วัฒนธรรมในคาเฟ่ที่ไม่เหมือนใครของเกาหลี
วัฒนธรรมในคาเฟ่ที่ไม่เหมือนใครของเกาหลี
1. ต้องสั่ง 1 เครื่องดื่มต่อ 1 คน
ร้านกาแฟส่วนใหญ่ในเกาหลีมีกฎ 1 คนต่อ 1 เครื่องดื่ม เพราะถือว่าราคาเครื่องดื่มรวมค่านั่งที่ร้านเรียบร้อยแล้วค่ะ
ดังนั้นเมื่อไปคาเฟ่ 2 คนแต่สั่งเครื่องดื่มแค่ 1 แก้ว
เจ้าของร้านก็อาจจะเตือนให้สั่งเครื่องดื่มตามจำนวนคนที่มาค่ะ
อย่างไรก็ตาม ถ้าซื้อกลับบ้านก็ไม่ควรใช้ที่นั่งในร้านนะคะ
2. ไม่อนุญาตให้ใช้แก้วแบบใช้แล้วทิ้งภายในร้าน
ในเกาหลีเพื่อลดการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ใช้แล้วทิ้งและเพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อม
ร้านคาเฟ่ต่าง ๆ จึงไม่อนุญาตให้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ใช้แล้วทิ้งหากนั่งทานที่ร้านค่ะ
ดังนั้นถ้านั่งทานที่ร้านก็จะต้องใช้จานหรือแก้วแทน อย่างไรก็ตาม
มยังมีกรณีที่บางคนซื้อกาแฟกลับบ้านแต่ก็ยังคงเข้ามาใช้พื้นที่ในร้าน
หากเป็นกรณีเหล่านี้ พนักงานก็สามารถขอให้ลูกค้าออกจากร้านได้ค่ะ
3. ห้ามนำอาหารข้างนอกเข้ามาทาน
ร้านกาแฟและร้านอาหารส่วนใหญ่ในเกาหลีมักจะมีกฎห้ามนำอาหารจากภายนอกเข้ามาทานในร้านค่ะ
และเนื่องจากคาเฟ่มีทั้งเครื่องดื่มที่หลากหลายและของหวานแสนอร่อย
ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องซื้ออาหารจากภายนอกเข้ามาทานแต่อย่างใดค่ะ
โดยเฉพาะในคาเฟ่ หากทานอาหารที่มีกลิ่นแรง ๆ
ก็ไม่เพียงแต่จะส่งผลกระทบต่อบรรยากาศของคาเฟ่เท่านั้น
แต่ยังส่งผลกระทบต่อแขกคนอื่น ๆ ในร้านอีกด้วยนะคะ
4. ห้ามนำสัตว์เลี้ยงเข้ามาในร้าน
ร้านกาแฟส่วนใหญ่จะไม่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้ามาภายในร้านค่ะ เนื่องจากอาจจะมีแขกที่กลัวสัตว์เลี้ยงด้วย
นอกจากนี้ หากขนของสัตว์เลี้ยงตกใส่อาหารในร้าน ก็อาจส่งผลต่อความปลอดภัยและสุขอนามัยได้เช่นกัน
ดังนั้น หากต้องการพาสัตว์เลี้ยงไปด้วย ก็แนะนำให้ค้นหาคาเฟ่ที่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้ามาได้แทนนะคะ
นอกจากนี้เมื่อเร็ว ๆ นี้ก็เริ่มมีร้านกาแฟที่มีพื้นที่แยกสำหรับสัตว์เลี้ยงมากขึ้น แถมยังมีเมนูสำหรับสัตว์เลี้ยงอีกด้วยค่ะ!
(ตามกฎหมาย สุนัขนำทางสำหรับผู้พิการจะได้รับอนุญาตให้เข้าไปในร้านกาแฟและร้านอาหารทั้งหมด)
5. ระยะเวลาการใช้งานร้านกาแฟ
ในเกาหลีมีร้านกาแฟหลาย ๆ ร้านที่มีการจำกัดเวลาในการใช้บริการค่ะ
ยิ่งถ้าเป็นร้านกาแฟดังและคนเข้าคิวเยอะหรือมีพื้นที่ในร้านค่อนข้างน้อย ก็อาจจะมีการกำหนดเวลาเพิ่มเติมได้ค่ะ
โดยปกติเวลาจำกัดจะอยู่ที่ประมาณ 2 ถึง 3 ชั่วโมง ซึ่งเพียงพอสำหรับการเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศของร้านกาแฟ
แต่ถ้าอยากอยู่ให้นานกว่านี้ ก็สามารถสั่งเครื่องดื่มเพิ่มได้ค่ะ
6. No Kids Zone
แต่ละคาเฟ่ก็มักจะมีบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์ แน่นอนว่าคาเฟ่ที่ต้องการความเงียบสงบก็อาจจะมี No Kids Zone ด้วยค่ะ
ในเกาหลี คาเฟ่ที่มี No Kids Zone ก็อาจเรียกได้ว่าเป็นการเลือกปฏิบัติต่อเด็ก อย่างไรก็ตาม
นี่ก็เป็นสิทธิ์ของเจ้าของร้านสามารถทำได้ค่ะ
ดังนั้นก็อย่าลืมหาข้อมูลล่วงหน้าเกี่ยวกับคาเฟ่ที่ตั้งใจจะไปด้วยนะคะ
นอกจากนี้ยังมี No Zones ในเกาหลีอีกมากมายที่ควรจะต้องให้ความสนใจค่ะ
7. เวลาปิดทำการ
ร้านกาแฟในเกาหลีมักจะเปิดจนถึง 23.00 น. เป็นอย่างต่ำค่ะ
และก่อนการระบาดของโควิด-19 ก็มีร้านกาแฟเปิดตลอด 24 ชั่วโมงด้วย
ถือเป็นสถานที่สำหรับใครก็ตามที่ต้องการอ่านหนังสือทั้งคืน หรือผู้ที่ดื่มจนถึงเช้าและต้องการหาที่นั่งพักผ่อนรอรถบัสคันแรกในตอนเช้ามืดค่ะ
ปัจจุบันก็ยังมีร้านกาแฟที่เปิดให้บริการจนถึงดึกดื่นเช่นกัน
หากมาที่เกาหลี ก็อย่าลืมมาลองสัมผัสประสบการณ์การดื่มกาแฟในตอนกลางคืนและเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์ยามค่ำคืนของกรุงโซลกันนะคะ~
8. การจองที่นั่ง
เวลาไปร้านกาแฟในเกาหลี สิ่งที่ต้องดูแลรักษาให้ดี ๆ
ไม่ใช่ของมีค่าอย่างโทรศัพท์, แล็ปท็อป, หรือกระเป๋าเงินนะคะ แต่เป็น "ที่นั่ง" ต่างหากค่ะ!
คนเกาหลีมักจะวางของเพื่อจองที่นั่งเอาไว้ตลอดเวลาเลยล่ะค่ะ
ทุกครั้งที่ไปร้านกาแฟ สิ่งแรกที่คนเกาหลีจะทำก็คือการวางของในที่นั่งที่ชอบแล้วค่อยไปสั่งเครื่องดื่มทีหลัง
9. การใช้ห้องน้ำ
ถ้าอยู่ในร้านกาแฟแล้วอยากเข้าห้องน้ำต้องทำยังไงดีนะ?
อันที่จริงแล้วคาเฟ่หรือร้านกาแฟในเกาหลีมักจะมีห้องน้ำอยู่แล้วค่ะ เพียงแค่ถามพนักงานก็จะได้ได้รับคำตอบมาอย่างง่ายดาย
นอกจากนี้ก็ยังมีบางร้านที่ต้องใช้กุญแจหรือรหัสผ่านเพื่อเข้าห้องน้ำด้วยนะคะ รวมถึงมีบางร้านที่ทั้งรหัสผ่าน wifi
และรหัสผ่านของห้องน้ำจะถูกระบุไว้ในบิลเครื่องดื่ม ดังนั้นก็ต้องสั่งเครื่องดื่มก่อนถึงจะสามารถใช้ห้องน้ำได้ค่ะ
การทำเช่นนี้สามารถป้องกันไม่ให้บุคคลภายนอกเข้ามาใช้ห้องน้ำในร้าน และยังช่วยให้ห้องน้ำสะอาดอีกด้วยนะะ
10. คนที่มานั่งเรียนในคาเฟ่ (카공족)
ถ้าไปร้านกาแฟแบรนด์ใหญ่ ๆ อย่าง Starbucks ก็จะเจอคนมา "카공족 (คาคงจก)" เยอะเลยล่ะค่ะ
"카공족" เป็นคำที่ใช้เรียกคนที่มานั่งเรียนหรือนั่งอ่านหนังสือในร้านกาแฟค่ะ
หลังจากสั่งเครื่องดื่มแล้วพวกเขาก็จะนั่งเรียนในร้านเป็นเวลานาน
แต่ทุกคนไม่จำเป็นต้องเงียบเพราะมีคนมานั่งเรียนนะคะ เพราะเหล่า 카공족 มาที่ร้านกาแฟก็แค่เพราะไม่อยากอ่านหนังสือในห้องที่คับแคบเท่านั้นเองค่ะ
11. No Study Zone
เนื่องจากมีคนที่มานั่งอ่านหนังสือเรียนที่ร้านกาแฟเป็นจำนวนมาก ทำให้ไม่มีที่นั่งเหลือสำหรับลูกค้าคนอื่น ๆ ค่ะ
นอกจากนี้ ถ้ามีคนมานั่งเรียนอยู่ข้าง ๆ ก็เป็นปกติที่จะต้องถามตัวเองโดยธรรมชาติว่า "เราจำเป็นต้องเงียบมั้ยนะ?"
ดังนั้นจึงมีคาเฟ่ No Study Zone เกิดขึ้นค่ะ เช่น ห้ามใช้แล็ปท็อป, ห้ามเรียนหรืออ่านหนังสือในร้านกาแฟ
ทำให้ลูกค้าคนอื่น ๆ ที่มาที่ร้านสามารถเพลิดเพลินไปกับพื้นที่ได้อย่างเต็มที่มากขึ้นนั่นเอง