หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

เรื่องเล่า อุทิศแด่วาด รวี

โพสท์โดย เล่าสู่กันฟัง

อุทิศแด่วาด รวี

 

ย้อนกลับไปตั้งแต่ปี 2548 วาด รวียังคงอ่านงานวรรณกรรมทั้งไทยเทศ อ่านด้วยความกระหายใคร่รู้ และเฝ้ามองวรรณกรรมไทยแบบหายใจรดหลังคอ สถานะตอนนั้นของเขาเป็นทั้งนักเขียน เคยเปิดร้านหนังสือที่สยามสแควร์ ช่วงปีนั้นเขาเป็นบรรณาธิการ ทำวารสารหนังสือใต้ดิน UNDERGROUND BULEteen ของตัวเอง เขามีสำนักพิมพ์ไชน์ของตัวเองแล้วด้วยในขณะนั้น ผมนับถือเขาในฐานะรุ่นพี่ ผมเป็นรุ่นน้อง ผู้เพิ่งเข้ามาใหม่ในแวดวงวรรณกรรมไทย และแวดวงการทำหนังสือ ปี 2547 ผมเพิ่งมีนวนิยายระบำเมถุน ถัดมาปี 2548 ผมมีรวมเรื่องสั้นปริมาตรรำพึง วาด รวีติดต่อขอสัมภาษณ์ขนาดยาวลงวารสารหนังสือใต้ดินของเขา เรานัดพบสัมภาษณ์กันที่สถาบันปรีดี พนมยงค์ ในซอยทองหล่อ คุยกันครึ่งหนึ่ง ก่อนออกเดินมานั่งสัมภาษณ์กันต่อที่บาร์ร้านอาหารอิตาเลียน Beccofino วาด รวีมากับจ๊อก ชัยพร และต้อง ปิยะวิทย์ ผมแรกรู้จักและได้พูดคุยกับทั้งสามคนในวันนั้น ความสัมพันธ์ยืนยาวมาจนถึงเดี๋ยวนี้ ในขณะสถานที่ที่เราเยี่ยมกรายไปค่อยๆ ถูกลบออกไปจากตำแหน่งแห่งที่ที่มันเคยตั้งอยู่

 

 วาด รวีรู้ การเป็นนักเขียนอย่างเดียวมันอยู่ไม่ได้ เขาอยู่มาก่อนและรู้อยู่เต็มอกว่ามันยากจะหยัดยืน เราจะต้องมีรายได้จากแหล่งอื่นเพื่อจะให้เราสามารถเป็นนักเขียนเต็มเวลาได้ เขาอยากเห็นผมเขียนหนังสือต่อๆ ไป เขาหยิบยื่นงานที่พอจะช่วยให้ผมหายใจหายคอได้บ้าง แรกเริ่มคือให้ผมส่งเรื่องสั้นและบทวิจารณ์วรรณกรรมมาให้วารสารหนังสือใต้ดินพิจารณา ต่อมาก็ชักชวนผมทำงานพิสูจน์อักษร และบรรณาธิการ จากต้นฉบับต่างๆ ที่มีหลากหลาย ซึ่งวาด รวีเองก็รับเป็นบรรณาธิการรับจ้างจากหลายแหล่งที่ วาด รวีในช่วงปี 2548-2553 คือบรรณาธิการรับจ้างที่งานชุกคนหนึ่ง กล่าวให้เห็นภาพอย่างนี้; เขามีสำนักพิมพ์ไชน์ เขาทำวารสารหนังสือใต้ดิน เขาเป็นบรรณาธิการหนังสือบางเล่มจากสำนักพิมพ์ลายคราม สำนักพิมพ์ศรีปัญญา เข้ารับตำแหน่งบรรณาธิการต้นฉบับสำนักพิมพ์พิมพ์บูรพา (ของสุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิแห่งทีวีบูรพา ซึ่งในยุคนั้นมีทั้งรายการทีวี นิตยสารค คน และสำนักพิมพ์ ซึ่งในส่วนสื่อสิ่งพิมพ์นี้ได้พี่เวียง วชิระเข้ามาช่วยดูแล และน่าจะหมายความถึงชักชวนวาด รวีมาเป็นบรรณาธิการสำนักพิมพ์พิมพ์บูรพาด้วยนั่นเอง) เขาเป็นนักวิจารณ์วรรณกรรมยียวนฝีปากกล้า เป็นคอลัมนิสต์ในนิตยสารเวย์กับอิมเมจ และอื่นๆ นอกจากนี้ เขายังทำตัวเป็นนักแปลอีกด้วย (และผมอยากจะโน้ตไว้ด้วยว่าเขาทำงานหลากหลายบทบาทโดยพลังวัยหนุ่มอันลุกโหมเช่นนี้ งานเขาดีและมีคุณภาพเสียเป็นส่วนใหญ่อีกต่างหาก)   

 

 เขาลุ่มหลงงานของกนกพงศ์ สงสมพันธุ์ งานของแดนอรัญ แสงทอง เขาชื่นชมงานของปราบดา หยุ่น นั่นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่วาด รวีจะมีฉันทาคติกับนักเขียนสามคนนี้ เขาอุทิศวารสารหนังสือใต้ดินเล่มหนึ่งทำให้กนกพงศ์ เมื่อการเสียชีวิตของกนกพงศ์สะเทือนไปทั้งวงการวรรณกรรมไทยในปี 2549 เขาทำหนังสือวาระ 21 ปี เงาสีขาวอย่างดิบดีให้แดนอรัญ แสงทอง เขาร่วมงานกับปราบดา หยุ่นนับครั้งไม่ถ้วน รวมถึงวางตำแหน่งให้กิตติพล สรัคคานนท์เป็นบรรณาธิการแทนหากเขาประเมินแล้วว่าไม่มีเวลามากพอจะทำให้ดีได้ด้วยตัวเอง ส่วนผมกับอุรุดา โควินท์ (เรามักจะแซวกันเองขำๆ ว่า) เป็นนักเขียนชั้นสอง วาด รวีไม่ค่อยโอ๋อุทิศ กับอุรุดาเลย

 

 หลังการจากไปของกนกพงศ์ พี่พู อุรุดากลับมาอยู่กรุงเทพฯ เราทำงานพิสูจน์อักษรด้วยกันในออฟฟิศของสำนักพิมพ์ไชน์ที่ทุ่งครุ ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าต้นฉบับที่เราพิสูจน์อักษรไม่สมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ มีบางคำก็ปล่อยหลุดจนไม่น่าให้อภัย ‘ผัดวันประกันพรุ่ง’ คือคำที่ผมทำหลุด ปล่อยเป็น ‘ผลัดวันประกันพรุ่ง’ วาด รวีโดนพี่เช็ก สุทธิพงษ์ตำหนิ เขาแบกรับไว้เอง และบอกผมว่าอย่าให้พลาดอีก นับแต่วันนั้นผมไม่เคยพลาดคำนี้อีกเลย พี่พูเองก็มีต้นฉบับเรื่องสั้นอยู่ในมือพี่เป้ วาด รวี ซึ่งออกปากเองเลยว่าเขาจะดูแลให้มันเกิดขึ้น สองคนนี้ทุ่มเถียงทะเลาะกันมาก พี่พูบอกกับผมว่าทำงานกับเป้แล้วเหนื่อย นั่นก็ยังไม่ดี นี่ก็ตัดออก โน่นก็จะให้เขียนเรื่องเพิ่ม มันดูจะไม่เสร็จสักที ผมเป็นประจักษ์พยานว่าอุรุดา เคยเสียน้ำตาให้กับการเคี่ยวเข็ญของวาด รวีอยู่ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวไก่มะระข้างออฟฟิศสำนักพิมพ์ไชน์

 

 นั่นคือการงานที่มีรายได้เลี้ยงตัวพอทำให้ผมได้เขียนต้นฉบับลับแล, แก่งคอยอย่างจดจ่อต่อเนื่องจนแล้วเสร็จ 

.............................................................

 

ส่วนหนึ่งของบทความ ยังเขียนไม่จบ

เนื้อหาโดย: เล่าสู่กันฟัง
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
เล่าสู่กันฟัง's profile


โพสท์โดย: เล่าสู่กันฟัง
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
5 VOTES (5/5 จาก 1 คน)
VOTED: แหวนดอกไม้วงนั้น
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่าแคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการีชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปีชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทยพบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบินพบกองอาเจียนข้างตัว นัทปง ก่อนเสียชีวิต ตำรวจได้กั้นพื้นที่เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อนสนิทเปิดใจหลังเกิดเหตุ! เผย 'ณัฐวุฒิ ปงลังกา' หลับไม่ตื่น-ไม่ขอตอบปมทะเลาะในวงเหล้า ขณะผลชันสูตรชี้ชัดพบ "ไซยาไนด์"10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯนิทานเพื่อนรัก 3 คนสู่โศกนาฏกรรมปริศนา! สั่งระงับเผาศพ-พบ "ไซยาไนด์" ในร่างผู้เสียชีวิตเปิดการบ้านภาษาไทย เรียงอักษรให้เป็นคำ แบบนี้ยากไปไหม
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบินแคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี“นานา ไรบีนา” เพิ่งพ้นคุกก็เจอดราม่าซ้อน—เพื่อน (เคย) รักแห่ออกมาสวนแรง🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี"ฮุนเซน" เงินหมด ทหาร BHQ คู่ใจทรยศ แอบซบอก "สมรังสี"ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
กระทู้อื่นๆในบอร์ด นิยาย เรื่องเล่า
บุคลิกภาพตามกรุ๊ปเลือด ตามแนวคิด Ketsuekigata ของญี่ปุ่นความโชคดี ในความโชคร้ายมีสมาชิกมาเพิ่มอีก 1 คนร้านหยกเขียวสุกี้ (แม็คโครโลตัสบ้านไผ่)
ตั้งกระทู้ใหม่