วัฏจักรชีวิตอุรังอุตัง..เปิดเผยชีวิตสุดเศร้าของ โพนี่ลิงอุรังอุตัง ที่ถูกมนุษย์จับขังเป็นทาสกามในซ่อง
วัฏจักรชีวิตอุรังอุตัง..เปิดเผยชีวิตสุดเศร้าของ โพนี่ลิงอุรังอุตัง ที่ถูกมนุษย์จับ ขังเป็นทาสกามในซ่อง
สวัสดียามเช้าครับทุกท่าน วันนี้มีคดีสุดแปลกมาให้ ทุกท่านได้อ่านกันโพนี่ ลิงถูกจับเป็นทาสกามของมนุษย์
เปิดเผยชีวิตสุดเศร้าของ โพนี่ลิงอุรังอุตัง ถูกมนุษย์จับโกนขน-แต่งหน้า ขังเป็นทาสกามในซ่อง
เปิดชีวิตรันทดของลิงอุรังอุตัง ถูกมนุษย์ใจบาปพรากจากอกแม่ตั้งแต่เด็ก เอามาเลี้ยงเป็นทาสกามในซ่อง จับโกนขน แต่งหน้า คอยรับลูกค้ารสนิยมแปลก ทุกวันเหมือนนรกบนดิน แต่สุดท้าย ชีวิตก็เปลี่ยน
เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2561 เว็บไซต์เดลี่เมล รายงานเรื่องราวอันน่าหดหู่ของลิงอุรังอุตังเพศเมียตัวหนึ่งที่ชื่อ โพนี่ ชีวิตของมันเลวร้ายและน่าเวทนาอย่างมาก ชนิดที่คงไม่มีใครนึกฝันว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นบนโลก
และทุกคนคงคิดไม่ถึงว่ามนุษย์จะสามารถทำกับเพื่อนร่วมโลกได้ลงคอ โดยตลอดชีวิตของโพนี่แทบไม่เคยสัมผัสคำว่าอิสรภาพ
มันถูกขังเป็นทาสกามอยู่ในซ่องที่อินโดนีเซีย ถูกมนุษย์เพศชายมากมายข่มขืนมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ในแต่ละวันที่ผ่านไปคือความทุกข์ และมันไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เลย
โพนี่เป็นลิงอุรังอุตังกำพร้า มันถูกพรากมาจากอกแม่ตั้งแต่ยังเป็นลูกลิงตัวน้อย ชาวบ้านได้เอามันออกมาจากป่า และเอาไปขังไว้ที่ซ่องในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ในพื้นที่กันดารห่างไกลผู้คนในประเทศอินโดนีเซีย โพนี่ไม่ได้ถูกเลี้ยงให้เป็นสัตว์เลี้ยงหรือให้คนไว้ดูเล่น แต่มันถูกเลี้ยงมาเพื่อให้เป็นที่สนองตัณหาของมนุษย์
เจ้าของซ่องจับโพนี่ล่ามโซ่ แต่งหน้าและใส่น้ำหอมให้มัน รวมทั้งโกนขนทุก ๆ 2 วัน เพื่อเอาใจลูกค้า
ในแต่ละวัน เหล่าชาวสวนปาล์มจะเดินทางเข้ามาที่ซ่องแห่งนี้ เพื่อกระทำชำเราโพนี่ และจ่ายเงิน 70 บาท ให้เจ้าของซ่องเป็นค่าบริการ
โลกภายนอกไม่เคยรับรู้ถึงชีวิตของลิงอุรังอุตังที่น่าสงสารตัวนี้ จนกระทั่งในปี 2546 โลเน โดรสเชอร์-เนลสัน และทีมเจ้าหน้าที่จากองค์กรช่วยเหลือลิงอุรังอุตังเกาะบอร์เนียว หรือ บีโอเอสเอฟ (BOSF - Borneo Orangutan Survival Foundation) ได้เดินทางไปยังหมู่บ้านดังกล่าว
หลังจากรับรู้ว่ามีลิงอุรังอุตังน่าสงสารถูกขังเอาไว้ ตอนที่เธอรับรู้ความจริงว่าโพนี่ถูกขังเอาไว้เป็นทาสกามของมนุษย์ เธอช็อกและเจ็บปวดอย่างมาก
โลเนเล่าย้อนอย่างสะเทือนใจว่า เธอคงเป็นคนที่ไร้เดียงสาและมองโลกในแง่ดีเกินไป เพราะเธอคิดไม่ถึงและไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่ามนุษย์จะสามารถทารุณกับสัตว์ไร้ทางสู้ที่เป็นเพื่อนร่วมโลก และเพื่อนใกล้ชิดกับสายพันธุ์ได้ถึงขนาดนี้
ขณะที่ มิเชลล์ เดซิเลตส์ ผู้อำนวยการองค์กรบีโอเอสเอฟ กล่าวว่า ลูกค้าส่วนใหญ่มาใช้บริการที่ซ่องแห่งนี้ เพราะต้องการมีเซ็กส์กับโพนี่โดยเฉพาะ พวกเขาจะเลือกโสเภณีคนไหนไปนอนด้วยก็ได้ แต่พวกเขาเลือกโพนี่ เพราะชื่นชอบความแปลก
ทีมเจ้าหน้าที่พยายามช่วยเหลือโพนี่ออกมาจากนรกบนดินแห่งนั้น แต่ทางเจ้าของซ่องไม่ยอมอย่างเด็ดขาด พวกเขาขับไล่ทีมเจ้าหน้าที่ และยังคว้ามีดอีโต้มาข่มขู่ว่าจะฟันให้ตาย
ถ้าเข้ามาเอาโพนี่ออกไป ทีมเจ้าหน้าที่องค์กรจึงต้องเดินทางกลับไปตั้งหลัก และย้อนกลับมาอีกครั้ง ครั้งนี้พวกเขาไม่ได้มาเพียงลำพัง แต่ยังพากองกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจติดอาวุธมาด้วยอีกหลายนาย เจ้าของซ่องอาจจะมีมีดอีโต้หรือมีดพร้า แต่เจ้าหน้าที่มีปืนไรเฟิล AF-47 หรือปืนอาก้า พร้อมทั้งอาวุธต่าง ๆ อีกมาก และมันมีประสิทธิภาพมากกว่ามีดอีโต้หลายเท่า
เจ้าหน้าที่ใช้ปืนข่มขู่เจ้าของซ่อง สั่งให้เอาตัวโพนี่ออกมาทันที ทางเจ้าของซ่องไม่อยากแลกชีวิตตัวเองกับกระสุนปืน จึงยอมส่งตัวโพนี่ให้กับทีมเจ้าหน้าที่ พวกเขาช่วยกันพามันไปยังสถานอนุรักษ์พันธุ์อุรังอุตังขององค์กร ซึ่งตั้งอยู่ในเกาะบอร์เนียว และชีวิตใหม่ของโพนี่ก็เริ่มต้นขึ้น
ตอนที่โพนี่ได้รับการช่วยเหลือในตอนนั้น มันมีอายุประมาณ 6-7 ปี เจ้าหน้าที่ดูแลมันเป็นอย่างดี ทั้งอาหารและที่อยู่อาศัย ลิงอุรังอุตังที่น่าสงสารตัวนี้ค่อย ๆ ปรับตัวกับชีวิตใหม่ไปอย่างช้า ๆ ด้วยความที่โพนี่เคยถูกล่ามโซ่ ไม่เคยได้เห็นโลกภายนอกมาก่อน การได้เห็นพื้นที่เปิดโล่ง มีต้นไม้ มีอากาศบริสุทธิ์ และพบเจอกับคนที่ไม่ทำร้ายมัน มันช่างเป็นเรื่องแปลกใหม่สำหรับโพนี่ แต่ในที่สุด มันก็สามารถปรับตัวเข้ากับชีวิตใหม่ได้
ตอนนี้เวลาผ่านไป 15 ปี แล้ว จากลิงอุรังอุตังน่าเวทนาในวันนั้น ได้กลายเป็นลิงอุรังอุตังที่มีความสุข ได้กินอาหารที่ดี มีคนดูแล ได้ปีนป่ายต้นไม้ตามชีวิตธรรมชาติ เป็นชีวิตแสนสุขที่โพนี่คงไม่เคยนึกฝันว่าจะได้พบเจอ เพราะที่ผ่านมา มันไม่ต่างอะไรกับนรกบนดิน
ปัจจุบันโพนี่อยู่ที่ศูนย์ฟื้นฟูชีวิตลิงอุรังอุตังขององค์กรบีโอเอสเอฟ พร้อมกับเพื่อน ๆ อีก 7 ตัว แม้ว่าตอนนี้โพนี่จะมีความสุขและสุขภาพดีมาก แต่ทีมเจ้าหน้าที่คิดว่าพวกเขาคงไม่สามารถปล่อยมันเข้าป่าได้ เพราะมันเติบโตมาท่ามกลางการดูแลของมนุษย์ และมันก็อายุมากเกินว่าจะพัฒนาสัญชาตญาณการเอาตัวรอดตามธรรมชาติแล้ว
สำหรับแม่เล้าและเจ้าของซ่องที่ทารุณโพนี่นั้น ทางองค์กรไม่สามารถเอาผิดอะไรกับพวกเขาได้ เพราะกฎหมายในพื้นที่หย่อนยานมาก ทำให้การทารุณลิงอุรังอุตังและสัตว์อื่น ๆ ไม่หมดไปเสียที และขณะนี้โพนี่มีสภาพร่างกายแข็งแรงแล้ว หลังจากที่อยู่ในการดูแลของผู้เชี่ยวชาญมากกว่า 10 ปี แต่โพนี่ขาดขาดทักษะการเอาตัวรอดในป่า เพราะโดนขังให้อยู่กับมนุษย์มานานเกินไป จึงหมดโอกาสที่ลิงตัวนี้จะได้กลับคืนสู่ป่า และต้องอยู่ที่ศูนย์อนุรักษ์ตลอดชีวิต....
เพิ่มเติมข้อมูลวัฏจักรชีวิตอุรังอุตัง
อุรังอุตังสุมาตราเป็นสัตว์สังคมมากกว่าอุรังอุตังบอร์เนียว กลุ่มของอุรังอุตังเหล่านี้จะรวมตัวกันเพื่อหาอาหารบนต้นจิกที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม เพศผู้โตเต็มวัยมักจะหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับเพศผู้ตัวเต็มวัยอีกตัวหนึ่ง เพศผู้ที่ยังโตไม่เต็มวัยจะพยายามจับคู่กับเพศเมีย ถึงแม้ว่าพวกมันมักจะประสบความล้มเหลวเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากเพศเมียตัวเต็มวัยสามารถหลีกหนีเพศผู้เหล่านี้ได้อย่างง่ายดาย เพศเมียตัวเต็มวัยมักจะจับคู่กับเพศผู้ตัวเต็มวัยมากกว่า
ช่วงอัตราการเกิดของอุรังอุตังสุมาตรายาวนานกว่าอุรังอุตังบอร์เนียว และถือว่ายาวนานที่สุดในหมู่พวกลิงใหญ่ อุรังอุตังสุมาตราพร้อมที่จะมีลูกเมื่ออายุได้ 15 ปี ลูกอ่อนอุรังอุตังจะอยู่ใกล้กับแม่ของมันจนกระทั่งอายุได้ 3 ปี และแม้กระทั่งหลังจากนั้น พวกมันจะยังคงรวมกลุ่มกับแม่ของมัน อุรังอุตังทั้งสองชนิดมักจะมีชีวิตอยู่หลายทศวรรษ มีประมาณการอายุขัยว่าอาจสูงถึงมากกว่า 50 ปี ค่าเฉลี่ยของการผสมพันธุ์ครั้งแรกของอุรังอุตังสุมาตราอยู่ที่ 12.3 ปี ไม่มีสัญญาณระบุถึงภาวะหมดประจำเดือนในอุรังอุตังชนิดนี้
อ้างอิงจาก: วิกิพีเดีย และ YouTube