สรุปความคืบหน้า จ่าแรงเยอร์ มือฆ่าครูนิ่มมัดแขนมัดขาถ่วงน้ำ
เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 65 ที่ ภ.จว.เพชรบุรี พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 พร้อม พล.ต.ต.อุทัย กวินเดชาธร ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี พ.ต.อ.กานต์ ธรรมเกษม รอง ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี พ.ต.อ.โกศล ยามา รอง ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี ผกก.ในสังกัดภ.จว.เพชรบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง
แถลงข่าวจับกุมนายสุรินทร์ หรือติ๊ก พรามน้อย อายุ 38 ปี ที่อยู่ 54/1 ม.1 ต.ดอนยาง อ.เมืองเพชรบุรี จ.เพชรบุรี ผู้ต้องหาหมายจับศาล ที่ จ.30/2565 ลงวันที่ 10 มิถุนายน 2565 ข้อหา "ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และปิดบังซ่อนเร้นย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย"
พร้อมของกลางรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นรีโว่ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน,อิฐมวลเบา 3 ก้อน ,เหล็กรางรถไฟ 1 แท่ง,แคสซีรถยนต์ 1 ชิ้น (ที่ผู้ต้องหาใช้ถ่วงศพผู้เสียชีวิต),สายไฟ
พล.ต.ท.ธนายุตม์ พฤติการณ์กล่าวคือ เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 65 นายวาที อ่วมเทศ มาที่ สภ.แก่งกระจาน แจ้งว่าน.ส.วนิดาหรือหนิง อ่วมเทศ บุตรสาว ซึ่งรับราชการอยู่ที่ กศน.อำเภอแก่งกระจาน หายตัวไปพร้อมกับรถยนต์โตโยต้า ทะเบียน บพ 9114 เพชรบุรี ไม่สามารถติดต่อได้ตั้งแต่วันที่ 26 พ.ค. 65 เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกสืบสวนติดตามหาข่าว ต่อมาวันที่ 9 มิ.ย. 65 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนหาข่าวจนสามารถติดตามรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นรีโว่ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน (สืบสวนทราบว่าคือรถของ น.ส.วนิดาหรือ หนิงฯ) ได้ที่บ้านเลขที่ 19/2 ม.2 ต.ท่ายาง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ซึ่งนายสุรินทร์หรือติ๊ก พรามน้อย (ผู้ต้องหา) เป็นผู้นำมาจำนำไว้เมื่อวันที่ 23 พ.ค. 65
ตัวผู้ต้องหาตามหมายจับซึ่งก่อเหตุอุกฉกรรจ์ เป็นที่สนใจแก่ประชาชน“กรณีปรากฎข่าวครูหนิงหายในพื้นที่สภ.แก่งกระจาน ต่อมาพบเป็นศพในพื้นที่สภ.เมืองเพชรบุรี” จำนวน 1 ราย ได้แก่
จากการสืบสวนทราบว่านายสุรินทร์ มีความสนิทสนมกับ น.ส.วนิดา จึงน่าเชื่อว่านายสุรินทร์ เป็นผู้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานยื่นคำร้องต่อศาลเมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 65 เพื่อขออนุมัติหมายจับนายสุรินทร์ หรือ ติ๊ก พรามน้อย ซึ่งศาล ฯ อนุมัติหมายจับที่ จ.30/2565 ลงวันที่ 10 มิ.ย. 65 ข้อหา "ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และปิดบังซ่อนเร้นย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย" ต่อมาในวันเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมจับกุมนายสุรินทร์ นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมาย
พล.ต.ท.ธนายุตม์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องรวบรวมพยานหลักฐานในคดีให้รอบคอบ เพื่อให้สามารถดำเนินคดีลงโทษผู้กระทำผิดและผู้เกี่ยวข้องได้จนถึงที่สุด ตามคติที่ว่า"คนดีต้องอยู่เย็นเป็นสุข คนร้ายต้องอยู่ร้อนนอนทุกข์" และกำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายให้ทำงานด้วยความรอบคอบตามหลักยุทธวิธีตำรวจที่ได้ฝึกทบทวนมาเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความสูญเสียแก่ครอบครัวพี่น้องข้าราชการตำรวจ ตามที่ผบ.ตร.ได้ฝากข้อห่วงใย ซึ่งการจับกุมผู้ต้องหาในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยึดหลักการทำงานแบบ “กัดไม่ปล่อย ล่าไม่ถอย คอยไม่เลิก” จนสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในชีวิตและทรัพย์สินให้แก่พี่น้องประชาชน ในนามของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและตำรวจภูธรภาค 7 ได้ฝากถึงประชาชนว่าตำรวจทำงานอย่างเต็มที่ และขอชมเชยเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ที่ได้ทำงานด้วยความวิริยะ อุตสาหะ เสียสละ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้สังคมส่วนรวม และขอให้รักษาความดีนี้ไว้สืบต่อไป