักโบราณคดีพบว่ามีร้านขายพิซซ่าอยู่ที่เมืองปอมเปอี ที่เคยถูกภูเขาไฟระเบิดพ่นลาวาทับทั้งเมือง
เวลาผ่านไป(เมื่อประมาณ 200 ปีที่ผ่านมานี้) เมืองนาโปลี ได้กลายเป็นต้นกำเนิดของพิซซ่าสมัยใหม่ โดยมีร้านพิซซ่าแห่งแรกชื่อพอร์ต อัลบ้า และก็มีอีกหลายๆร้านเปิดตามมา พิซซ่าชาวนาโปลีจะอบในเตาที่ก่อด้วยหิน จากภูเขาไฟเวซุเวียส เนื่องจากกระจายความร้อนได้สม่ำเสมอ และใช้ฟืนเป็นเชื้อเพลิง (กลิ่นคงจะหอมน่าดู)
ต่อมามีคนทำพิซซ่ามือ เยี่ยมคนหนึ่งนาย ดอน ราฟาเอล เอสโพสิโต เป็นคนแรกที่ใช้มอซซาเรลล่าชีส (หรือชีสนมควาย) เป็นเครื่องปรุง ชาวเมืองนิยมชมชอบมากจนกลายมาเป็นเอกลักษณ์ของพิซซ่านาโปลี และแพร่หลายมาจนถึงปัจจุบัน
เอกลักษณ์สำคัญของพิซซ่านาโปลี ต้องอบในเตาที่อุณหภูมิ 340 องศาเซลเซียส ต้องใช้ฟืนเป็นเชื้อเพลิง ต้องมีชีสมอซซาเรลล่า ผงเครื่องเทศออริกาโน (Origano) ปลาเค็มเอนโชวี (Anchovi)* มะเขือเทศ เบซิล (Basil) และกระเทียม
พอช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 คนอเมริกันก็หัดทำพิซซ่ากินกันบ้าง จนได้สูตรแบบอเมริกัน และแพร่หลายไปทั่วโลก
และในปีค.ศ. 1960 เกิดเกิดสงครามเวียดนามทหารอเมริกันเข้ามาตั้งฐานทัพในเมืองไทย ได้นำเอาวัฒนธรรมการกินพิซซ่าเข้ามาด้วยแม้จะยังไม่เป็นที่แพร่หลายเท่าไหร่ แต่ก็ถือว่าได้เข้ามาในไทยตอนนั้นแหละค่ะ
.
ถ้าพิซซ่าเป็นเมนูโปรดของใครก็แวะมาแชร์การสั่งหน้าที่ชอบ และแป้งที่ใช่สู่กันฟังด้วยนะคะ แล้วชอบกินขอบกันหรือเปล่า?