สุดหลอน!หนุ่มแชร์เรื่องลี้ลับโค้งร้อยศพชุมพร ที่ตัวเองได้ไปเจอมา
สุดหลอน!หนุ่มแชร์เรื่องลี้ลับโค้งร้อยศพชุมพร ที่ตัวเองได้ไปเจอมา
ผู้ใช้ เฟซบุ๊ก Sivakorn Boat Krupanid ที่ได้เดินทางไปท่องเที่ยวในทริปล่องแพ จ.ชุมพร และได้เจอกับประสบการณ์ขนหัวลุก ซึ่งการเดินทางในครั้งนี้เขาใช้ GPS นำพาไปยังจุดหมายปลายทางโดยที่ไม่รู้เลยว่า ทางข้างหน้าจะต้องพบเจอกับอะไร จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ได้พบเจอกับประสบการณ์เหนือธรรมชาติ นอกจากนี้เจ้าของเรื่องราวดังกล่าว ก็ได้นำภาพจาก Google มารีทัชเป็นภาพประกอบเพื่อให้เห็นภาพชัด ๆ เพิ่มความหลอนให้กับใครหลาย ๆ คน โดยเขาได้เล่าว่า
‘ผมพร้อมเล่าให้ฟัง และมาพร้อมกับภาพประกอบ เพื่อที่ทุกคนจะได้เห็นภาพตามไปพร้อม ๆ กัน ภาพที่ทำขึ้นมาเป็นภาพจาก google ที่ผม retouch ภาพที่ผมเจอ เรื่องนี้เริ่มขึ้นตอนที่ ผมเดินทางไปล่องแพและเดินป่า จ.ชุมพร เราเริ่มออกจากป่าตอนประมาณ 4 โมงเย็น เพื่อที่จะนั่งรถกลับไป จ.ระนอง ผู้ใหญ่ที่มารับพวกเราบอกว่า รถน้องที่จอดอยู่ที่อำเภอ ยางรั่ว ผมตกใจมากเพราะผมวางแผนไว้ว่าเมื่อถึงอำเภอ จะเอารถแล้วจะย้อนกลับไปชุมพรต่อ เพราะจองโฮมสเตย์ไว้แล้ว ซึ่ง เวลาตอนนั้นถึงอำเภอเพื่อรอช่างมาเปลี่ยนยางให้ น่าจะประมาณ 1-2 ทุ่มผมไม่แน่ใจ บวกกับตอนนั้นฝนตกหนักมาก
พอทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยก็แยกย้ายกันกลับ กทม. ส่วนผมและเพื่อนอีก 3 คน ก็มุ่งหน้าไปโฮมสเตย์ที่ชุมพรกันต่อ ผมก็เปิด google map เพื่อที่จะให้มันนำทางเราไป เวลาที่มันบอกเราคือประมาณ 2 ชม. กว่า ๆ ขับไปเรื่อย ๆ ไม่รีบ เพราะห่วงความปลอดภัยและเหนื่อยมากอีกด้วย เหตุการณ์แรกก็ได้เริ่มขึ้น ระหว่างทุกคนในรถกำลังคุยกัน ผมก็เห็นไกล ๆ แล้ว ว่ามีคนยืนอยู่ข้างทาง พอผมขับเข้าไปใกล้ พี่แกก็กระโดดเข้าไปในป่า ตอนนั้นผมเลยถามทุกคนว่าเห็นกันไหม แต่ทุกคนกลับบอกว่าไม่เห็นมีอะไร ผมเลยบอกว่าไม่มีใครมองทางเลยหรอ มีคนกระโดดเข้าไปใน ทุกคนก็บอก ไม่มีไรหรอกนั่นคือคน ผมก็เลยไม่คิดอะไรมาก
ต้องบอกก่อนว่าผมเป็นคนไม่กลัวผีเลย แต่เชื่อว่ามีจริงและไม่ลบหลู่ ตอนนั้นก็ขับไปเรื่อย ๆ google เริ่มที่จะแนะนำเส้นทางใหม่มาให้แบบ โครตไว ถ้าเราขับตรงไป ก็อีกประมาณ 1 ชม. 40 นาทีถึง แต่ถ้าเรากลับรถตามที่ google map แนะนำ จะเหลือแค่ 40 นาที ผมเลยหันไปถามเพื่อน ๆ ทุกคนว่าจะเอาไงดี ทุกคนตอบมาเสียงเดียวได้หมด อะได้หมดก็ได้หมด ในใจคิดไว้อยู่แล้วว่า มันต้องมีขึ้นเขาแน่ ๆ ผมจึงเริ่มขับตามที่ GPS แนะนำ ซึ่งระหว่างทางมืดสนิท บ้านคนแทบไม่มี มันเป็นทางขึ้นเขา โค้งซ้ายขวาเยอะมาก เอาง่าย ๆ ว่าสูงจนผมเจอหมอก บนถนน อยู่ดี ๆ เพลงที่เปิดด้วยแผ่น CD ก็ดับ เหมือนกับหนังผี และ google map ก็ไม่ขยับ เพราะสูงจนขาดสัญญาณ
ตอนนั้นทุกคนบนรถชักเริ่มรู้สึกแปลก ๆ แต่ไม่ได้นึกถึงผีหรืออะไร แค่รู้สึกว่าทางมันใช่หรอ, ไปได้จริงหรอ จนขับมาเจอด่านทหาร ก็เรียกตรวจตามปกติของเขา ก่อนออกจากด่านผมจึงถามพี่ทหาร ว่าเส้นนี้ไปอำเภอนี้ได้ไหม และทางมีขึ้นเขาอีกไหม พี่ทหารบอกไปได้ครับทางปกติแล้ว ทำให้ผมเริ่มโล่งใจว่าไม่ต้องขึ้นเขาแล้ว
แต่ด้วยความโล่งใจมันก็มีเหตุการณ์ที่รอเราอยู่ข้างหน้า โดยระหว่างทางเป็นแบบที่พี่ทหารบอก โค้งเล็กโค้งน้อย แต่ผมดันไปสะดุดตาอยู่โค้งนึง ที่มีแต่ศาลเจ้า ซากศาลพระภูมิถูกทิ้งตลอดข้างทาง แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร พอไฟหน้ารถสาดไปที่หัวโค้ง ผมเห็นผู้ชายหน้าเหลี่ยม ๆ ตัวดำ ๆ ผมยาว ยืนแลบยลิ้นอยู่ตรงสุดทางโค้งฝั่งซ้ายมือของรถ ผมจึงรีบเอามือปิดตาเฟินเพราะกลัวว่าเฟินเห็นแล้วจะกลัว ซึ่งผมก็ขับไปแบบมีสติ
ในใจคิดว่าใช่แน่นอน ตอนนั้นทุกคนในรถตื่นเพราะผมบอกว่า ช่วยดูให้หน่อยว่าถนนเส้นนี้ชื่อถนนอะไร คนอื่นงงว่าผมให้หาทำไม ในใจตอนนั้นผมไม่อยากพูดอะไรเลย กลัวทุกคนจะกลัว ระหว่างทางทุกคนก็กำลังหาว่าถนนนี้คือที่ไหนชื่ออะไร ขณะนั้นผมก็เห็นสี่แยกไฟแดงไกล ๆ ซึ่งก่อนที่จะถึงไฟแดงนั้น ไฟถนนก็เริ่มสว่าง โดยเหตุการณ์ต่อไปนี้ผมบอกเลยว่า ถ้าใครไม่มีสติ มันสามารถทำให้เกิดอุบัติเหตุได้เลย เพราะขับอยู่ดี ๆ จู่ ๆ ก็มีผู้ชาย วิ่งเข้ามาใส่หน้ารถผมเลย ทำให้ผมตกใจหักหลบ และจอดรถทันที
ชายคนนั้นมีลักษณะผิวดำ ตัวสูงใส่เสื้อสีขาว มีแถบสีแดง ใส่กางเกงยีน ผมคิดในใจว่าถ้าเป็นคนแล้วมาทำแบบนี้ผมไม่เอาไว้แน่ จากนั้นพอผมจอดรถเปิดกระจกไปมอง ปรากฏว่าทุกอย่างว่างเปล่ามีแค่เพียงความมืด ซึ่งครั้งนี้ผมไม่ได้เห็นคนเดียว เพื่อนอีกคนก็เห็นด้วยเช่นกัน แต่เพื่อนอีกสองคนไม่เห็นเพราะว่ากำลังหาชื่อถนนกันอยู่ ขณะนั้นผมรู้สึกโมโหกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมาก ไม่ได้กลัวแต่รู้สึกว่าถ้ามาแบบนี้เป็นการตั้งใจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุ ผมมั่นใจว่าเขาไม่ได้มาดีแน่นอน ผมพยามตั้งสติและขับรถอย่างปลอดภัย ทุกคนในรถตอนนั้นคือเงียบไม่มีการพูดคุยอะไรกันอีก เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขณะนั้นมันเหมือนเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานมาก ทั้ง ๆ ที่ใน google map อีกแค่ 10 นาทีก็ถึง ทุกอย่างดูอึมครึมไปหมด
จากนั้นก็ขับไปถึงโฮมสเตย์ เลยเล่าเรื่องนี้ให้ป้าเจ้าของฟัง ป้าถึงกับขนลุกพร้อมเล่าว่า เส้นนี้ดึก ๆ ไม่มีใครขับกันแล้ว คนเจอกันเยอะมาก มีคนเกิดอุบัติเหตุเพราะเจอคนตัดหน้าแบบนี้เลย ผมจึงถามไปว่า ป้าเคยเห็นที่เขาทิ้งศาลเยอะ ๆ ไหม ป้าบอกว่าเคยเห็น ซึ่งคนแถวนี้เขารู้กันว่ามันมีผีตรงนั้นน่ากลัวมาก ส่วนมากคนที่ตายแถวนั้นเป็นคนนอกพื้นที่ ผมและเพื่อน ๆ ทุกคนที่ได้ฟังถึงกับขนลุกไปตาม ๆ กัน ผมกับเพื่อนอีกคนเลยพูดเล่นกันว่า ถ้าอยากได้บุญก็มาให้หวยสิ เดี๋ยวจะทำบุญไปให้ ซึ่งหลังจากนั้นผมก็ถูกหวยเลขทะเบียนรถของผม แต่ผมคิดว่ามันอาจจะเป็นเรื่องบังเอิญ วันต่อมาผมก็เลยไปทำบุญตามที่ได้ลั่นวาจาเอาไว้’ พร้อมกับทิ้งท้ายข้อความเตือนสติ และพิกัดเส้นทางที่ได้พบเจอมา ‘จะบอกว่าควรมีสติในการเดินทางทุก ๆ ครั้ง เรื่องก็มีเท่านี้แหละครับ'
ทำเอาหลายๆคนที่เข้ามาอ่านต่างก็พากันคอมเม้นและแสดงความคิดเห็นกันมาย
อ้างอิงจาก: เฟซบุ๊ก Sivakorn Boat Krupanid