ความรู้ท่วมหัว เอาตัวไม่รอด
“ความรู้ท่วมหัว เอาตัวไม่รอด
”
คำๆนี้ทุกคนคงจะเคยได้ยินกันมาบ้างแล้ว และเราทุกคนน่าจะรู้ความหมายของคำๆนี้ดี แต่ถ้าให้เปรียบง่ายๆก็คงจะเหมือนกับคนที่ลงทุนเรียนจนสามารถจบสูงๆได้ แต่ชีวิตของตัวเองดันไม่ได้ดีเหมือนกับที่หวังไว้ ล่ะมั้ง55 นี่คงเป็นคำนิยามง่ายๆสำหรับคำๆนี้ของผม
แต่เกริ่นมาแบบนี้จะเล่าเรื่องอะไรล่ะ ช่วงนี้ผมพึ่งเริ่มที่จะลองหันมาอ่านหนังสือนิยาย และมันก็ดันสนุกเกินที่คาดไว้ซะด้วย (ไม่บอกหรอกว่าเรื่องอะไร จะเก็บไว้สนุกคนเดียว) แต่ตอนอ่านผมดันไปสะดุดกับคำๆนึงเข้า เลยเก็บมาคิด จนสุดท้ายก็ต้องเอามาเขียน เพราะเรื่องๆนี้มันเป็นเรื่องที่เก็บมาคิดต่อได้เยอะ แล้วก็น่าจะมีประโยชน์เยอะด้วย อย่างน้อยก็สำหรับผมอะนะ
“คนที่มีความรู้เยอะ ไม่ใช่ทุกคนที่จะเป็นคนฉลาด”
เจอคำพูดนี้ไปบางคนอาจจะงง แต่ผมก็ยังเชื่อว่ามีหลายคนที่ก็น่าจะเข้าใจเกี่ยวกับคำๆนี่ เพราะอย่างนี้ไง มันถึงมีคำว่า “ความรู้ท่วมหัว เอาตัวไม่รอด” เพราะคนที่มีความรู้ทุกคนไม่ใช่ว่าจะนำมันมาใช้ได้ถูกวิธี การหยิบความรู้ที่มี มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่างหากที่จะเรียกได้ว่ามันคือความฉลาด
ผมน่าจะเป็นหนึ่งในคนที่มีความรู้เยอะ แต่หลายอย่างผมก็ดันไม่สามารถนำความรู้พวกนั้นมาสร้างประโยชน์ได้ แต่ผมจะไม่บอกหรอกนะว่าผมโง่ เพราะผมก็เก่งพอที่จะเอาความรู้อีกหลายอย่างมาปรับเปลี่ยนจนมันเกิดประโยชน์ต่อชีวิตผมได้เหมือนกัน (เชื่อเถอะ ไม่มีใครมองตัวเองโง่หรอก เนอะ!!)
“การมีความรู้เยอะ ไม่ใช่เรื่องผิด แต่การไม่หยิบมันมาใช้เลยต่างหาก ที่ผิด” (เนี้ยย ได้คำคมมาอีกอันเฉย)
หยิบความรู้เหล่านั้นมาสร้างประโยชน์ นั่นแหละที่เรียกว่าฉลาด ดัดแปลงสิ่งที่รู้ให้เข้ากับตัวเอง บอกเลยไม่ใช่ทุกคนที่จะทำได้ง่ายๆ เพราะการมองปัญหาที่เราไม่เคยพบเจอ มันไม่มีวิธีแก้ที่เรารู้แน่นอน คำถามคือจะแก้ปัญหานั้นยังไง นั่นแหละคือการหยิบความรู้ออกมาสร้างประโยชน์ ความฉลาดไม่ใช่ความรู้ แต่คือความสร้างสรรค์ หยิบความรู้ที่มีมาผสมรวมกัน หยิบนี่เข้า หยิบนั่นออก จนพบวิธีแก้ นั่นแหละที่เรียกว่าความฉลาด
ทุกคนเป็นคนฉลาดอยู่แล้ว ไม่มีคนโง่ในโลกนี้หรอก อย่างน้อยก็ในความคิดผม แต่สิ่งที่จะทำให้ความฉลาดเรามีมากกว่าคนอื่นคือความรู้ ถึงเราจะฉลาดแค่ไหน แต่คนที่มีความรู้มากกว่าก็มีโอกาสที่จะชนะมากกว่าเราอยู่ดี ความรู้สำคัญ เผลอๆอาจจะสำคัญมากกว่าความฉลาดด้วยซ้ำ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็เป็นสิ่งที่ต้องไปคู่กันอยู่ดี เพราะถึงมีความรู้เยอะ หยิบมาใช้ไม่ได้ก็ไม่มีประโยชน์ และต่อให้ฉลาดแค่ไหน ถ้าไม่มีความรู้ในเรื่องนั้นเลยก็ยากที่จะทำสำเร็จ
ขอสรุปง่ายๆละกัน
ความรู้ คือสิ่งที่เราเรียนรู้มา ทั้งจากหนังสือ หรืออินเตอร์เน็ต รวมทั้งประสบการณ์ที่เคยผ่านมา
ความฉลาด คือความคิดสร้างสรรค์ที่จะหยิบความรู้มาดัดแปลงจนมันเกิดประโยชน์ขึ้นมา
แต่ทั้งสองอย่างดันเป็นสิ่งที่แยกกันไม่ได้ เพราะความฉลาดต้องพึ่งพาความรู้เพื่อสร้างความคิดสร้างสรรค์ และความรู้ก็เป็นที่สำหรับบันทึกความคิดใหม่ๆที่เกิดมาจากความคิดสร้างสรรค์อีกที สิ่งที่ใช้การได้ก็เก็บไปต่อยอด สิ่งที่ใช้การไม่ได้ก็จำไว้เพื่อวันนึงจะปรับเปลี่ยนสิ่งที่คิดไว้จนสำเร็จ
”ที่ผมมาเขียนสรุปนี่ถือว่าเป็นความฉลาดหรือเปล่านะ” คงถือเป็นอย่างนั้นแหละมั้ง55 ก็นะแปลงจากคำสั้นๆคำเดียวมาเป็นบทความยาวซะขนาดนี้ ผมน่าจะพอเรียกตัวเองว่าคนฉลาดได้นิดนึงล่ะมั้ง
“ล่ะมั้งนะ”